'สุริยะ' ขีดเส้นงานก่อสร้างบนถนนพระราม2 เสร็จภายในปี68 หากล่าช้าขู่ลดเกรดผู้รับเหมา

‘สุริยะ’ สั่งเร่งเครื่องสร้าง‘ทางด่วน-มอเตอร์เวย์’บนถนนพระราม 2 รวม 16 สัญญา ขีดเส้นให้แล้วเสร็จตามแผนภายใน มิ.ย. 68 ส่วนตอน 4, 6 มอเตอร์เวย์ M82 ติดสร้างทางขึ้น-ลง คาดเสร็จ ธ.ค. 68 เล็งปลดล็อกขยายเวลาให้ผู้รับเหมา เน้นย้ำความปลอดภัย ชี้หากไม่เสร็จตามกำหนด จ่อฟันผู้รับเหมาตกชั้นพิเศษ ลั่นตรวจงานทุก 2 เดือน

4 มี.ค. 2567 -นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับกรมทางหลวง (ทล.), การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.), ผู้รับเหมาทุกรายที่มีสัญญาการก่อสร้างโครงการบนทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วันนี้ (4 มีนาคม 2567) ว่า ตามที่ได้มอบหมายให้ ทล. และ กทพ. เชิญผู้รับเหมาที่มีสัญญาก่อสร้างบนถนนพระราม 2 มาหารือถึงอุปสรรคปัญหาจากการดำเนินงานที่เกิดขึ้น รวมถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด และเร่งรัดทุกโครงการฯ และทุกสัญญาจ้างให้แล้วเสร็จตามที่กำหนดไว้

ทั้งนี้ ตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เมื่อเดือนกันยายน 2566 ที่ผ่านมานั้น ได้รับทราบปัญหาดังกล่าวมาโดยตลอด จึงได้เชิญผู้รับเหมาที่มีสัญญาบนถนนพระราม 2 ใน 3 โครงการฯ  รวมทั้งหมด 16 สัญญา มาหารือถึงแนวทาง และกำหนดมาตรการ รวมถึงระยะเวลาการดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จตามแผนที่วางไว้ประกอบด้วย 1.โครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก รับผิดชอบโดย กทพ. จำนวน 2 สัญญา2.โครงการก่อสร้างทางยกระดับทางหลวงหมายเลข 35 สายธนบุรี-ปากท่อ ตอนทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน-เอกชัย รับผิดชอบโดย ทล. จำนวน 3 สัญญา และ 3.โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษ (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 82 (M82) สายทางยกระดับบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว รับผิดชอบโดย ทล. จำนวน 11 สัญญา

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ได้สั่งการและเน้นย้ำว่า ทุกโครงการฯ และทุกสัญญา จะต้องแล้วเสร็จภายในเดือน มิถุนายน2568 แต่ในส่วนของโครงการมอเตอร์เวย์ M82 ตอนที่ 4 จุดเริ่มต้นบริเวณ กม.25+734-กม.26+998 ในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร รวมระยะทาง 1.264 กิโลเมตร (กม.) และตอนที่ 6 จุดเริ่มต้นบริเวณ กม.28+664-กม.29+772  ระยะทางรวมประมาณ 1.108 กม. ที่จะแล้วเสร็จในช่วงเดือนธันวาคม 2568 เนื่องจากทั้ง 2 ตอนดังกล่าว จะต้องมีการก่อสร้างทางขึ้น-ลงบริเวณด่านด้วย อย่างไรก็ตาม หลังจากในปี 2568 ไปแล้ว จะไม่มีโครงการก่อสร้างบนถนนพระราม 2 อีกต่อไป

“ได้เร่งรัดให้ดำเนินการแล้วเสร็จเร็วขึ้นกว่ากำหนด โดยผู้รับเหมาทุกรายและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ยืนยันว่าสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ตามกำหนด ซึ่งรัฐบาล และกระทรวงคมนาคม พร้อมให้การสนับสนุนทุกภาคส่วนอย่างไรก็ตาม จะมีการประชุมติดตามความคืบหน้าโครงการฯ ในทุก ๆ 2 เดือน” นายสุริยะ กล่าว

สำหรับในการประชุมครั้งนี้ ผู้รับเหมาไดัรายงานถึงปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นในระหว่างการดำเนินการก่อสร้างอาทิ ส่วนใหญ่การก่อสร้างโครงการอยู่ใกล้กับชุมชนหลายหลังคาเรือน จึงต้องมีความระมัดระวัง โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัย ประกอบกับพื้นที่การก่อสร้างมีจำกัด รวมถึงการรื้อย้ายสาธารณูปโภคต่างๆ เช่น อุโมงค์ใต้ดิน สายไฟฟ้าใต้ดิน สายสื่อสาร เป็นต้น จึงทำให้การก่อสร้างมีความล่าช้า แต่ในขณะนี้ผู้รับเหมาได้แก้ไขทุกปัญหามาอย่างต่อเนื่องขณะที่การแก้ปัญหาเบื้องต้นนั้น จะพิจารณาแผนขยายระยะเวลาในการก่อสร้างเพิ่มเติม

โดยเฉพาะวันจันทร์-ศุกร์ในช่วงที่การจราจรน้อยกว่าปกติ และจะมีการเบี่ยงการจราจรหรือสลับช่องจราจร เพื่อให้ผู้รับเหมาสามารถดำเนินการก่อสร้างได้ อย่างไรก็ตาม การก่อสร้างที่เร็วขึ้นนั้น ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก และการจราจรต้องไม่ติดขัด ปัจจุบันการจราจร บนถนนพระราม2 ตั้งแต่ช่วงดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอก กรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ระยะทาง 11 กิโลเมตรมีปริมาณการจราจรเฉลี่ย 256,000 คันต่อวัน ส่วนช่วงเทศกาล รวมถึงวันเสาร์-อาทิตย์อยู่ที่ 400,000 คันต่อวัน

นายสุริยะ กล่าวอีกว่า จากนโยบายและมาตรการดังกล่าว ได้แจ้งไปยังผู้รับเหมาว่า หากผู้รับเหมารายใด ไม่สามารถดำเนินงานให้แล้วเสร็จตามสัญญาที่กำหนด หรือภายในเดือนมิถุนายน 2568 จะมีการตักเตือน รวมถึงพิจารณาลดชั้นผู้รับเหมาที่ขึ้นบัญชีกับกรมบัญชีกลาง จากชั้นพิเศษลดลงเป็นชั้น 1 ซึ่งจะมีผลต่อการรับงานครั้งถัดไป โดยในช่วงที่ผ่านมานั้น มีผู้รับเหมาหลายรายเลื่อนชั้นจำนวนมาก แต่ยังไม่มีรายใดตกชั้น ซึ่งหลังจากนี้ผู้รับเหมาทุกราย ต้องมีความมุ่งมั่นในการทำงาน และมุ่งเน้นด้านความปลอดภัย และดำเนินโครงการฯ ให้เป็นไปตามแผนที่กำหนดอย่างเคร่งครัด

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เดินหน้า ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ เงินค่าทดแทน เวนคืนอสังหาริมทรัพย์

'รัดเกล้า' เผย คค. ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการกำหนดเงินค่าทดแทนภาระในอสังหาริมทรัพย์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและให้ความเป็นธรรมแก่ประชาชน