ดัชนีเชื่อมั่นค้าปลีกไตรมาส 3 แผ่ว! แนะผุดมาตรการภาษีดันช้อป

“สมาคมค้าปลีกไทย” โอด Q3 ดัชนีเชื่อมั่นแผ่ว ซบเซา 3 เดือนติด ระบุฐานรากกำลังซื้อยังอ่อนแอ แนะรัฐบาลออกมาตรการลดหย่อยภาษีประจำปี หนุนกลุ่มคนมีกำลังซื้อเร่งช้อป ด้าน “หอการค้าไทย” แจงภาคธุรกิจกังวลนโยบายขึ้นค่าแรง หวั่นกระทบต้นทุน

10 ต.ค. 2566 – นายฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์ รองประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ค้าปลีกทั่วประเทศ (Retail Sentiment Index – RSI) ในไตรมาส 3/2566 ว่า ถือว่าซบเซา 3 เดือนต่อเนื่อง โดยลดลงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลางที่ระดับ 50 นับตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2566สะท้อนถึงผู้บริโภคฐานรากกำลังซื้อยังอ่อนแอ

ทั้งนี้ ทางสมาคมฯ เห็นด้วยกับภาครัฐเกี่ยวกับนโยบายเร่งด่วนทั้งมาตรการลดค่าไฟและน้ำมัน มาตรการฟรีวีซ่า และการเพิ่มเที่ยวบินถือว่ามาถูกที่ถูกเวลา อย่างไรก็ตามมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติม อาทิการลดหย่อนภาษีประจำปีเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในกลุ่มที่ยังมีกำลังซื้อ ส่วนนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาทขอเสนอให้เพิ่มการหารือร่วมกับภาคเอกชนและสมาคมต่าง ๆ เพื่อให้การดำเนินนโยบายเกิดประสิทธิภาพสูงสุด เป็นต้น

นายวชิร คูณทวีเทพ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายยุทธศาสตร์ และผู้อำนวยการสถาบันยุทธศาสตร์การค้า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย (TCC-CI) เดือนก.ย. 2566 ซึ่งเป็นการสำรวจความคิดเห็นของภาคธุรกิจ และหอการค้าทั่วประเทศ จำนวน 369 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 25-29 ก.ย. 2566 อยู่ที่ระดับ 56.02 เพิ่มขึ้นจากระดับ 56.0 ในเดือนส.ค. 2566โดยมีปัจจัยบวก จากการแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อรัฐสภาทำให้เห็นภาพการทำงานที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น, รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและเยียวยาประชาชน โดยเฉพาะการปรับลดค่าไฟฟ้าและราคาน้ำมันดีเซล และราคาพืชผลทางการเกษตรหลายรายการปรับตัวดีขึ้น เป็นต้น

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ และอธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ผู้ประกอบธุรกิจ ยังมีความกังวลกับนโยบายของภาครัฐที่ยังไม่มีความชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นนโยบายเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ที่ภาคธุรกิจมีความกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้า ในขณะที่ต้นทุนทางการเงินก็เพิ่งจะเพิ่มขึ้นจากการที่ ธปท.ปรับขึ้นดอกเบี้ย นอกจากนี้ ยังมีความกังวลกับปัญหาภัยธรรมชาติ ทั้งน้ำท่วม น้ำแล้งด้วย