โฆษกรัฐบาลเผย เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง แรงส่งจากภาคการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ส่งผลผลบวกต่อการจ้างงาน-รายได้แรงงาน ขณะที่การส่งออกสินค้ามีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป
07 มิ.ย.2566 - นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ในฐานะโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงสภาวะเศรษฐกิจประเทศไทยขณะนี้ว่ายังมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากภาคการท่องเที่ยวโดยเฉพาะจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการส่งออกสินค้าก็มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งล่าสุดข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ระบุว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่องที่ 3.6% และ 3.8% ในปี 2566 และ 2567 ตามลำดับ จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลบวกต่อการจ้างงานและรายได้แรงงาน และเป็นแรงส่งต่อเนื่องไปยังการบริโภคภาคเอกชน ด้านการส่งออกทยอยฟื้นตัวใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ และคาดว่าจะขยายตัวดีขึ้นในระยะต่อไป สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่แม้จะชะลอลงบ้างแต่ยังมีทิศทางขยายตัว นอกจากนี้คณะกรรมการฯ ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีโอกาสขยายตัวสูงกว่าที่ประเมินไว้ ซึ่งส่วนหนึ่งจากนโยบายเศรษฐกิจของภาครัฐ
ขณะที่ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับลดลงกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมาย และคาดว่าจะอยู่ที่ 2.5% และ 2.4% ในปี 2566 และ 2567 ตามลำดับ แต่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังทรงตัวในระดับสูงอยู่ที่ 2% ในปี 2566 และ 2567 ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อยังมีความเสี่ยงจากแรงกดดันด้านอุปสงค์ในบริบทที่เศรษฐกิจขยายตัวดี ส่วนระบบการเงินโดยรวมมีเสถียรภาพ เนื่องจากธนาคารพาณิชย์มีระดับเงินกองทุนและเงินสำรองที่เข้มแข็ง ด้านความสามารถในการชำระหนี้ของภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนปรับดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แต่ฐานะการเงินของผู้ประกอบการ SMEs และครัวเรือนบางส่วนยังเปราะบางและอ่อนไหวต่อค่าครองชีพและภาระหนี้ที่สูงขึ้น ซึ่งคณะกรรมการฯ ได้เห็นควรดำเนินมาตรการปรับโครงสร้างหนี้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเห็นความสำคัญของการมีมาตรการเฉพาะจุดและแนวทางแก้ปัญหาหนี้อย่างยั่งยืนสำหรับกลุ่มเปราะบาง
“เศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่องเกิดจากความร่วมมือของประชาชนทุกภาคส่วน และส่วนหนึ่งมาจากนโยบายเศรษฐกิจของภาครัฐด้านต่างๆ รวมทั้งการส่งเสริมสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวในประเทศไทยอย่างจริงจังต่อเนื่องของรัฐบาลปัจจุบันและ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ให้ความสำคัญในการนำศักยภาพด้านต่าง ๆ ที่ไทยมีทั้งความหลากหลายทางชีวภาพ ทางทรัพยากรธรรมชาติ อาหาร ศิลปะ วัฒนธรรม การดำรงชีวิตที่มีเอกลักษณ์ในแต่ละท้องถิ่น ซึ่งเป็น Soft Power หรืออำนาจแห่งความสร้างสรรค์ที่สำคัญและโดดเด่นของไทย มาขับเคลื่อนเพื่อสร้างเศรษฐกิจไทยจนส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีย้ำว่าแม้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง รวมถึงอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มทยอยปรับลดลงและระบบการเงินโดยรวมของประเทศมีเสถียรภาพที่เข้มแข็ง แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังต้องมีการติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจและการดำเนินนโยบายการเงินของประเทศเศรษฐกิจหลักที่ยังมีความไม่แน่นอน อย่างต่อเนื่องใกล้ชิด เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือและปรับการดำเนินการต่าง ๆ ให้สอดคล้องและทันต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายอนุชากล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ครม.เคาะแพ็กเกจใหญ่ช่วยเหลือ 'ลูกหนี้รายย่อย-เอสเอ็มอี'
ครม. อนุมัติชุดใหญ่! จัดมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ ผู้ประกอบการ SMEs มั่นใจเศรษฐกิจไทยฟื้นแน่
นายกฯ อิ๊งค์ลั่นกลาง ครม.พร้อมลงภาคใต้แต่ไม่รู้เมื่อไหร่!
นายกฯ แจ้งที่ประชุม ครม. พร้อมลงภาคใต้ ขอ ศปช.ส่วนหน้าสรุปแผนแก้ไขน้ำท่วมอย่างเป็นระบบ ทั้งระยะสั้น-ระยะยาว เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก
รัฐบาลตีปี๊บแถลงผลงาน 90 วัน 12 ธ.ค. มั่นใจประเทศไทยไปได้สวย
รัฐบาลแถลงผลงาน 90 วัน “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง“ พฤหัสนี้ มั่นใจประเทศไทยไปได้สวย หลังพบทุกมิติของประเทศคึกคัก คาดจีดีพีปีหน้าเติบโตสู้ประเทศในอาเซียนได้แน่
รัฐบาลพร้อมรับ 4 คนไทยกลับบ้าน เช็กสุขภาพ-เยียวยาจิตใจทันที
นายกฯ รับรายงานพร้อมรับ 4 คนไทยกลับบ้าน ด้าน สธ. เตรียมทีมดูแลสุขภาพกาย-จิตใจ ทันทีที่เหยียบแผ่นดินไทย
รัฐบาลชวนชมริ้วขบวนอัญเชิญ 'พระเขี้ยวแก้ว' จากดอนเมืองมาสนามหลวง
รัฐบาล เชิญชวนชมริ้วขบวนอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วจากดอนเมือง มาประดิษฐาน มณฑลพิธีท้องสนามหลวง พร้อมเปิดสักการะ 5 ธ.ค.2567 - 14 ก.พ.2568