'ภูมิธรรม' สั่งรับมือส่งออกหลังสงครามยืดเยื้อ

“ภูมิธรรม” สั่งกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ประเมินผลกระทบการค้า และมาตรการรับมือ หลังความขัดแย้งอิสราเอล-ปาเลสไตน์ยังไม่จบ พร้อมให้ทำแผนขยายตลาด เน้นเจาะเมืองรอง พ่วงจัดคณะผู้แทนการค้าไปเคาะประตู ย้ำต้องช่วย SMEs ให้มีโอกาสส่งออก

19 ต.ค. 2566 – นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ว่า ได้สั่งการให้ติดตามสถานการณ์การส่งออกของไทย หลังจากเกิดเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ และได้รับรายงานเบื้องต้นว่าการค้าไทยกับอิสราเอล ไม่มีผลกระทบ แต่ให้ไปดูว่าจะมีผลกระทบต่อการค้าไทยกับประเทศอื่น ๆ หรือไม่ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่งผลต่อโลก จะได้เตรียมแผน เตรียมาตรการรับมือ และหากมีปัญหาจะแก้ไขได้อย่างทันท่วงที เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยในภาพรวม

ทั้งนี้ ยังได้มอบหมายให้ไปหาทางเร่งขยายตลาด เพื่อเพิ่มยอดการส่งออก มีเป้าหมาย เช่น จีน ตะวันออกกลาง โอเชียเนีย เอเชียใต้ เป็นต้น โดยขอให้ไปศึกษาโอกาสของไทยอยู่ตรงไหน เน้นเมืองรองของประเทศต่าง ๆ และให้ใช้กลไกของทูตพาณิชย์ที่มีอยู่ไปตรวจสอบ ไปศึกษา และพิจารณาจัดทำ MOU กับเมืองรองต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น เพื่อเปิดประตูการค้าให้กับไทย ส่วนตนพร้อมที่จะเดินสายสร้างสัมพันธ์และจัดคณะผู้แทนการค้าไปโรดโชว์ เพื่อเพิ่มโอกาสให้กับผู้ส่งออกอีกทาง

ขณะเดียวกัน ขอให้เข้าไปช่วยเหลือผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) ให้มีโอกาสส่งออก เพราะตรงกับนโยบายรัฐบาลที่เน้นการสร้างรายได้ โดยการเข้าไปอบรม การพัฒนา จะต้องวัดผลได้ ไม่ใช่ดูแค่ปริมาณ ต้องดูคุณภาพด้วยว่าอบรมแล้ว พัฒนาไปแล้ว มีการเติบโตยังไง มีโอกาสขยายการส่งออกมากน้อยแค่ไหน
นอกจากนี้ ให้มีการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลดิจิทัลเพื่อประชาชน โดยให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ นำระบบดิจิทัลมาให้บริการให้กับประชาชน ทั้งข้อมูลการค้า ข้อมูลการตลาด การเข้าร่วมงานต่าง ๆ ทั้งการอบรม สัมมนา งานแสดงสินค้า ที่จะต้องมุ่งสู่ความเป็นดิจิทัลมากขึ้น เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก รวมทั้งให้ช่วยเพิ่มโอกาสในการส่งออกให้กับ SMEs สินค้าชุมชน ผ่านช่องทางการส่งออกปกติ และทางออนไลน์ และเร่งขับเคลื่อน Soft Power ของไทย ทั้งงานออกแบบ อาหารไทย ภาพยนตร์และเกม แฟชัน หนังสือ และการท่องเที่ยว

นายภูมิธรรม กล่าวว่า การขับเคลื่อนการส่งออกในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้ ได้สั่งการให้ทำแผนเร่งด่วน (Quick Win) เพื่อผลักดันการส่งออก โดยได้รับรายงานว่า จะมีการดำเนินกิจกรรมทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวม 73 กิจกรรม จะช่วยเพิ่มมูลค่าการส่งออกได้กว่า 12,400 ล้านบาท โดยมีกิจกรรมสําคัญ เช่น การจัดเจรจาธุรกิจออนไลน์ การเข้าร่วมงานแสดงสินค้า การจัดคณะผู้แทนการค้าไปเยือนงานแสดงสินค้า China International Import Expo (CIIE 2023) ณ นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน การนําผู้ประกอบการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ เช่น Automechanika ดูไบ , American Film Market ที่สหรัฐฯ Anuga และ Medica ในเยอรมนี รวมทั้งจะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้า TOP Thai บนแพลตฟอร์ม Shopee ในมาเลเซีย Rakuten ในญี่ปุ่น เป็นต้น

สำหรับการจัดทำเป้าหมายการส่งออก และแผนงานขับเคลื่อนการส่งออกปี 2567 ได้มอบนโยบายให้มีการหารือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาคเอกชนในกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ทั่วโลก ให้ทำการประเมินแนวโน้มการส่งออก ความต้องการของคู่ค้า และแผนงานที่จะนำมาใช้ขับเคลื่อน โดยคาดว่าน่าจะสรุปได้ในช่วงปลายเดือน ธ.ค.2566

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ภูมิธรรม' ถกรองผู้ว่าฯเหอหนาน ชวนนักธุรกิจลงทุนไทย พร้อมดันเพิ่มเที่ยวบิน เจิ้งโจว-กรุงเทพฯ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังหารือกับสมาชิกคณะกรรมการประจำมณฑลเหอหนานแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน

ชื่นมื่น 'ภูมิธรรม' จับมือผู้ว่าการฯยูนนาน หนุนด่านท่าเรือกวนเหล่ย ส่งออกผลไม้-โค เข้าจีน

ชื่นมื่น“ภูมิธรรม“ จับมือผู้ว่าการฯยูนนาน หนุนด่านท่าเรือกวนเหล่ย เพิ่มมูลค่าการค้า อำนวยความสะดวก รถ-ราง-เรือ ส่งผลไม้-โค ไทยเข้าจีน

'ภูมิธรรม' ยกทีมจีนถกผู้ว่าฯ สิบสองปันนา เพิ่มตู้ส่งผลไม้ หนุนส่งออกโค

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังนำคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ เดินทางมาปฎิบัติราชการที่สาธารณรัฐประชาชนจีน และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ระหว่างวันที่ 27-29 เมษายน 2567 โดยได้เข้าหารือกับนายตาว เหวิน

พรรคร่วมรัฐบาลเคาะ 'ทำประชามติ' 3 รอบ เข้า ครม. อังคารนี้

'ภูมิธรรม' คอนเฟิร์มทำประชามติ 3 ครั้ง เพื่อความปลอดภัย ชง ครม. อังคารนี้ คาดทำรอบแรกเดือน ส.ค. ซัดกลุ่มจ้องเคลื่อนไหวห้ามปชช.ใช้สิทธิ์ ปัดหารือหัวหน้าพรรคร่วมเรื่องนิรโทษกรรม