ยื่น ป.ป.ช.เอาผิด 'อดีตรักษาการ ผอ.อคส.' เอื้อเอกชน

อคส.เผยได้ยื่น ป.ป.ช. ตรวจสอบและเอาผิด “อดีตรักษาการ ผอ.อคส.” ปี 63 ออกเกณฑ์เอื้อประโยชน์เอกชน ที่ถูก อคส. ดำเนินคดีอาญา-แพ่ง ฐานยักยอกมันในโครงการรับจำนำ 3 ปีซ้อน จำนวน 3 หมื่นตัน แอบเอาของมาคืนจนครบ แต่เป็นมันราคาถูก ทำราคาหายไปกว่า 50 เท่า สุดท้ายเปิดประมูลขายได้แค่ 6 ล้านบาท จากความเสียหายรวมค่าปรับกว่า 1 พันล้านบาท

19 มิ.ย. 2566 – นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า อคส. ได้ยื่นเรื่องต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สืบสวนสอบสวน กรณีที่อดีตรักษาการผู้อำนวยการอคส. ในช่วงปี 2563 ออกหลักเกณฑ์เอื้อประโยชน์ทางการชดใช้ความเสียหายและทางคดี ให้ผู้ประกอบการลานมันสำปะหลัง ที่มีคดียักยอกมันสำปะหลังในโครงการรับจำนำมัน ปี 2551/52, ปี 2554/55 และปี 2555/56 รวมกว่า 30,000 ตัน คิดเป็นมูลค่าที่ อคส. เสียหายเฉพาะมัน 30,000 ตัน กว่า 210 ล้านบาท หากรวมความเสียหายอื่น ๆ และค่าปรับแล้ว จะมียอดเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท

“การออกหลักเกณฑ์เอื้อประโยชน์ให้ลานมัน คณะกรรมการสืบสวนของ อคส. ได้ตรวจสอบพบว่ามีเหตุอันควรสงสัยว่าอดีตรักษาการผู้อำนวยการรายนี้ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และทำให้รัฐเสียหาย เพราะได้กำหนดหลักเกณฑ์โดยมิชอบ เป็นการเปิดโอกาสให้ลานมัน ที่ยักยอกมันออกกจากคลังที่ฝากเก็บ นำมันราคาถูกตันละไม่เกิน 200 บาท มาคืนแทนมันที่รับจำนำมาตันละกว่า 7,000 บาท ทำให้ราคาที่รัฐได้รับการชดใช้น้อยลงจากราคาเดิมกว่า 50 เท่า”นายเกรียงศักย์กล่าว

นอกจากนี้ การดำเนินการดังกล่าว ยังเป็นเหตุให้ลานมันนำมาอ้างเป็นประเด็นต่อสู้ทางคดีกับ อคส. และนำมาร้องเรียนผู้บริหารปัจจุบันว่าลานมันไม่ได้ยักยอกมันออกจากคลังเก็บ และต่อสู้คดีกับ อคส. ซึ่งหาก อคส. แพ้คดี นอกจากจะไม่สามารถเรียกให้ผู้ยักยอกชดใช้ความเสียหายได้แล้ว อคส. อาจต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนต่าง ๆ รวมทั้งค่าฝากเก็บระหว่างที่มันหายไปประมาณ 5 ปี ให้กับผู้ยักยอกด้วย

สำหรับกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงปี 2563 อดีตรักษาผู้อำนวยการ อคส. รายนี้ ได้พยายามช่วยเหลือลานมันที่ อคส. ฝากเก็บมันจากโครงการรับจำนำและทำมันหายไปรวม 30,000 ตัน เพื่อให้ลานมันนำมันมาคืนได้ครบตามจำนวนที่หายไป จากก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2557 คณะกรรมการสายตรวจเฉพาะกิจ ประกอบด้วย อคส. กรมการค้าภายใน กรมการค้าต่างประเทศ และมีเจ้าของคลัง ได้ตรวจนับสินค้าในคลัง และพบว่า มันหายไปจากคลังเก็บ 12 แห่ง รวม 30,000 ตัน ความเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท ทำให้ อคส. ต้องฟ้องร้องดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญา รวมถึงไม่จ่ายค่าฝากเก็บให้ลานมันด้วยรวมเวลาประมาณ 5 ปี

สำหรับการออกหลักเกณฑ์ช่วยเหลือลานมันในปี 2563 นั้น ส่งผลให้ผู้ที่ยักยอกมันออกจากคลังเก็บ นำมาคืนในภายหลังจนครบทั้ง 12 คลัง เพื่อยุติคดีอาญา แต่เป็นการนำมันราคาถูกตันละไม่เกิน 200 บาทมาคืน ขณะที่มันในคลังเก็บ รับจำนำมาตันละประมาณ 7,000 บาท ทำให้มูลค่ามันของรัฐน้อยลงจากราคารับจำนำกว่า 50 เท่า ซึ่งคณะกรรมการสืบสวนของ อคส. เห็นว่า การนำมันราคาถูกมาคืนแทน อาจนำมาซึ่งการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ และการถอนคดี ซึ่งสอดคล้องกับการตรวจสอบของคณะกรรมการสืบสวนของ อคส. ที่พบว่า เจ้าของคลัง 6 แห่ง จาก 12 แห่ง ยอมรับว่าเอามันออกไปและนำมาคืนจริง และ อคส. ในยุคอดีตรักษาการผู้อำนวยการได้ถอนคำร้องทุกข์ไป 5 เรื่อง เหลือ 1 เรื่อง ส่วนมันที่นำมาคืนครบนั้น ภายหลัง อคส. นำมาเปิดประมูลขายได้ไม่ถึง 6 ล้านบาท

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ราเมศ' ย้ำจุดยืนประชาธิปัตย์ ไม่นิรโทษกรรมคดีทุจริต-ม.112

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงนายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพ.ร.บ.นิรโทษกรรม สภาฯ ออกมาระบุถึงมูลเหตุความขัดแย้งทาง

'หมอวรงค์' เปิดใจ! ทำไมต้องมี 'พรรคไทยภักดี'

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ทำไมต้องมีพรรคไทยภักดี คำถามที่หลายคนต้องการคำตอบ เพื่อความชัดเจนว่า ทำไมต้องมีพรรคไทยภักดี ตั้งใจอ่านให้จบนะครับ

จ้องงาบ 'เมกะโปรเจกต์' มีหนาว! สตง. เปิดสำนักใหม่สอบโครงการยักษ์

คิดงาบ 'เมกะโปรเจกต์' หนาวแน่! 'สตง.' ติดเขี้ยวเล็บ เปิดสำนักตรวจสอบโครงการขนาดใหญ่ ประเดิมรถไฟฟ้าสายสีส้ม-ดิจิทัลวอลเล็ต

'สว.ตัวตึง' เหนื่อยใจ 'ทักษิณ' ตัวปัญหา 'เศรษฐา' แค่ดาวอับแสง

'กิตติศักดิ์' ลั่นเหนื่อยใจ 'ทักษิณ' ทำผิดทุจริต แต่ไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ชี้ดีชั่วใจตัวรู้ เหมือนตกนรกทั้งเป็น แขวะไทยมีนายกฯ มากกว่า 2 คน 'เศรษฐา' กลายเป็นดาวที่ไร้แสง