‘บินไทย’ โชว์ครึ่งปีแรกโกยรายได้ 7.8 หมื่นล้าน

การบินไทย ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2/66 โชว์กำไรพุ่ง 2.2 พันล้านบาท ดันภาพรวม 6 เดือนแรกของปีมีรายได้ 7.8 หมื่นล้านบาท เงินสดกว่า 5.1 หมื่นล้าน เตรียมชำระหนี้ปีหน้า 1 หมื่นล้าน

11 ส.ค. 2566 – นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวม (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) 78,889 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 141% มีค่าใช้จ่ายรวม (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) 57,280 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนซึ่งมีค่าใช้จ่ายรวม 37,175 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 14,795 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 329% ขณะที่ปีก่อนขาดทุน 6,457 ล้านบาท เป็นกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 14,776 ล้านบาท มี EBITDA หลังหักเงินสดจ่ายหนี้สินตามเงื่อนไขสัญญาเช่าเครื่องบินรวมค่าเช่าเครื่องบินจากการใช้เครื่องบินที่เกิดขึ้นจริง 23,361 ล้านบาท 

นายชาย กล่าวต่อว่า ขณะที่ไตรมาส 2 ปี 2566 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวม (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) 37,381 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีรายได้รวม 21,526 ล้านบาท หรือ 73.7% มีกำไรจากการดำเนินงาน 8,576 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 760% หากพิจารณาในส่วนของผลการดำเนินงานเฉพาะบริษัท การบินไทยฯมีรายได้รวม 34,954 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 77% 

ทั้งนี้เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2565 มีกำไรจากการดำเนินงาน 8,699 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30,097% มีผู้โดยสารรวม 3.35 ล้านคน และมีอัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ย 79.2% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งเฉลี่ย 60.3% อย่างไรก็ตามบริษัทฯ จึงมีเงินสดคงเหลือจำนวน 51,153 ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2566 ซึ่งถือว่าสูงที่สุดตั้งแต่ดำเนินงานมา โดยที่ผ่านมาสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 25,000 ล้านบาท โดยการบินไทยมีแผนจะชำระหนี้ในกลางปีหน้า วงเงินอยู่ที่ราว 1 หมื่นล้านบาท

ส่วนแผนการขยายธุรกิจของการบินไทย การบินไทยได้จัดหาเครื่องบินใหม่เข้ามาอีก 24 ลำโดยวิธีการเช่าดำเนินการ แบ่งเป็น 1.เครื่องบินแอร์บัส A 350 จำนวน  11 ลำ ขณะนี้รับมอบมาแล้ว 2 ลำ เหลือ 9 ลำรับมอบไตรมาส1 ปีหน้า 2. เครื่องบินแอร์บัส A 321 นีโอ จำนวน 12 ลำ จะเข้ามาใน ปี2026 ซึ่งเป็นเครื่องบินลำตัวแคบ ที่จะนำมาเพิ่มใหม่ 10 ลำ และนำมาทดแทนเครื่องบิน A 320 ของไทยสมายล์ที่จะหมดสัญญาเช่า 2 ลำ และ 3. โบอิ้ง 787-900  จำนวน  1 ลำ เพื่อนำมาใช้ในการขยายจุดบินใหม่และเพิ่มเที่ยวบินในเส้นทางบินที่มีศักยภาพ

นายชาย กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงการคลัง ไม่ขยายเวลาการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินไอพ่นที่ใช้ในประเทศออกไปอีกหลังสิ้นสุดเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมาว่า ในภาพรวมยังไม่ได้กระทบต่อธุรกิจการบินไทยมากนัก ยังสามารถควบคุมต้นทุนได้ โดยมีผลต่อค่าบัตรโดยสารที่จะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย หลักสิบถึงหลักร้อยบาทต่อเที่ยว แต่ปัจจุบันยอดจองเส้นทางในประเทศยังคงได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้โดยสาร เช่นเดียวกับปัจจัยทางการเมืองที่อยู่ระหว่างการจัดตั้งรัฐบาล ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจเดินทางของนักท่องเที่ยวทั้งไทย และต่างชาติ ซึ่งยังมียอดจองตั๋วเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บีเจซี เผยผลประกอบการไตรมาส 2/67 ดันรายได้รวมเติบโตทะลุ 43,085 ล้านบาท กำไรจากการดำเนินงานเติบโตกว่า 15%

บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือบีเจซี เปิดเผยรายได้รวมในไตรมาส 2/67 เท่ากับ 43,085 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 257 ล้านบาทจากปีก่อน

บจ. มีผลประกอบการในไตรมาส 2 ดีขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและธุรกิจน้ำมัน

บริษัทจดทะเบียน (บจ.) รายงานผลการดำเนินงานงวดหกเดือนแรกปี 2567 มีรายได้และกำไรสุทธิเติบโต ขับเคลื่อนจากการท่องเที่ยวที่สร้างมูลค่าเพิ่มไปสู่ธุรกิจภาคบริการ อุปโภคบริโภค อีกทั้งกลุ่มธุรกิจน้ำมันได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น