“แบงก์ชาติ” รับมิจฉาชีพดิ้นปรับกลอุบาย พัฒนาเครื่องมือ False Base Station หลอกดูดเงิน ชี้ พ.ค. ยอดสูญ 200 ล้านบาท มั่นใจอายัดบัญชีม้าได้เพิ่มขึ้น หลังกฎหมายปลดล็อกแลกเปลี่ยนข้อมูล ย้ำธนาคารเลิกส่ง SMS ถาวร แนะประชาชนตั้งสติก่อนถูกหลอกลวง
13 ก.ค. 2566 – นางสาวสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงคววามคืบหน้าการดำเนินการตามมาตรการจัดการภัยทุจริตทางการเงิน ว่า ตามที่ ธปท. ได้ออกมาตรการจัดการภัยทุจริตทางการเงิน เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 2566 เพื่อเป็นแนวปฏิบัติขั้นต่ำให้สถาบันการเงินทุกแห่งปฏิบัติตามเป็นมาตรฐานเดียวกันนั้น ขณะนี้สถาบันการเงินทุกแห่งได้ดำเนินการตามกรอบเวลาที่กำหนด และมีความคืบหน้าไปตามแผน
สำหรับ 1. มาตรการป้องกัน หลายมาตรการสถาบันการเงินทุกแห่งดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว ได้แก่ การยกเลิกแนบลิงก์
ทุกประเภทผ่าน SMS อีเมล และการยกเลิกแนบลิงก์ขอข้อมูลสำคัญผ่านโซเชียลมีเดีย เป็นต้นซึ่งหลายมาตรการสถาบันการเงินส่วนใหญ่ดำเนินการแล้ว และจะเสร็จทุกแห่งภายในสิ้นปี 2566 ได้แก่ การแจ้งเตือนผู้ใช้บริการ mobile banking ก่อนทำธุรกรรมทุกครั้ง การกำหนดเพดานวงเงินถอน/โอนสูงสุดต่อวัน ยืนยันตัวตนขั้นต่ำด้วยbiometrics โดยการสแกนใบหน้าก่อนโอนเงินมากกว่า 50,000 บาทต่อครั้ง หรือ 200,000 บาทต่อวัน หรือปรับเพิ่มวงเงินทำธุรกรรมต่อวันเป็นตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป
2.มาตรการตรวจจับ โดยสถาบันการเงินทุกแห่งเริ่มดำเนินการแล้วในการกำหนดเงื่อนไขการตรวจจับและติดตามธุรกรรมที่เข้าข่ายผิดปกติ หรือกระทำความผิด และรายงานไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)ขณะที่ระบบตรวจจับและติดตามบัญชีหรือธุรกรรมต้องสงสัยแบบทันทีเพื่อให้การระงับธุรกรรมเป็นการชั่วคราวเมื่อตรวจพบทำได้เร็วขึ้น อยู่ระหว่างการพัฒนา ซึ่งจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2566 และ 3. มาตรการตอบสนองและรับมือ โดยสถาบันการเงินทุกแห่งจัดให้มีช่องทางติดต่อเร่งด่วน (hotline) ตลอด 24ชั่วโมง แยกจากช่องทางให้บริการปกติ เพื่อให้ผู้ใช้บริการแจ้งเหตุได้เร็ว รวมทั้งดูแลผู้ใช้บริการที่ได้รับผลกระทบ
นอกจากนี้ ธปท. ยังได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส),สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ), สำนักงาน ปปง., สำนักงาน กสทช. และสมาคมธนาคารไทย ผลักดันการดำเนินการให้สอดคล้องตาม พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566โดยภาคธนาคารได้ยกระดับให้สถาบบันการเงินมีกระบวนการรับแจ้งเหตุ 24 ชั่วโมง และระงับธุรกรรมชั่วคราวไว้ 72 ชั่วโมง เพื่อช่วยตัดตอนเส้นทางการเงิน รวมทั้งมีกระบวนการและพัฒนาระบบกลางแลกเปลี่ยนข้อมูลบัญชีและธุรกรรมที่ต้องสงสัยระหว่างสถาบันการเงินด้วยกัน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยลดความเสียหายต่อทรัพย์สินประชาชน และช่วยจัดการบัญชีม้า โดยในส่วนของกระบวนการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันยังคงร่วมกันเร่งพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การจัดการปัญหาทำได้เร็วยิ่งขึ้น
“ธปท. จะติดตามและประเมินผลของมาตรการต่าง ๆ เพื่อพิจารณาความเหมาะสมและความเพียงพอของมาตรการต่อการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของภัยการเงินที่มีการพัฒนาต่อไป ซึ่งเรื่องนี้ต้องบูรณาการความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งความร่วมมือของประชาชนไม่คลิกลิงก์ที่ไม่น่าเชื่อถือ หลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลทางการเงิน อัปเดตระบบปฏิบัติการและแอปพลิเคชัน mobile banking ให้ล่าสุดอยู่เสมอ หรือไม่ดาวน์โหลดโปรแกรมนอกเหนือจากแหล่งที่ได้รับการควบคุมและรับรองความปลอดภัยจากผู้พัฒนา ไม่ใช้โทรศัพท์ที่ไม่ปลอดภัยทำธุรกรรมทางการเงิน ซึ่งจะเป็นอีกหัวใจสำคัญในการป้องกันภัยได้อย่างยั่งยืน” นางสาวสิริธิดา กล่าว
นายภิญโญ ตรีเพชราภรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายกำกับและตรวจสอบความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ธปท. กล่าวว่า สถานการณ์ภัยทุจริตทางการเงินในช่วงไตรมาส 1/2566 พบว่า ความเสียหายจากแอปดูดเงินเริ่มลดลง และเริ่มทรงตัวขึ้นในช่วงเดือน เม.ย. ความเสียหายอยู่ที่ 116 ล้านบาท และเดือน พ.ค. อยู่ที่ 200 ล้านบาท ส่วนในเดือน มิ.ย. อยู่ที่ 173 ล้านบาท เนื่องจากมิจฉาชีพมีการปรับกลอุบายใหม่ ใช้เครื่องมือ/เทคโนโลยีใหม่มาช่วย เช่น หลอกเป็นหน่วยงานราชการ, คนรู้จัก หรือหรอกให้ลงทุน, ส่ง SMS ผ่านเสาสัญญาณมือถือปลอม (False Base Station) หรือที่เรียกว่าปลากระเบน และพัฒนาแอปดูดเงินหลบหลีกระบบตรวจจับของธนาคาร ขณะที่การดำเนินการอายัดบัญชีม้า พบว่า สามารถอัดยัดบัญชีม้าได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังจากที่ ธปท. ออกมาตรการดังกล่าว โดยในเดือน มี.ค. อายัดได้ 5 พันบัญชี เดือนเม.ย. เพิ่มเป็น 6 พันบัญชี และในเดือน พ.ค. เพิ่มขึ้นเป็น 9 พันบัญชี
“เชื่อว่าการอายัดบัญชีม้าในอนาคตจะมีมากขึ้น ส่วนหนึ่งจากกระบวนการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงาน โดยข้อมูลจะถูกส่งไปที่ ปปง. เมื่อมีการยืนยันว่าเป็นบัญชีม้า ข้อมูลก็จะถูกส่งกลับมาที่สถาบันการเงิน ซึ่งก็ต้องมาดูในฐานลูกค้าว่าหากเข้าตามข้อมูลที่ ปปง. ส่งมาก็ต้องดำเนินการระงับบัญชีหรือธุรกรรม ส่วนการป้องกันการเปิดบัญชีม้าสำหรับเยาวชนนั้น ผู้เปิดบัญชีต้องเดินทางไปด้วยตัวเองเพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเจ้าของบัญชีตัวจริง และจะมีการกำหนดวงเงินธุรกรรมต่อวันสำหรับอายุต่ำกว่า 15 ปี โดยธุรกรรมออนไลน์ไม่เกิน 5 หมื่นบาทต่อวัน เพื่อลดโอกาสที่คนร้ายจะหลอกให้เด็กขายบัญชี ส่วนการส่งลิงก์หลอกลวงทางแอปพลิเคชันไลน์นั้น สิ่งที่ทำได้คือการปิดลิงก์ให้เร็วที่สุด ตรงนี้สถาบันการเงิน ดีอีเอส และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการจัดตั้งคณะทำงาน รวมถึงมีการประสานงานกับทางไลน์ด้วย หากกระบวนการเร่งด่วนในการระงับลิงก์ทำได้ทันทีที่ตรวจพบก็สามารถป้องกันปัญหาได้ทางหนึ่ง” นายภิญโญ กล่าว
อย่างไรก็ดี แนวปฏิบัติเบื้องต้นสำหรับประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อการหลอกลวง1.ตั้งสติ และหยุดการติดต่อกับมิจฉาชีพทันที 2.ให้รีบติดต่อสถาบันการเงินที่ใช้บริการทันที ผ่านช่องทาง call center hotline ตลอด 24ชั่วโมง หรือสาขาภายในเวลาทำการ เพื่อระงับธุรกรรมหรือบัญชีชั่วคราวของผู้เสียหายและบัญชีปลายทาง และ 3. แจ้งความอย่างรวดเร็วภายใน 72ชั่วโมงผ่านเว็บไซต์ Thaipoliceonline.com ตลอด 24ชั่วโมง หรือสถานีตำรวจ เพื่อให้ตำรวจแจ้งสถาบันการเงินขยายระยะเวลาการระงับธุรกรรมหรือบัญชีต่ออีก 7วัน เพื่อสืบสวน สอบสวนและออกหมายอายัดบัญชีต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“อุ๊งอิ๊ง”เล่นใหญ่เกินเบอร์ ไล่ทุบ"แบงก์ชาติ"กระแสตีกลับ สงครามเย็น พท.-ธปท.จบยาก
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี-รมว.พาณิชย์ แกนนำรัฐบาลเพื่อไทย ออกมาดาหน้าปกป้อง อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร-หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นการใหญ่ หลังโดนวิจารณ์-ถล่มเละ กรณี อุ๊งอิ๊ง เล่นใหญ่เกินเบอร์ ใช้เวทีอีเวนต์การเมืองของพรรคเมื่อ 3 พ.ค. อ่านโพยตามสคริปต์ที่คนเขียนมาให้ ด้วยการ อัดธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า
'ภูมิธรรม' ช่วยอีกคนป้อง 'อุ๊งอิ๊ง' ย้ำ แบงค์ชาติ ไม่ใช่องค์กรที่แตะต้องไม่ได้
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โพสต์ข้อความระบุว่า “แบงค์ชาติ”ไม่ใช่องค์กร หรือสถาบันที่“ประชาชน”จะกล่าวถึงหรือ“วิพากษ์ วิจารณ์ ” หรือ“แตะต้อง” ไม่ได้ เจตจำนงพรรคเพื่อไทยที่หัวหน้าพรรค นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้สื่อสารกับสังคมถึงกรณีแบงค์ชาติในวันประชุมของพรรคที่ผ่านมา
นายกฯ โดดป้อง 'อุ๊งอิ๊ง' ปมแบงก์ชาติ อ้างแค่สะท้อนความต้องการประชาชน
นายกฯ ป้อง “อุ๊งอิ๊ง“ สปีชเวทีเพื่อไทย แค่สะท้อนความต้องการประชาชน ลั่น ไม่เคยบีบบังคับใคร เข้าใจความเป็นอิสระ เตรียมคุย ”รมว.คลัง“ หาทางทำงานร่วมแบงค์ชาติ
ศก.มี.ค.ชะลอ ธปท.ชี้ยังโตได้ ท่องเที่ยวหนุน
ธปท.เผยเศรษฐกิจเดือน มี.ค.ชะลอตัว หลังเร่งไปมากช่วงก่อนหน้า
แนะประชาชน ต้องรู้ทัน ไม่หลงเชื่อกลโกงมิจฉาชีพ
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากกรณีที่ยังพบมีการหลอกลวงประชาชนจากมิจฉาชีพอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดข้อมูลกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมระบุ ในช่วงตั้งแต่
ดีอี เตือนระวัง 'มิจฉาชีพ' ใช้กลลวง หลอกให้โอนเงินเพื่อรับรางวัล หลอกให้รัก
AOC 1441 เปิดเผย 5 เคสตัวอย่าง หลอกให้โอนเงินเพื่อรับรางวัล หลอกให้รัก หลอกให้ซื้อตุ๊กตาลาบูบู้ (Labubu) สูญเงินเกือบ 4 แสนบาท