'กรุงไทย' ชี้ตลาดซาอุฯมาแรงคาด 7 ปี ส่งออก-ท่องเที่ยวสุดบูม

“กรุงไทย” ชี้โอกาสธุรกิจไทยในซาอุดิอาระเบียบูม อานิสงส์ฟื้นความสัมพันธ์และแผน Saudi Vision 2030 หนุน 7 ปีหน้าส่งออกโต 1.2 แสนล้าน นักท่องเที่ยวซาอุฯ พุ่ง 2 แสนคน สร้างรายได้ 3.29 หมื่นล้านบาท

9 มิ.ย. 2566 – นายฉมาดนัย มากนวล ผู้อำนวยการฝ่าย Business Risk and Macro Research ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า สัมพันธภาพที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นระหว่างไทยและซาอุดิอาระเบีย เป็นปัจจัยเสริมสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้ทั้งสองประเทศ โดยการส่งออกสินค้าของไทยไปซาอุดิอาระเบียและจำนวนนักท่องเที่ยวจากซาอุดิอาระเบีย กลับมาเติบโตแบบก้าวกระโดดหลังฟื้นความสัมพันธ์ ขณะที่ภาครัฐและภาคเอกชนได้กระชับความร่วมมือทางธุรกิจ หนุนเศรษฐกิจไทยให้มีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากแผนปฏิรูปประเทศของซาอุดิอาระเบีย หรือ Saudi Vision 2030 ที่มีเป้าหมายเพิ่มมูลค่าจีดีพีเป็น 2 เท่า ภายในปี 2573 (เทียบจากปี 2559) ปัจจัยหลักมาจากการลงทุนที่ไม่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน (Non-oil economy) มูลค่ากว่า 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ช่วยสร้างงานใหม่ถึง 6 ล้านตำแหน่ง ถือเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง เป็นโอกาสสำหรับการส่งออกสินค้า และการดึงดูดนักท่องเที่ยวซาอุดิอาระเบียมาไทย

ขณะที่ ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS คาดการณ์ว่า จากการฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและ Saudi Vision 2030 จะช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นถึง 57,018 ล้านบาท คิดเป็น 0.21% ของจีดีพี โดยมูลค่าการส่งออกของไทยไปยังซาอุดิอาระเบียในปี 2573 มีโอกาสสูงถึง 1.2 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า จากปี 2562 ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19และคาดว่านักท่องเที่ยวซาอุดิอาระเบียจะมีโอกาสแตะ 2 แสนคนในอีก 7 ปีข้างหน้า สร้างรายได้ให้กับภาคการท่องเที่ยวไทยราว 32,900 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 10 เท่าจากช่วงก่อนเกิดโควิด-19ซึ่งปัจจัยดังกล่าวยังจะช่วยหนุนการเติบโตของจีดีพีตามศักยภาพในระยะยาวอีกด้วย

ทั้งนี้ ปัจจัยบวกจากการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูตและแรงหนุนจากนโยบาย Saudi Vision 2030 จะสร้างโอกาสแก่ผู้ประกอบการ 3 ด้านหลัก ๆ ได้แก่ 1.โอกาสทางการค้า โดยการส่งออกไปซาอุดิอาระเบียเติบโตแบบก้าวกระโดดหลังฟื้นความสัมพันธ์ และมีโอกาสเติบโตมากขึ้นในระยะข้างหน้า โดยเฉพาะสินค้าที่มีศักยภาพสูง โดยมองว่า สินค้าไทยที่เป็น Rising Star ในตลาดซาอุดิอาระเบีย ได้แก่ สินค้าในกลุ่มอาหาร เช่น อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผักและผลไม้กระป๋องและแปรรูป เครื่องดื่ม สิ่งปรุงรสอาหาร ไก่ และอาหารสัตว์เลี้ยง ซึ่งกลุ่มนี้มีส่วนแบ่งตลาดในซาอุฯ ไม่มากนัก จึงมีโอกาสในการช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดคืน อีกทั้งเป็นสินค้าที่สอดรับกับเมกะเทรนด์ด้านความมั่นคงทางอาหารของซาอุฯ สินค้าในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง เช่น ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ เหล็ก และปูนซีเมนต์ สินค้ากลุ่มเครื่องสำอาง และสินค้ากลุ่มรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ

2.โอกาสของธุรกิจภาคบริการ ประเมินว่าธุรกิจท่องเที่ยว Healthcare และอสังหาริมทรัพย์ จะได้รับอานิสงส์จากแนวโน้มการเติบโตของลูกค้าชาวซาอุฯ ซึ่งมีจุดเด่นในด้านการจับจ่ายใช้สอยสูงและมีระยะเวลาพำนักในไทยยาวกว่านักท่องเที่ยวกลุ่มอื่น 3.โอกาสการลงทุน คาดการณ์ว่าจากแผนการส่งเสริมการลงทุนของทางการและภาคเอกชน จะดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากซาอุฯ ได้ประมาณ 3–6 แสนล้านบาท ขณะเดียวกันผู้ประกอบการไทย ยังมีโอกาสไปลงทุนในซาอุฯ จากอานิสงส์นโยบายเปิดรับนักลงทุนต่างชาติภายใต้ Saudi Vision 2030 โดยมีอุตสาหกรรมเป้าหมายคือ อุตสาหกรรมสุขภาพและการแพทย์ อาหารแปรรูป ก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ ท่องเที่ยว และยานยนต์ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ไทยมีความสามารถในการแข่งขัน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กรุงไทย คว้า 67 รางวัลแห่งความสำเร็จ ปักธงผู้นำนวัตกรรม เดินหน้าสู่ความยั่งยืน

นับเป็นการสร้างสถิติครั้งสำคัญสำหรับธนาคารกรุงไทย ธนาคารพาณิชย์ชั้นนำระดับประเทศ ที่เป็นมากกว่าธนาคารและอยู่เคียงข้างคนไทยมาเกือบ 6 ทศวรรษ

โค้งสุดท้าย! ลดหย่อนภาษีสุดคุ้ม กับ “Krungthai Tax Festival” คัดโปรเด็ด “ประกัน-กองทุน” วันนี้ถึงสิ้นปี 2566

ธนาคารกรุงไทย ในฐานะธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของประเทศ มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกมิติ จัดแคมเปญ

หนาวทั้งบาง! ดร.นงนุชเผยผู้ผลิตรถ EV จำนวนมากกำลังล้มละลาย

ดร.นงนุชเผยผู้ผลิตรถ EV ในจีนกำลังล้มละลาย คาดจะส่งส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตอื่นๆ และอาจกระทบถึงแผนการพัฒนาธุรกิจภายในเขตอีอีซีที่ตั้งความหวังว่าผู้ผลิตจากจีนจะมาสร้างฐานการผลิตในไทย