
รฟท. กางแผนสร้างรถไฟทางคู่ทั่วประเทศ จ่อเปิดให้บริการ “นครปฐม–สะพลี” ก.ย.นี้ ครบทั้งเส้นภายใน ธ.ค. 66 หนุนทางคู่รวมกันมากกว่า 3,000 กม. ในปี 72 ดันลดต้นทุนการขนส่งด้านโลจิสติกส์
21 ก.ค. 2566 – นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้การดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน ระยะที่ 1 จำนวน 7 เส้นทาง และโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่ 2 เส้นทาง มีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่า รฟท. ได้ให้ความสำคัญในการกำกับ ติดตามดูแลการก่อสร้างอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การพัฒนาโครงข่ายรถไฟทางคู่สามารถเปิดให้บริการได้ตามแผนที่กำหนด
สำหรับรถไฟทางคู่ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ เปิดให้บริการแล้ว 2 โครงการ ได้แก่ 1. โครงการช่วงชุมทางฉะเชิงเทรา – คลองสิบเก้า – แก่งคอย และ 2. โครงการช่วงชุมทางถนนจิระ – ขอนแก่น
ส่วนโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง และใกล้แล้วเสร็จ 3 โครงการ ซึ่งอยู่ในโครงการรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม-ชุมพร ระยะทาง 421 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 3.39 หมื่นล้านบาท ได้แก่ ช่วงนครปฐม-หัวหิน สัญญาที่ 1 นครปฐม-หนองปลาไหล ผลงาน97.183% ส่วนสัญญาที่ 2 หนองปลาไหล-หัวหิน ผลงาน 97.535%, 2. ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กม. ผลงาน 99.999% และ 3. ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ทั้งนี้ในภาพรวมของทั้ง 3 โครงการ ในส่วนของงานโยธาได้ดำเนินการใกล้เสร็จครบทั้งหมด และเริ่มมีการทดลองเปิดใช้ทางคู่ใหม่บางช่วง เพื่อทดสอบระบบทางแล้ว โดย รฟท.มีแผนเปิดใช้งานจริงช่วงเดือน ก.ย.66 เริ่มจากสถานีนครปฐม ถึงสถานีสะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร จากนั้นปลายเดือน ธ.ค.66 จะขยายไปจนถึงปลายทางที่สถานีชุมพร และตั้งเป้าหมายจะเปิดใช้งานได้เต็มระบบภายในปี 68
สำหรับโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่ 2 โครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ได้แก่ 1. เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของและ2. บ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ส่วนโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ เฟสที่ 2 เพิ่มเติมอีก 7 เส้นทาง ได้แก่ 1.ช่วงปากน้ำโพ – เด่นชัย 2.ช่วงขอนแก่น – หนองคาย 3.ช่วงชุมทางถนนจิระ – อุบลราชธานี 4.ช่วงชุมพร – สุราษฎร์ธานี 5.ช่วงสุราษฎร์ธานี – ชุมทางหาดใหญ่ – สงขลา 6.ช่วงชุมทางหาดใหญ่ – ปาดังเบซาร์และ7.ช่วงเด่นชัย – เชียงใหม่
ทั้งนี้หากรถไฟทางคู่เฟสที่ 2 ดำเนินการแล้วเสร็จ จะทำให้ รฟท. มีรถไฟทางคู่ครอบคลุมการเดินทางได้มากกว่า 50 จังหวัดทั่วประเทศ มีเส้นทางคู่รวมกันมากกว่า 3,000 กม. ภายในปี 72 สามารถรองรับขบวนรถได้เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า2 เท่าตัว โดยไม่ต้องเสียเวลาในการรอหลีกขบวนรถ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการขนส่งด้านโลจิสติกส์ ได้มหาศาล อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความปลอดภัย ลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดทางเสมอระดับรถไฟ-รถยนต์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'รมว.ยธ.' การันตี! ไม่จุ้นคดี 'เขากระโดง-ฮั้ว สว.' ปล่อยหน่วยรับผิดชอบทำไป
'รุทธพล' ประเดิมคุม ยธ. วันแรก ยันไม่แทรกแซงคดีเขากระโดง-ฮั้ว สว. ปล่อยหน่วยงานรับผิดชอบทำต่อไป เผยหลังแถลงนโยบาย เดินหน้าเต็มสูบปราบพนันออนไลน์-ยาเสพติด
เปิดเอกสาร การรถไฟ ฯยื่นแบบ ส.ค.1 ปี 2498 อ้างสิทธิครอบครองที่ดินเขากระโดง 5,083 ไร่ พิรุธพรฎ.ไม่ระบุวัน เดือน ปี
ผู้สื่อข่าวรายงาน ได้มีการเผยแพร่เอกสาร “แบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1)” เลขที่ 1180 ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ลงวันที่ 27
'ภูมิธรรม' โต้กลับ! มีแต่นิติบุคคลโวย 'เขากระโดง' ปรามทนายบุรีรัมย์สุภาพหน่อย
'ภูมิธรรม' มั่นใจ รฟท. ยึด 'พ.ร.ฎ.-แผนที่' แนบท้ายเขากระโดง ชาวบ้านเสียหายเรียกร้องสิทธิได้ตามกฎหมาย แต่เห็นมีแต่นิติบุคคลออกมาโวย ยันสั่งเพิกถอนไม่เกี่ยวกับตนเอง ปรามทนายบุรีรัมย์สุภาพหน่อย
DSI เร่งสางคดีเขากระโดง สั่ง 4 หน่วยส่งข้อมูล 15 วัน ก่อนลุยพื้นที่จริง
'ดีเอสไอ' เร่งสอบพิพาทที่ดินเขากระโดง หลังศาลฎีกาตัดสินเป็นของ รฟท. ลุยตรวจโฉนด-ฟอกเงิน หลังพบนิติบุคคลครอบครองกว่าพันไร่ ประสาน 4 หน่วยงานส่งข้อมูลใน 15 วัน จ่อลงพื้นที่สอบผู้เกี่ยวข้อง
ศาลปกครอง มีคำสั่งคุ้มครองที่ดิน 995 ฉบับ และแปลงอื่นๆในพื้นที่เขากระโดง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ ศาลปกครองกลาง ได้มีคำสั่งในคดีหมายเลขดำที่ 395/2568 ลงวันที่ 27 พ.ค.2568 ซึ่งเป็นคดีที่การรถไฟแห่งประเทศไท

