สุริยะ ขานรับนายกฯ สั่งหน่วยงานคมนาคมเปลี่ยนไปใช้รถอีวี

“สุริยะ” เด้งรับข้อสั่งการนายกฯ สั่งหน่วยงานคมนาคม ลุยเปลี่ยน “รถยนต์สันดาป” หมดสัญญาเช่า เป็น “รถยนต์ EV” จี้เร่งสรุปรายละเอียดเสนอกระทรวงฯ โดยเร็วที่สุด หวังร่วมลดปัญหามลภาวะฝุ่นละออง PM 2.5 ชี้พิจารณาให้เหมาะสมกับการใช้งาน สอดคล้องเป้าหมายใช้รถยนต์ EV เพิ่มขึ้น 30% ภายในปี 73

7 พ.ย. 2566 – นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากข้อสั่งการของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ได้สั่งการให้ทุกส่วนราชการจัดซื้อจัดจ้างรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) เพื่อแก้ปัญแทนรถยนต์ที่หมดอายุนั้น กระทรวงคมนาคมได้ให้ความสำคัญ และขานรับข้อสั่งการดังกล่าว ซึ่งได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ทั้งส่วนราชการ และรัฐวิสาหกิจรวบรวมรายละเอียด และพิจารณาเปลี่ยนรถยนต์ใช้น้ำมัน (สันดาป) ที่หมดอายุสัญญาเช่าให้เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า สอดคล้องเป้าหมายในการใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 30% ภายในปี 2573 โดยให้พิจารณาตามความเหมาะสมกับการใช้งาน เพื่อช่วยลดปัญหามลพิษทางอากาศ หรือฝุ่นละออง PM 2.5
ทั้งนี้ จากการรายงานของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ระบุว่า ทอท. จะทยอยปรับเปลี่ยนรถที่มีการใช้ให้บริการในท่าอากาศยานทั้งหมดให้เป็นรถไฟฟ้า ตามนโยบายของรัฐบาลในการลดการใช้ยานยนต์ที่ใช้น้ำมัน ซึ่งในปัจจุบัน รถส่วนกลางของ ทอท. ส่วนใหญ่เป็นรถเช่าระยะเวลา 3 ปี ดังนั้น หากหมดสัญญาเช่าแล้ว ให้ ทอท.พิจารณาเริ่มสัญญารถเช่าใหม่ เปลี่ยนให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแทนรถยนต์ใช้น้ำมันทั้งหมด

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า ขณะนี้ กระทรวงคมนาคม ได้มอบหมายให้นายชาครีย์ บำรุงวงศ์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการขนส่งทางบก ประสานไปยังหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม เพื่อมอบหมายให้สรุปรายละเอียดและพิจารณารถยนต์ที่ใช้ภายในของแต่ละหน่วยงาน และจะหมดสัญญาเช่าให้เปลี่ยนเป็นรถยนต์ไฟฟ้า ตามข้อสั่งการของรัฐบาล และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

ทั้งนี้ ให้แต่ละหน่วยงานพิจารณาตามความเหมาะสมในการใช้งาน เช่น ในเบื้องต้นจะให้เปลี่ยนรถยนต์ที่วิ่งใช้ภายในจังหวัด หรือระยะทางไม่ไกลมากนัก หากเป็นรถยนต์ที่ใช้วิ่งข้ามจังหวัด อาจจะยังคงเป็นรถยนต์ใช้น้ำมันไปก่อร เนื่องจากติดปัญหาเรื่องระยะทางวิ่งที่เกี่ยวเนื่องกับสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ยังไม่ครอบคลุมในทุกพื้นที่ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ให้หน่วยงานทั้งหมดสรุปรายละเอียดและแผนการดำเนินงานเสนอมายังกระทรวงฯ โดยเร็วที่สุด

รายงานข่าวจาก ทอท. แจ้งว่า ปัจจุบันรถและเครื่องจักรที่ให้บริการในท่าอากาศยาน มีจำนวนกว่า 3,400 คัน หากเปลี่ยนจากรถยนต์ใช้น้ำมันเป็นรถยนต์ไฟฟ้า จะสามารถลดการใช้น้ำมันได้มากถึง 10 ล้านลิตรต่อปี หรือคิดเป็น 28,360 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี ขณะที่ในส่วนของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มียานพาหนะและอุปกรณ์ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่เขตการบิน (Airside) ของผู้ประกอบการเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแล้วจำนวน 287 คัน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ได้ฤกษ์ ‘สุริยะ’ เดินเครื่องเจาะอุโมงค์รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ปักหมุดให้บริการปี 71

‘สุริยะ’กดปุ่มเปิดเดินเครื่องหัวเจาะอุโมงค์รถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน - ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ตั้งเป้าให้บริการปี 71

เดินหน้า ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ เงินค่าทดแทน เวนคืนอสังหาริมทรัพย์

'รัดเกล้า' เผย คค. ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการกำหนดเงินค่าทดแทนภาระในอสังหาริมทรัพย์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและให้ความเป็นธรรมแก่ประชาชน

นายกฯ ตรวจหมอชิต ชมพัฒนาดีขึ้น คราวหน้าจะย่องมาอีกไม่บอกเวลา กลัวเจอจัดฉาก

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยมี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม