องค์กรนายจ้างชี้เศรษฐกิจนิ่ง คาดทั้งปีโต 2% ส่งออก - การเมือง - แล้งซ้ำเติม

สภาองค์การนายจ้างฯ คาดเศรษฐกิจครึ่งปีหลังยังคงทรง โตไม่เกิน 2.1% ยอมรับส่งออกไม่ใช่พระเอก ไทยยังต้องพึ่งพาท่องเที่ยว เผยเอกชนกังวลปัจจัยซ้ำเติมทั้งการเมือง และปัญหาภัยแล้ง

20 มิ.ย.2566 – นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจครึ่งปีหลังของไทยภาพรวมยังคงทรงตัวตามทิศทางเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยซึ่งมีผลต่อการส่งออกของไทยสะท้อนจากมูลค่าการส่งออกเดือนเม.ย.66 ติดลบ 7.6% ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ขณะเดียวกันยังมีตัวแปรจากความเสี่ยงที่จะเป็นปัจจัยเพิ่มเข้ามาจากการที่ไทยอาจจัดตั้งรัฐบาลล่าช้า รวมถึงปัญหาภัยแล้งที่จะกดดันต่อผลผลิตภาคเกษตรของไทยในแง่ปริมาณที่ลดลงซึ่งจะกระทบต่อราคาสินค้าเกษตรที่ประชาชนบริโภคโดยตรงและวัตถุดิบอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปให้มีต้นทุนเพิ่ม

“เศรษฐกิจโลกปีนี้เติบโตไม่เกิน 2.1% จากปีก่อน แม้แต่เศรษฐกิจจีนเองยังฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดไว้ทำให้ความต้องการสินค้าจากทั่วโลกลดลง กระทบต่อส่งออกของไทยในปีนี้จะชะลอตัวลง” นายธนิต กล่าว

อย่างไรก็ตามการส่งออกปีนี้คงไม่ใช่กลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจแต่การท่องเที่ยวจะมีส่วนสำคัญหลังจากในช่วงที่ผ่านมาโดยเฉพาะการระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้ท่องเที่ยวเป็นเครื่องยนต์ที่ดับสนิทแต่เริ่มมีการทยอยฟื้นตัวต่อเนื่องและคาดว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาราว 30-35 ล้านคนทำให้อุตสาหกรรมต่อเนื่องกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง ขณะที่ตลาดในประเทศเองต้องยอมรับว่าแรงซื้อของคนไทยยังคงต่ำจากภาวะค่าครองชีพที่สูงขึ้นทำให้หนี้ภาคครัวเรือนอยู่ระดับประมาณ 15 ล้านล้านบาทซึ่งถือเป็นอัตราที่สูงและบั่นทอนเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า

นายธนิต กล่าวว่า สิ่งที่กังวลที่เป็นปัจจัยแทรกซ้อนคือการจัดตั้งรัฐบาลที่ยังคงไม่มีทิศทางชัดเจนว่าจะเป็นไปไทม์ไลน์หรือไม่เพราะหากยิ่งช้าออกไปเท่าใดก็จะกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติแล้วยังรวมถึงการจัดทำงบประมาณปี 2567 จะล่าช้ากระทบต่อเม็ดเงินในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันปัญหาภัยแล้งที่ไทยเผชิญหน้ากับภัยแล้งหรือ เอลนีโญ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในครึ่งปีหลังปีนี้และยาวไปถึงปี 2568-69 ซึ่งขณะนี้เริ่มเห็นแนวโน้มกระทบต่อผลผลิตภาคเกษตรหลายรายการแล้ว และราคาอาหารจะเพิ่มสูงขึ้น

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ส่งออกไทยบวก 4 เดือนติดลุ้นทั้งปีติดลบน้อยกว่า 1.5% 

“พาณิชย์”เผยส่งออก พ.ย.66 มีมูลค่า 23,479.7 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 4.9% บวกต่อเนื่อง 4 เดือนติด โดยสินค้าเกษตร เพิ่ม 7.7% อุตสาหกรรมเกษตร เพิ่ม 1.7% และสินค้าอุตสาหกรรม เพิ่ม 3.4% ส่วนยอดรวม 11 เดือน เหลือติดลบ 1.5% คาดเดือน ธ.ค. ยังส่งออกได้ดี มีลุ้นทั้งปีติดลบน้อยกว่า 1.5% แน่นอน อาจจะลบ 1% หรือต่ำกว่าก็ได้

พาณิชย์เผยยอดใช้สิทธิ FTA  7 เดือนมูลค่า 4.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

กรมการค้าต่างประเทศเผยตัวเลขการใช้สิทธิประโยชน์จากความตกลง FTA ในเดือนมกราคม – กรกฎาคม ของปี 2566 มีมูลค่ารวม 46,183.48 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับอาเซียนยังครองแชมป์ตลาดที่มีการใช้สิทธิฯ ส่งออกมากที่สุด ตามติดมาด้วยอาเซียน-จีน ไทย-ญี่ปุ่น ไทย-ออสเตรเลีย อาเซียน-อินเดีย และภายใต้ RCEP มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ รวม 810.35 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศแนะผู้ส่งออกไทยใช้ประโยชน์จาก FTA เป็นเครื่องมือสร้างแต้มต่อทางการค้า