ปลื้ม! ธนาคารโลก ประเมินไทยออกมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19 ได้เหมาะสม

โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ ยินดีรายงานจากธนาคารโลก ประเมินไทยออกมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังสถานการณ์โควิด-19 ได้เหมาะสม พร้อมติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด รวมถึงดำเนินนโยบายให้สอดคล้องกับสถานการณ์

9 มิ.ย.2566- นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบรายงานและข้อเสนอจากธนาคารโลก (World Bank) พร้อมยินดีที่ธนาคารโลกมองว่า นโยบายการคลังในช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของไทย มีความสมเหตุสมผล และดำเนินนโยบายที่ส่งเสริมให้เศรษฐกิจขยายตัว

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า กระทรวงการคลังได้เปิดเผยรายงาน “การประเมินรายได้และรายจ่ายภาครัฐของประเทศไทย : การส่งเสริมอนาคตที่ทั่วถึงและยั่งยืน” (Thailand Public Revenue and Spending Assessment Promoting an Inclusive and Sustainable Future) จัดทำโดยธนาคารโลก ระบุว่า ประเทศไทยเผชิญกับความท้าทายจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งมีการใช้มาตรการจำกัดการเดินทาง ทำให้ส่งผลต่อภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจเกิดการหดตัว อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2565 ประเทศไทยสามารถกลับมาฟื้นฟูเศรษฐกิจให้เทียบเท่ากับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดฯ

นอกจากนี้ ธนาคารโลกยังระบุว่า มาตรการทางการเงินและการคลังของไทย มีส่วนทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ดีกว่า เมื่อเทียบกับประเทศส่วนใหญ่ในภูมิภาค โดยไทยดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 1.56 ล้านล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในส่วนที่สำคัญหลัก ๆ 3 เรื่อง ได้แก่ การใช้จ่ายทางด้านสาธารณสุข การบรรเทาภาระทางการเงินให้แก่ประชาชน และการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ธนาคารโลกมองว่า การดำเนินนโยบายและมาตรการของรัฐบาลในการช่วยเหลือภาคเอกชน กลุ่มธุรกิจ SME กลุ่มเปราะบาง แรงงานนอกระบบ และเกษตรกร รวมถึงการนำงบประมาณมาใช้จ่ายในมาตรการทางด้านสาธารณสุข เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัว

อย่างไรก็ดี ธนาคารโลกเสนอว่า รัฐบาลควรเตรียมรับมือภาระทางการคลังที่เกิดจากการใช้จ่ายที่จำเป็น และในระยะยาว ควรนำงบประมาณไปใช้จ่ายในการช่วยเหลือทางสังคมแก่กลุ่มเปราะบางมากขึ้น พัฒนาคุณภาพการศึกษา เตรียมการรับมือกับการเพิ่มสูงขึ้นของผู้สูงวัย และสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งการลงทุนในด้านเหล่านี้ จะที่ทำให้เกิดการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การลดความเหลื่อมล้ำ และเกิดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ รัฐบาลจะต้องดำเนินนโยบายบริหารหนี้สาธารณะอย่างยั่งยืน รวมถึงการปรับปรุงการจัดเก็บรายได้ภาครัฐ ผ่านการปฏิรูประบบภาษี ปรับปรุงอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม ขยายฐานภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และการจัดเก็บภาษีทรัพย์สิน

“นายกรัฐมนตรียินดีที่ธนาคารโลกประเมินการดำเนินนโยบายของไทยในการกระตุ้นเศรษฐกิจภายหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีความเหมาะสม ซึ่งการดำเนินนโยบายและมาตรการต่าง ๆ มุ่งนำไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ บรรเทาภาระของประชาชน และเตรียมการรับมือกับภัยทางด้านสาธารณสุข ทั้งนี้ รัฐบาลรับฟังข้อเสนอของธนาคารโลก และติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด รวมทั้งประเมินและพร้อมปรับปรุงนโยบายและมาตรการเพื่อการพัฒนาประเทศต่อไป” นายอนุชา กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ทิพานัน' โชว์ยุคประยุทธ์ดัน 'แลนด์บริดจ์ไทย' เปลี่ยนทิศทางขนส่งของโลก

“ทิพานัน” โชว์ยุคประยุทธ์ ดัน “แลนด์บริดจ์ไทย เปลี่ยนทิศการขนส่งโลกมาไทย” หวังอนาคตรองรับเรือขนส่ง 400,000 ลำต่อปี เชื่อประชาชนในพื้นที่ร่วมแสดงความเห็น 16-18ส.ค. นี้ร่วมกัน

รัฐบาลส่งเสริมศักยภาพอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ไทย

รัฐบาลส่งเสริมศักยภาพอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ไทย สร้างเครือข่ายพันธมิตร จับคู่ทางธุรกิจ ผ่านงาน TILOG-LogistiX 2023 โชว์นวัตกรรมใหม่ด้านโลจิสติกส์กว่า 415 แบรนด์ จาก 25 ประเทศทั่วโลก

นายกฯยินดี 'องค์การนาซา' เชื่อมั่นผลิตภัณฑ์อาหารเนื้อไก่ของไทย ให้เป็นอาหารนักบินอวกาศ

นายกฯ ยินดี องค์การนาซา เชื่อมั่นผลิตภัณฑ์อาหารเนื้อไก่ของไทย พิจารณาให้เป็นอาหารสำหรับนักบินอวกาศ สร้างความภาคภูมิใจให้สินค้าไทย สู่นวัตกรรมอาหารระดับอวกาศ

นายกฯ ติดตามพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม-แล้ง ล่วงหน้า 6 เดือน พร้อมรับมือสถานการณ์ได้ทันท่วงที

นายกฯ ติดตามประเมินวิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม-แล้ง ล่วงหน้า 6 เดือน ตามปริมาณฝนคาดการณ์ ONE MAP ย้ำประชาชนติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ได้ทันท่วงที

แผนพัฒนาท่าเรือสำราญขนาดใหญ่ ครอบคลุมเส้นทางฝั่งอันดามัน-อ่าวไทยคืบหน้า

นายกฯ ยินดีแผนพัฒนาท่าเรือสำราญขนาดใหญ่ ครอบคลุมเส้นทางเดินเรือฝั่งอันดามันและอ่าวไทยคืบหน้า คาดเปิดใช้งานได้ภายในปี 2571 สนับสนุนการท่องเที่ยวเรือสำราญ กระตุ้นเศรษฐกิจ และเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ