พาณิชย์บุกดูไบโปรโมตข้าวไทย

“กรมการค้าต่างประเทศจัดกิจกรรมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้าวไทยในงานแสดงสินค้า Gulfood 2024 ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในระหว่างวันที่ 19 – 23 กุมภาพันธ์ 2567 โดยมีผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมคูหาต่อเนื่องตลอดงาน”

7 มี.ค. 2567 – นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ดำเนินการตามนโยบาย “รักษาตลาดเดิม เพิ่มตลาดใหม่ ในการส่งออกไปต่างประเทศ” ของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายภูมิธรรม เวชยชัย) โดยการจัดคณะผู้แทนเดินทางไปเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อเข้าร่วมงานแสดงสินค้า Gulfood 2024 เมื่อวันที่ 19 – 23 กุมภาพันธ์ 2567 ณ Dubai World Trade Centre ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยมีผู้ประกอบการเข้าร่วมจัดแสดงสินค้ากว่า 5,500 ราย จาก 127 ประเทศทั่วโลก อาทิ สหรัฐอเมริกา รัสเซีย ญี่ปุ่น ตุรกี อินเดีย จีน และไทย เป็นต้น และมีผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้นำเข้า และนักธุรกิจมาพบปะเจรจาธุรกิจกว่า 100,000 ราย

สำหรับกรมการค้าต่างประเทศได้ออกคูหาประชาสัมพันธ์ข้าวไทยภายใต้ Thailand Pavilion ที่จัดโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศซึ่งมีผู้ประกอบการไทยรวม 124 ราย โดยเป็นผู้ประกอบการค้าข้าวไทย จำนวน 24 ราย ทั้งนี้ ภายในคูหาของกรมการค้าต่างประเทศได้จัดกิจกรรมต่างๆ ได้แก่ การจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับความหลากหลายของข้าวไทยควบคู่กับเครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทย การจัดแสดงตัวอย่างและจัดให้ชิมข้าวไทยชนิดต่างๆ เช่น ข้าวหอมมะลิไทย ข้าวขาว ข้าวนึ่ง ข้าวเหนียว เพื่อให้ผู้เข้าชมงานได้สัมผัสรสชาติของข้าวไทยที่มีความหลากหลายและเป็นเอกลักษณ์ และได้มีการนำเสนอข้าวคุณลักษณะพิเศษของไทยและข้าวเพื่อสุขภาพที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อาทิ ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวหอมนิล ข้าว กข43 เป็นต้น เพื่อตอบสนองความต้องการใหม่ๆ เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น

โดยคูหาของกรมการค้าต่างประเทศได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีทั้งจากผู้นำเข้า ผู้กระจายสินค้า และผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมคูหาทั่วไปจากในภูมิภาคตะวันออกกลาง เอเชียใต้ แอฟริกา ยุโรป ประมาณกว่า 1,000 คน โดยมีการสอบถามรายละเอียดต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องคุณลักษณะและคุณภาพมาตรฐานข้าวไทย และราคาข้าว รวมทั้งมีการชื่นชมในรสชาติ คุณภาพและมาตรฐานข้าวไทยด้วย

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ภูมิภาคตะวันออกกลางเป็นอีกตลาดหนึ่งที่มีศักยภาพ เนื่องจากชาวอาหรับมีกำลังซื้อสูง ประกอบกับสภาพภูมิประเทศที่แห้งแล้งไม่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูกพืชผลทางเกษตรเพื่อการบริโภค ทำให้ประเทศในแถบนี้ยังต้องนำเข้าอาหารและสินค้าเกษตรจากต่างประเทศเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะสินค้าข้าวที่นำเข้าจากต่างประเทศประมาณกว่า 7 ล้านตัน/ปี และมีแนวโน้มที่จะนำเข้าอาหารและสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้นโดยเป็นไปในทิศทางเพื่อสุขภาพ และความมั่นคงทางด้านอาหาร แต่เนื่องจากในปี 2566 เกิดความขัดแย้งในตะวันออกกลางซึ่งส่งผลกระทบต่อการขนส่ง ประกอบกับเมื่อปี 2565 ประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลางนำเข้าข้าวจากต่างประเทศมากถึงเกือบ 7.5 ล้านตัน ทำให้มีปริมาณสต็อคข้าวมากเพียงพอ ปริมาณการนำเข้าข้าวของภูมิภาคตะวันออกกลางในปี 2566 จึงคงเหลือประมาณ 7.2 ล้านตัน และไทยสามารถส่งออกข้าวไปภูมิภาคตะวันออกกลางได้ประมาณ 1.16 ล้านตัน ลดลงจากปี 2565 ร้อยละ 43 ที่ส่งออกประมาณ 2.02 ล้านตัน อย่างไรก็ดี การเข้าร่วมงาน Gulfood ในครั้งนี้ จึงเป็นช่องทางอันดีในการรักษาตลาดข้าวไทยในภูมิภาคตะวันออกกลาง และกระตุ้นความต้องการข้าวไทยโดยเฉพาะข้าวคุณภาพดีและข้าวคุณลักษณะพิเศษในตลาดตะวันออกกลาง และเพิ่มปริมาณการส่งออกข้าวไทยให้มากขึ้นภายหลังสถานการณ์ความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลางคลี่คลาย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กรมการค้าต่างประเทศคุมเข้มคุณภาพมันเส้นนำเข้า-ส่งออก

กรมการค้าต่างประเทศ (คต.) ไม่แผ่ว เดินเครื่องคุมเข้มคุณภาพมันเส้นนำเข้า-ส่งออกต่อเนื่อง ล่าสุดพบผู้นำเข้ามันเส้นด้อยคุณภาพเพิ่มอีก 7 ราย รวมเป็น 23 ราย สั่งลงโทษทันที

พาณิชย์โชว์ Soft Power อาหารไทย กินกับ 'ข้าวไทย'

อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศนำทัพประชาสัมพันธ์ข้าวพรีเมียม ส่งเสริม Soft Power อาหารไทย ในงานประชุมข้าวนานาชาติ ณ เมืองดานัง สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมค้าข้าวทั่วโลกเข้าร่วมกว่า 400 ราย และใช้โอกาสนี้เข้าร่วมการประชุมความร่วมมือทางการค้าข้าวไทย - เวียดนาม ครั้งที่ 17 เพื่อกระชับความสัมพันธ์ แลกเปลี่ยนข้อมูลการผลิตและการค้าข้าว ส่งเสริมและสนับสนุนความร่วมมือทางการค้าข้าวระหว่างสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยและสมาคมอาหารเวียดนามในฐานะผู้ส่งออกข้าวสำคัญของโลก

ส่งออกอาเซียนพุ่ง! ใช้สิทธิฯ FTA สูงสุดตลอดปี 2566

กรมการค้าต่างประเทศเปิดเผยตัวเลขการใช้สิทธิประโยชน์จากความตกลง FTA ตลอดทั้งปี 2566 ตั้งแต่เดือนมกราคม - ธันวาคม มีมูลค่ารวม 81,589.24 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยอันดับที่หนึ่งที่มีการใช้สิทธิฯ เป็นตลาดอาเซียน ตามด้วยอาเซียน - จีน ไทย - ญี่ปุ่น ไทย - ออสเตรเลีย และอาเซียน – อินเดีย

รัฐบาล โชว์การใช้สิทธิภายใต้ FTA ส่งออก ปี66 ทะลุ 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์

การส่งออกภายใต้ FTA ช่วงเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา พบว่ามีมูลค่าส่งออกสินค้ารวม 75,842.65 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 82.66% ของการส่งออกสินค้าที่ไทยได้รับสิทธิประโยชน์ภายใต้ FTA