5 พ.ค. 2567 – นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โพสต์ข้อความระบุว่า “แบงค์ชาติ”ไม่ใช่องค์กร หรือสถาบันที่“ประชาชน”จะกล่าวถึงหรือ“วิพากษ์ วิจารณ์ ” หรือ“แตะต้อง” ไม่ได้ เจตจำนงพรรคเพื่อไทยที่หัวหน้าพรรค นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้สื่อสารกับสังคมถึงกรณีแบงค์ชาติในวันประชุมของพรรคที่ผ่านมา
สำหรับผมคือการแสดงออกอย่างเปิดเผย จริงใจ และห่วงใยที่แบงค์ชาติยังยืนยันที่จะตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้อย่างเดิมโดยไม่พิจารณาถึงผลกระทบด้านต่าง ๆ ซึ่งประชาชน (ที่เป็นลูกหนี้แบงค์และประชาชนทั่วๆไป) กำลังเผชิญชีวิต ดิ้นรนอยู่ภายใต้ ภาวะเศรษฐกิจที่กำลังซ้ำเติมชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาอย่างแสนสาหัส
สื่อมวลชนเองก็รับรู้กระแสข่าวเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง ความคิดของคนในสังคมต่อประเด็นนี้ก็มีความหลากหลาย และประเด็นการตัดสินใจของแบงค์ชาติก็เป็นกระแสความเห็นต่างกันอย่างกว้างขวางในสังคม
แต่แปลกใจว่าทำไมเมื่อหัวหน้าพรรคเพื่อไทยสะท้อนความคิดบ้าง จึงเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์ วิจารณ์ แบบมุ่งโจมตีด้วยอคติอย่างไร้เหตุผล
การแสดงความเห็นต่อกรณีแบงค์ชาติในวันประชุมของหัวหน้าพรรคเพื่อไทยที่ผ่านมา ผมเชื่อมั่นว่า หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกำลังทำหน้าที่สะท้อนความเห็นอย่างเปิดเผย ตรงไปตรงมาต่อแบงค์ชาติ ในฐานะที่องค์กรนี้เป็นหนึ่งในกลไกสำคัญของการพัฒนาและดูแลระบบเศรษฐกิจของประเทศ
ความเห็นดังกล่าวมีนัยยะที่สะท้อนถึงความห่วงใยต่อผลกระทบจากภาระทางเศรษฐกิจที่บีบคั้นชีวิตของประชาชนจำนวนมาก ซึ่งกำลังเดือดร้อน และแบกรับความยากลำบากอยู่
ท่าทีของการแสดงความคิดทางการเมืองของหัวหน้าพรรคเพื่อไทยจึงเป็นไปตามวิถีประชาธิปไตย และสำนึกความรับผิดชอบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน
อีกทั้งยังเป็นการนำเสนอในเวทีของพรรคการเมือง ประกอบด้วยกรรมการและสมาชิกพรรค ที่ต่างต้องมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในการแสวงหาแนวทาง มาตรการ ทางเลือก เพื่อช่วยกันคิด และจัดการภาวะเศรษฐกิจของประเทศ
จึงเป็นสิทธิที่สามารถพูดได้ ออกความเห็นได้ และเป็นเรื่องที่พึงกระทำได้ ไม่ว่าจะในฐานะพลเมือง หรือหัวหน้าพรรคการเมืองที่มีความห่วงใยประชาชน ห่วงใยบ้านเมือง ผมเห็นว่าการแสดงความเห็นโดยสุจริตใจในครั้งนี้จะเป็นการกระตุกให้สังคมและผู้เกี่ยวข้องได้ช่วยกันคิด ไตร่ตรองหาเหตุผลให้เห็นทางออกมากขึ้น
ความเป็นจริง แบงค์ชาติไม่ใช่สถาบันที่อยู่เหนือการเมือง ไม่ใช่องค์กรที่ห้ามวิพากษ์วิจารณ์ ตรงข้าม แบงค์ชาติคือกลไกของระบบเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศ ที่ประชาชนทุกฝ่ายเข้าถึง เสนอความคิดเห็นได้ แม้จะมีขอบเขตหน้าที่หลักทางเศรษฐกิจ ก็ไม่ได้หมายความว่าแบงค์ชาติไม่ข้องเกี่ยวกับการเมือง และชีวิตของประชาชน
การที่ประชาชนทั่วไปหรือพรรคการเมืองกล่าวถึงแบงค์ชาติ หรือวิพากษ์วิจารณ์ เสนอความเห็นต่อแบงค์ชาติ ก็ ไม่ใช่การแทรกแซง แต่เป็นการเสนอเพื่อให้มุมมองทางเลือกอื่นๆที่เหมาะสมมากกว่าในบริบทสถานการณ์ที่เป็นอยู่
การที่สื่อบางบุคคล บางสำนักมีอคติต่อพรรคเพื่อไทย และนำความเห็นบางส่วนของหัวหน้าพรรคมาวิพากษ์อย่างรุนแรง และขยายความตามอคติของตนบวกด้วยการใส่สีตีข่าว เป็นการทำข่าวด้วยอคติมากกว่าข้อเท็จจริง
ผมเฝ้ามองคนข่าวหรือสำนักข่าวบางคนบางส่วน ที่ยังติดยึดอยู่กับอคติเดิมแล้วการใช้พื้นที่ข่าวของตนเป็นพื้นที่ละเลงอคติและขยายความขัดแย้งอยู่เนืองๆ ก่อและปั่นกระแสขัดแย้งในสังคม โดยไม่คำนึงถึงสิทธิและความเป็นมนุษย์ของบุคคลที่ตกเป็นข่าว
ผมขอยืนยันว่า กรณีแบงค์ชาติยังเป็นประเด็นที่สังคมยังสะท้อนความเห็นและสื่อสารกันได้ โดยใช้ความรู้และปัญญาที่รอบด้านมากกว่าการใช้จินตนาการที่มีแต่อคติ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับการขับเคลื่อนทั้งเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ภูมิธรรม' ป้อง 'พิชิต' มีปัญหาตรงไหน จริยธรรมอะไร อย่าขวางทางรัฐบาลจะแก้เศรษฐกิจ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณี สว. 40 คน ยื่นถอดถอน นายพิชิต ชื่นบาน รมต.ประจำ
ทุกอย่างจบ! 'อ้วน' ยัน ประมูลข้าว 10 ปี หอมอร่อย ไม่เกินมิ.ย.
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณีการวิจารณ์ข้าวสารจากโครงการรับจำ
'สว.วันชัย' ค้านยื่นถอด 'เศรษฐา-พิชิต' ชี้ปิดประตูล้มรัฐบาล ยกเว้น 'ปฏิวัติ'
'วันชัย' ยันไม่เห็นด้วย กรณี 40 สว. ยื่นศาลรัฐธรรมนูญถอดถอน ’นายกฯ-พิชิต‘ แปลกใจไม่เปิดชื่อ ชี้หมดวาระแล้วไม่ควรสร้างปัญหา ปิดประตูล้มรัฐบาลเพื่อไทย ยกเว้นรัฐประหาร
จับตา! 2 เรื่องใหญ่ บ่งชี้ใกล้ถึงจุดจบ 'รัฐบาลเพื่อไทย'
รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า แรกทีเดียวคิดว่าจะไม่เขียนเกี่ยวกับเรื่องข้าว 10 ปี
ประชาชนสะท้อนปัญหาแก๊งดูดเงิน หวัง ธนาคาร-ธปท. รับผิดชอบเพิ่มขึ้น
นายนพดล กรรณิกา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้แทนภาคประชาชนในคณะกรรมการ นโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) และอาจารย์ประจำหลักสูตรความปลอดภัยทางไซเบอร์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม เปิดเผยความร่วมมือของสองสำนักโพลระหว่าง สยามเทคโนโพล และ ซูเปอร์โพล