ยอดจัดตั้งบริษัทใหม่ 2 เดือน ปี 67 มีจำนวน 17,270 ราย จับตาธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรง

กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยยอดจัดตั้งบริษัทใหม่ 2 เดือน ปี 67 มีจำนวน 17,270 ราย เพิ่ม 1.57% ทุนจดทะเบียนรวม 45,794.41 ล้านบาท เพิ่ม 14.52% คาดแนวโน้มโตต่อเนื่อง เหตุได้แรงหนุนจากท่องเที่ยวฟื้นตัว การบริโภคเอกชนกลับมา ส่งออกดีขึ้น ลงทุนโครงการใหญ่เดินหน้า และมีการส่งเสริมธุรกิจ BCG จับตาธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรง ตั้งใหม่เพิ่ม ทั้งจำนวนและทุน

5 มี.ค.2567 -นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ทั่วประเทศ ในช่วง 2 เดือนของปี 2567 (ม.ค.-ก.พ.) มีการจัดตั้งจำนวน 17,270 ราย เพิ่มขึ้น 1.57% ทุนจดทะเบียนรวม 45,794.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.52% โดยธุรกิจที่มีการจดทะเบียนจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร ส่วนธุรกิจที่เลิกประกอบกิจการ ในช่วง 2 เดือน มีจำนวน 1,898 ราย ลดลง 12.37% ทุนจดทะเบียนรวม 6,361.29 ล้านบาท ลดลง 11.74% โดยธุรกิจที่มีการเลิกประกอบธุรกิจสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร 71 ราย

สำหรับปัจจัยที่ทำให้การจดตั้งบริษัทใหม่ขยายตัว มาจากการฟื้นตัวและเติบโตอย่างชัดเจนของภาคการท่องเที่ยว หลังจากการชะลอตัวจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา โดยเห็นได้ชัดจากธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวมีการจัดตั้งเพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก เพื่อรองรับกับความต้องการในสินค้าและบริการของผู้บริโภค และยังมีการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ จากการบริโภคภาคเอกชนที่กลับมาขยายตัว ภาคการส่งออกที่เริ่มฟื้นตัว และโครงการลงทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐขนาดใหญ่ที่กลับมาเดินหน้าก่อสร้างโครงการอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจตามโมเดลเศรษฐกิจใหม่ Bio-Circular-Green Economy หรือ BCG Model ซึ่งส่งผลต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้องให้มีการเติบโตตามไปด้วย แต่ยังคงต้องติดตามปัจจัยด้านเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย และหนี้ครัวเรือน เพื่อประเมินสถานการณ์ในระยะยาวต่อไป

ทั้งนี้ แนวโน้มการจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ในไตรมาสแรกของปี 2567 คาดว่าจะฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยมีการจัดตั้งอยู่ที่ 23,000-27,000 ราย และตัวเลขทั้งปีจะอยู่ที่ 90,000-95,000 ราย

นางอรมน กล่าวว่า กรมได้วิเคราะห์การจัดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ ในช่วง 2 เดือน ปี 2567 พบว่า ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ หรือธุรกิจขายปลีกทางอินเทอร์เน็ต มีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ เพิ่มขึ้นทั้งจำนวน และมูลค่าทุนจดทะเบียน โดยมีจำนวน 479 ราย เพิ่มขึ้น 31.96% ทุนจดทะเบียนรวม 555.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.91% เนื่องจากกรมสรรพากรกำหนดให้อิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์ม มีบัญชีพิเศษที่ต้องจัดทำและนำส่งข้อมูลผู้ประกอบการให้แก่กรมสรรพากร ซึ่งจากมาตรการดังกล่าว คาดว่าจะมีธุรกิจอีคอมเมิร์ซเข้ามาจดทะเบียนจดตั้งธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้น และยังเป็นการส่งเสริมให้ธุรกิจของไทยเข้าสู่ระบบมากยิ่งขึ้น

ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 29 ก.พ.2567) มีธุรกิจที่ดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 905,544 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 21.86 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นบริษัทจำกัด 703,449 ราย สัดส่วน 77.68% ห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 200,644 ราย สัดส่วน 22.16% และบริษัทมหาชนจำกัด 1,451 ราย สัดส่วน 0.16%

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ภูมิธรรม' ยกทีมจีนถกผู้ว่าฯ สิบสองปันนา เพิ่มตู้ส่งผลไม้ หนุนส่งออกโค

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังนำคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ เดินทางมาปฎิบัติราชการที่สาธารณรัฐประชาชนจีน และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ระหว่างวันที่ 27-29 เมษายน 2567 โดยได้เข้าหารือกับนายตาว เหวิน

”ภูมิธรรม“ ประกาศสุดยอดข้าวหอมมะลิ และข้าวสารไทยแห่งปี หนุนเกษตรกรและโรงสีรักษาคุณภาพขั้นสูง ขยายตลาดทั่วโลก

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในงานประกาศผลและพิธีมอบรางวัลการประกวดข้าวหอมมะลิของประเทศไทย ประจำปี 2566 (ครั้งที่ 41) และรางวัลการประกวดข้าวสารคุณภาพดีเด่นแห่งประเทศไทยประจำปี พ.ศ. 2566 ซึ่งจัดโดยกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ในวันนี้ (24 เมษายน 2567)

'ชัย' ฟุ้งแค่ไตรมาสแรกต่างชาติลงทุนในไทยกว่า 3 หมื่นล้าน!

โฆษกรัฐบาล เผยนายกฯ ชื่นชมผลจากความสำเร็จรัฐบาล ไตรมาสแรกปี 2567 ต่างชาติลงทุนในไทยกว่า 3 หมื่นล้านบาท ส่งเสริมโอกาสการประกอบอาชีพ เพิ่มรายได้ให้คนไทย

พาณิชย์ตรวจเข้ม จับตาผู้ประกอบการรับซื้อข้าวเปลือกอย่างใกล้ชิด

นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ตามที่อธิบดีได้สั่งการให้ตรวจเข้มการรับซื้อสินค้าเกษตร ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของนายภูมิธรรม เวชยชัย

ต่างชาติขนเงินลงทุนในไทย 3.5 หมื่นล้าน ญี่ปุ่นยังเป็นอันดับ 1

พาณิชย์โชว์ไตรมาสแรกปี 2567 ต่างชาติลงทุนในไทย 35,902 ล้านบาท ญี่ปุ่นลงทุนอันดับหนึ่ง 19,006 ล้านบาท ตามด้วย สิงคโปร์ 3,294 ล้านบาท และฝรั่งเศส 3,236 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 849 คน