ธนารักษ์ย้ำห้ามตัดไม้มีค่าในที่ราชพัสดุจ่อรวบรวมข้อมูลทั้งประเทศ

3 ต.ค.2566 – นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง แถลงว่าตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าว และภาพข่าวกรณีการลักลอบตัดไม้พะยูงในสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดกาฬสินธุ์ และมีการขนย้ายไม้พะยูงในส่วนที่เหลือจากการลักลอบตัดมาเก็บไว้ที่หน้าสำนักงานเทศบาลตำบลอิตื้อ ต่อมาไม้ดังกล่าวได้ สูญหายไป และกรณีการตัดไม้พะยูงในเขตโรงเรียนคำไฮวิทยา รวมถึงภาพข่าวหลักฐานการเจาะต้นไม้พะยูนในโรงเรียนโคกกลางเหนือ กระทรวงการคลังได้สั่งการและเร่งรัดให้กรมธนารักษ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยให้ดำเนินการสำรวจ ตรวจสอบข้อมูลไม้พะยูงที่อยู่ในที่ราชพัสดุทุกพื้นที่ทั่วประเทศ

ข้อเท็จจริงที่ผ่านมากรมธนารักษ์ได้มีหนังสือเวียนที่ กค 0305/ว20 ลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2560 เรื่องการตัดไม้ในที่ราชพัสดุ โดยให้ผู้ใช้ที่ราชพัสดุสามารถดำเนินการได้เท่าที่จำเป็น เช่น (1) กีดขวางการใช้พื้นที่เพื่อปลูกสร้างอาคาร (2) กีดขวางสายไฟฟ้า (3) ต้นไม้อาจโค่นล้มเป็นอันตรายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน และ (4) เป็นการตัดแต่งกิ่งไม้เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและความสวยงาม ซึ่งกรมธนารักษ์ยังได้มีหนังสือซักซ้อมความเข้าใจ กรณีการตัดต้นไม้ในที่ราชพัสดุให้สอดคล้องกับนโยบายของทางราชการ ที่ให้ทุกหน่วยงานมีการอนุรักษ์ต้นไม้และป่าไม้ในเขตพื้นที่ราชพัสดุ โดยให้หลีกเลี่ยงการตัดต้นไม้ใหญ่ ยกเว้นการณีที่มีเหตุจำเป็นอย่างยิ่งที่มิอาจหลักเลี่ยงได้ โดยให้ผู้ใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุถือปฏิบัติโดยเคร่งครัดอีกด้วย

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้สั่งการให้กรมธนารักษ์แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน และเร่งรัดให้ดำเนินการตรวจสอบ สืบสวนกรณีที่เกิดขึ้นตั้งแต่ในช่วงแรกที่ปรากฏเป็นข่าว โดยให้สืบในทางลับ และลงพื้นที่เพื่อจัดการแก้ไขปัญหา พร้อมทั้งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมีนางวิไลรัตน์ อักษรพันธ์ ผู้ตรวจราชการกรมธนารักษ์ เป็นประธาน เพื่อเก็บข้อมูลและตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ กรมธนารักษ์ได้ประชุมทางไกลออนไลน์กับสำนักงานธนารักษ์พื้นที่ทั่วประเทศ สั่งกำชับแนวทางสำหรับวิธีปฏิบัติเพื่อสร้างความเข้าใจ เรื่องการห้ามตัดไม้มีค่าในที่ราชพัสดุ รวมถึงห้ามเข้าไปมีส่วนร่วมในการประเมินราคาด้วย โดยจะต้องอยู่ในฐานะเป็นผู้ตรวจสอบดูแลเท่านั้น เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างถูกต้องตามนโยบายของกรมธนารักษ์ เรื่อง การตัดไม้ในที่ราชพัสดุ อย่างเคร่งครัด

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาในระยะยาวและป้องกันปัญหาการตัดไม้มีค่าในที่ราชพัสดุ จึงได้มอบนโยบายและสั่งการให้กรมธนารักษ์ ดำเนินการจัดทำฐานข้อมูลไม้มีค่าในที่ราชพัสดุทั่วประเทศ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือช่วยให้กรมธนารักษ์ และสำนักงานธนารักษ์พื้นที่มีข้อมูล ข้อเท็จจริง สำหรับเป็นแนวทางตรวจสอบให้ส่วนราชการในพื้นที่ สอดส่องดูแลไม้มีค่าในที่ราชพัสดุอย่างยั่งยืนต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เดินหน้า ดิจิทัลวอลเล็ต เดิมพันสำคัญ รัฐบาลเพื่อไทย

หลังรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน อยู่ในสภาพชะงักงัน ไม่สามารถเดินหน้า”ดิจิทัลวอลเล็ต”ให้เป็นไปตามไทม์ไลน์เดิมที่เคยวางไว้คือ จะแจกเงินประชาชนคนละหนึ่งหมื่นบาท ได้ภายในวันที่ 1 พ.ค. 2567

จับตา10เมษาดิจิทัลวอลเล็ต รัฐบาลเลื่อน(แจก)อีก เสียคน!

พอพรรคเพื่อไทยหาเสียงเมื่อครั้งเลือกตั้งหลังสุด บอกว่าจะแจกเงิน 1 หมื่นบาท ประชาชนหูผึ่งทันที แต่ผ่านมานับเป็นเวลา 7 เดือนที่เพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ ก็ยังไม่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ แบบนี้เสียเครดิต เพราะถือว่าเบี้ยวหนี้

'จุลพันธ์' เมินก้าวไกลฟาดเพื่อไทยปัดฝุ่นโครงการยุคลุงตู่ ชี้มุ่งเน้นประชาชนได้ประโยชน์มากกว่า

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะกำกับดูแลกรมธนารักษ์ กล่าวชี้แจงในโครงการหนองวัวซอโมเดล จังหวัดอุดรธานี ถึงข้อกังวลของนายวิโรจน์ ลักขณาดิศร

ธ.ก.ส. โชว์ผลงาน 66 กดหนี้เสียเหลือ 5.5% แถมปล่อยกู้ทะลุ 8 แสนล้าน

ธ.ก.ส. เผยผลงานปีบัญชี 2566 เติมเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคชนบท 8.6 แสนล้านบาท ด้านการบริหาร NPLs ภาคการเกษตร ลดลงต่ำสู่ระดับร้อยละ 5.5 ทำให้ผลประกอบการเป็นไปตามเป้าหมาย พร้อมเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายรัฐในการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือน

เดินหน้าแจกดิจิทัลวอลเล็ต หลังเพิ่มทางเลือกแหล่งเงิน

หลังเมื่อวันจันทร์ที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง” เปิดแถลงข่าวไทม์ไลน์นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต โดยยืนยันว่ารัฐบาลจะเดินหน้านโยบายดังกล่าวต่อไป และจะสามารถแจกเงินให้ประชาชน 10,000 บาท ได้ภายในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ คือประมาณ ตุลาคม-ธันวาคม 2567