วิสนุ ตั้งธงภายใน 2 ปี ทอท.ติด 1 ใน 50 สนามบินชั้นนำโลก

ประธานบอร์ด ทอท.คนใหม่ ตั้งเป้าดัน ทอท.ติด1ใน 50สนามบินชั้นนำโลกใน 2 ปี เดินหน้าปรับปรุงคุณภาพการบริการเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสาร พร้อมเร่งขยายขีดความสามารถสนามบิน รับอุตสาหกรรมการบินโตต่อเนื่อง

18 ม.ค. 2566 – พลตำรวจเอกวิสนุ ปราสาททองโอสถ ประธานคณะกรรมการ( บอร์ด) ทอท.เปิดเผยภายหลังเข้ามารับตำแหน่งประธาน บอร์ด ทอท.ว่าได้มีทิศทางในการนำพาสนามบินภายใต้การกำกับของทอท.ทั้ง  6 แห่ง ประกอบด้วย สนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ และแม่ฟ้าหลวงเชียงรายเพื่อรองรับการกลับมาเติบโตอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมการบินทั่วโลก จึงมีนโยบายอย่างชัดเจน เร่งด่วน นอกจากเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งบุคลากร อุปกรณ์ที่ทันสมัยในการบริการแล้ว การขยายขีดความสามารถเพื่อยกระดับมาตรฐานของสนามบินก็จะดำเนินการควบคู่กันไปภายในรัฐบาลชุดนี้

ทั้งนี้มีความมุ่งมั่นในการบริหารงานที่จะยกระดับให้ ทอท.เป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งทางอากาศแห่งภูมิภาค สู่ประตูการบินของโลก และมีเป้าหมายที่จะให้ ทอท.กลับมาติด 1 ใน 50 ท่าอากาศยานที่ดีที่สุดของโลกภายใน 2 ปีนี้ จากปัจจุบันติดอันดับที่ 77พร้อมทั้งยกระดับการเป็นศูนย์กลางคมนาคมขนส่งทางอากาศแห่งภูมิภาคสู่ประตูการบินของโลก ถือเป็นนโยบายของรัฐบาลที่จะทำให้สนามบินสุวรรณภูมิเป็นฮับอยู่แล้ว ประกอบกับประเทศไทยอยู่ในภูมิศาสตร์ที่ตั้งที่สมบูรณ์

“ปัจจัยหลักในการให้ ทอท. บรรลุสู่ความสำเร็จ (Key Success) ได้นั้น คือ 1. การให้คุณค่ากับกำลังคน (Manpower) ทุกระดับ ทุกฝ่าย  2. สร้างความมั่นใจทางธุรกิจ เพื่อความมั่นคงในการเติบโต 3. ความโปร่งใสตรวจสอบได้ คือ หัวใจสำคัญ 4. สร้างการยอมรับ (Trust) จากสังคม ประชาชน ผู้ใช้บริการทุกส่วน ในอุตสาหกรรมการบิน  และ5. บูรณาการการทำงานทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมการบินในรูป Home Team เพื่อมุ่งสู่ความสำเร็จร่วมกัน”พลตำรวจเอกวิสนุ กล่าว

พลตำรวจเอกวิสนุ  กล่าวว่าสำหรับนโยบายเร่งด่วนในปี2567 ประกอบด้วย 1. การปรับปรุงพื้นที่ทางกายภาพ และระบบอำนวยความสะดวกทั้งในและนอกอาคารของสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง ให้พร้อมตอบสนองนโยบายเพิ่มปริมาณนักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างชาติของรัฐบาล และ 2.การเร่งบูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วน เพื่อยกระดับสนามบินสุวรรณภูมิเป็นสนามบินชั้นนำ ตามมาตรฐานสากลให้ได้ในปี 2567

สำหรับนโยบายแผนระยะยาว จะเห็นได้ว่า หลังจากสถานการณ์โควิดได้คลี่คลาย ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ สถิติในเดือนตุลาคม 2565 – กันยายน 2566 พบว่าได้มีผู้มาใช้บริการสนามบินรวมกว่า100.1 ล้านคน โดยที่สนามบินสุวรรณภูมิ ได้รองรับผู้โดยสารมากที่สุด คือ จำนวนกว่า 48.37 ล้านคน นั่นหมายถึง นิมิตหมายอันดีของประเทศไทยในการขับเคลื่อนทางด้านเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว ประกอบกับในส่วนของสนามบินสุวรรณภูมิได้ถูกผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค

พลตำรวจเอกวิสนุ กล่าวว่า เพื่อสนองนโยบายของรัฐบาลตนจะเดินหน้าผลักดันการขยายขีดความสามารถ สนามบินสุวรรณภูมิ ทั้งโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารทางทิศเหนือ สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ North Expansion และส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออกของอาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิ (East Expansion)  ซึ่งโครงการ North Expansion เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับปริมาณผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นเป็น 90 ล้านคนต่อปี ปัจจุบันกระทรวงคมนาคมได้ให้ความเห็นชอบแล้วและอยู่ในระหว่างการพิจารณาของ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติงบประมาณ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โฆษกรัฐบาล เผยสนามบินสุวรรณภูมิ ติดอันดับ 58 สนามบินที่ดีที่สุดในโลก

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐนตรี เปิดเผยถึงผลสำเร็จจากการทำงานของรัฐบาลตามวิสัยทัศน์ที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายก

นายกฯ ปลุก 'สุวรรณภูมิ' ติดท็อป 20 โลก ใน 5 ปี ดันไทยศูนย์กลางการบิน

'เศรษฐา' ประกาศประเทศไทยตื่นแล้วฝันดี เนรมิตสุวรรณภูมิกลับมาติด 1 ใน 20 ของโลก ภายใน 5 ปี ตั้งเป้ารองรับผู้โดยสาร 150 ล้านคน ขอเวลา 6 เดือนจะไม่เห็นภาพผู้โดยสารต่อคิว

ท่องเที่ยวฟื้น 'ทอท.' กางแผนลุยสร้างอาคารผู้โดยสารทางด้านทิศใต้รับผู้โดยสาร 150 ล้านคน

อุตสาหกรรมการบินโตต่อเนื่อง ทอท.เปลี่ยนแผนแม่บทขยายขีดความสามารถสนามบินระยะ 10 ปีใหม่ ชะลอสร้างอาคารผู้โดยสารในประเทศ “North Expansion” กลับมาหยิบสร้างอาคารผู้โดยสารทางด้านทิศใต้ก่อน เหตุผู้โดยสารระหว่างประเทศพุ่งทะลัก เชื่อเป็นการแก้ปัญหาลดความแออัดในสนามบินสุวรรณภูมิ หวังรองรับผู้โดยสาร 150 ล้านคนต่อปี