6 ก.พ. 2567 – เงินเฟ้อทั่วไปของไทยเดือนม.ค. 2567 ติดลบเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันและต่ำสุดในรอบ 35 เดือนที่ -1.11% YoY โดยเป็นผลมาจากมาตรการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของภาครัฐ ประกอบกับราคาสินค้าในกลุ่มอาหารสดที่ยังคงปรับลดลงต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจไทยยังไม่นับว่าเข้าสู่ภาวะเงินฝืด เนื่องจากรายการสินค้าและบริการในตะกร้าเงินเฟ้อไม่ได้ปรับลดลงทุกรายการ โดยในเดือนม.ค. 2567 มี 265 จาก 430 รายการที่ราคายังคงปรับขึ้น
ในขณะที่เงินเฟ้อฟื้นฐานเดือน ม.ค.2567 อยู่ที่ 0.52% YoY ซึ่งแม้ว่าเงินเฟ้อพื้นฐานจะอยู่ในระดับต่ำมาก สะท้อนแรงกดดันด้านอุปสงค์ที่จำกัด แต่ก็ยังไม่ถือว่าเป็นตัวเลขที่น่ากังวลเนื่องจากเงินเฟ้อทั่วไปของไทยก่อนช่วงวิกฤติโควิดก็อยู่ที่ราว 0.5% โดยเฉลี่ย
เมื่อมองไปในระยะข้างหน้า ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าเงินเฟ้อทั่วไปของไทยมีโอกาสที่จะติดลบต่อเนื่องในไตรมาส 1/2567 ตามมาตรการลดค่าครองชีพด้านพลังงานที่ยังมีอยู่ อย่างไรก็ดี ในช่วงไตรมาส 2 เป็นต้นไปคาดว่าเงินเฟ้อทั่วไปจะกลับมาเป็นบวก เนื่องจากทางภาครัฐมีแนวโน้มลดการอุดหนุนราคาพลังงานและทยอยปรับขึ้นราคาพลังงานอย่างค่อยเป็นค่อยไป นอกจากนี้ เงินเฟ้อของไทยยังมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากความขัดแย้งในทะเลแดงที่ส่งผลให้ค่าระวางเรือปรับสูงขึ้น
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยในปีนี้จะอยู่ที่ราว 0.8% ซึ่งต่ำกว่ากรอบเงินเฟ้อของธปท. ที่ 1-3% ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้ที่ ธปท. จะพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในช่วงครึ่งหลังปีนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘ธอส. - เอ็กซิม’ ประกาศหั่นดอกเบี้ยรับนโยบายรัฐบาล
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ขานรับนโยบายรัฐบาล ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้า ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ย เงินกู้ MRR 0.25% ต่อปี ด้านเอ็กซิม ประกาศลดดอกเบี้ยช่วยลูกค้า
'ดร.นงนุช' ยกหลักเศรษฐศาสตร์อธิบายเรื่องลดดอกเบี้ย-ค่าเงินบาท
รศ.ดร.นงนุช ตันติสันติวงศ์ หัวหน้าฝ่ายบริหารความเสี่ยงและโครงสร้างองค์กร
จะเอาให้ได้! 'เศรษฐา' เรียก 4 แบงก์ยักษเข้าทำเนียบฯ คุยลดดอกเบี้ย หลังธปท.ไม่เล่นด้วย
ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ได้เรียก 4 ธนาคารเข้าพบ