‘แอร์เอเชีย’ บูมตลาดจีน รับนโยบาย Visa Free เปิดรูทใหม่เมืองที่ 12 สู่แดนมังกร บินตรงทุกวัน ‘ดอนเมือง-ปักกิ่ง’ ดีเดย์เทคออฟ 1 ก.ค.นี้ คาดปี 67 มีผู้โดยสารเส้นทางไทย-จีนกว่า 1.3 ล้านคน เพิ่มขึ้น 27% เผยยอดจองล่วงหน้าช่วงสงกรานต์ ภาพรวมจองแล้ว 70-80% ลุยเปิดเพิ่มเที่ยวบินพิเศษ 3 เส้นทาง 3,000 ที่นั่ง สนองรัฐบาล ชี้แห่จองตั๋วแล้ว 50-60% พร้อมคาดการณ์ปีนี้ มีผู้โดยสาร 21 ล้านคน ดันรายได้โต 20%
27 มี.ค. 2567 – นางสาวธันย์สิตา อัครฤทธิภิรมย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ สายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า จากนโยบาย Visa Free ระหว่างไทย-จีนของรัฐบาลนั้น ส่งผลให้นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย และชาวจีน เดินทางท่องเที่ยวระหว่าง 2 ประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2566 ที่ผ่านมา แอร์เอเชียมีผู้โดยสารชาวจีนเดินทางมาประเทศไทยมากกว่า 600,000 คน หรือคิดเป็น 18% ของนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาท่องเที่ยวไทยจากข้อมูลของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และคาดว่า จะเพิ่มขึ้นมากกว่า 20% ในปี 2567
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-25 มี.ค. 2567 พบว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยแล้วกว่า 230,000 คน สะท้อนให้เห็นว่า ตลาดเส้นทางบินจีนของแอร์เอเชียเติบโตได้อย่างรวดเร็ว โดยในช่วง 2 เดือนเเรก (ม.ค.-ก.พ. 2567) มีอัตราขนส่งผู้โดยสารเฉลี่ย (Load Factor) อยู่ที่ 93% ส่วนนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางไปประเทศจีนนั้น คาดว่า มี.ค. 2567 จะมีจำนวนประมาณ 20,000 คน เพิ่มขึ้น 3 เท่าจาก ม.ค. 2567 ซึ่งยังไม่มีนโยบาย Visa Free ที่มีผู้โดยสารชาวไทยอยู่ที่ประมาณ 6,000 คน อย่างไรก็ตาม คาดว่า ในปี 2567 แอร์เอเชียจะขนส่งผู้โดยสารในเส้นทางจีนที่ในปัจจุบันให้บริการ 11 เมือง รวม 101 เที่ยวบิน/สัปดาห์สูงถึง 1.3 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้น 27% จากปี 2566
“แอร์เอเชีย มีสัดส่วนทางการตลาดภายในประเทศที่แข็งเเกร่ง และมีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุด อยู่ที่ประมาณ 39% (ม.ค. 2567) มากที่สุดตั้งแต่เปิดให้บริการมา นอกจากนี้ตลาดระหว่างประเทศถือเป็นอีกกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้แอร์เอเชียเป็นผู้นำที่ครองใจนักเดินทางทุกคน โดยเฉพาะการมีเส้นทางบินที่ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคทั้งอาเซียน อินเดีย เอเชียใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน และตลาดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ที่มีสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 12-13%” นางสาวธันย์สิตา กล่าว
นางสาวธันย์สิตา กล่าวต่อว่า ล่าสุด แอร์เอเชียได้เปิดเส้นทางบินใหม่ เส้นทางดอนเมือง-ปักกิ่ง ซึ่งถือเป็นครั้งแรก หลังจากที่ผ่านมาได้เปิดให้บริการในเส้นทางเชียงใหม่-ปักกิ่งไปแล้ว โดยการเปิดเส้นทางบินใหม่ดังกล่าว นับเป็นเมืองที่ 12 ที่แอร์เอเชียเปิดให้บริการบินตรงไปยังประเทศจีน (แอร์เอเชียบินตรงเชื่อมไทย-จีน 12 เส้นทาง จากกรุงเทพ (ดอนเมือง) สู่ กวางโจว เซินเจิน เฉิงตู ฉางซา ฉงชิ่ง คุนหมิง หางโจว ซัวเถา อู่ฮั่น ซีอาน เซี่ยงไฮ้ และปักกิ่ง) ทั้งนี้ แอร์เอเชียพร้อมให้บริการแบบบินตรงทุกวัน วันละ 1 เที่ยวบิน ใช้เวลาบินไม่เกิน 5 ชั่วโมง โดยได้เปิดให้จองตั๋วโดยสารแล้วตั้งแต่วันนี้ (26 มี.ค. 2567) ราคารวมต่อเที่ยวเริ่มต้น 3,990 บาท และจะเริ่มทำการบินในวันที่ 1 ก.ค. 2567 เป็นต้นไป
สำหรับการเปิดเส้นทางบินใหม่ ดอนเมือง-ปักกิ่งนั้น เพื่อดึงนักท่องเที่ยวจีน และตอบรับนักท่องเที่ยวไทยที่ได้เรียกร้อง โดยจะได้สัมผัสความมหัศจรรย์ เเละยิ่งใหญ่ของเมืองปักกิ่ง จากการบินตรงกับสายการบินสัญชาติไทย และเป็นสายการบินเดียวที่บินตรงจากสนามบินดอนเมือง คาดว่า จะได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากผู้ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์คลาสสิค หรือชอบความอาร์ต ความทันสมัย เทคโนโลยีของเมืองปักกิ่ง อีกทั้ง “ปักกิ่ง” ยังเป็นเมืองที่เหมาะกับการท่องเที่ยว มีสถานที่สำคัญขึ้นชื่อห้ามพลาดมากมาย อาทิ กำเเพงเมืองจีน พระราชวังฤดูร้อน พระราชวังต้องห้าม จัตุรัสเทียนอันเหมิน สนามกีฬาแห่งชาติ รวมทั้งศูนย์และโซนเเสดงศิลปะที่หลากหลายด้วย
นางสาวธันย์สิตา กล่าวอีกว่า ขณะที่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 ที่จะถึงนี้ แอร์เอเชีย ได้ขานรับนโยบายของรัฐบาล กระทรวงคมนาคม และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) และรองรับการเดินทางของประชาชน ที่ต้องการเดินทางกลับภูมิลำเนา โดยได้เปิดเที่ยวบินพิเศษภายในประเทศ 3 เส้นทาง คือ ดอนเมือง สู่เชียงใหม่ ขอนแก่น และกระบี่ รวม 3,000 ที่นั่ง ซึ่งล่าสุดมียอดจองตั๋วโดยสารล่วงหน้าใน 3 เส้นทางดังกล่าวแล้วประมาณ 50-60% ส่วนภาพรวมในทุกเส้นทางภายในประเทศของแอร์เอเชีย มียอดจองตั๋วล่วงหน้าช่วงสงกรานต์แล้วกว่า 70-80%
ในส่วนของปี 2567 คาดการณ์ว่า แอร์เอเชีย จะมีผู้โดยสารอยู่ที่ประมาณ 20-21 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ที่มีผู้โดยสารอยู่ที่ 18.9 ล้านคน ทั้งนี้ ตั้งเป้าหมายว่า จะมีรายได้เพิ่มขึ้น 20% จากปีที่ผ่านมา หลังจากภาพรวมด้านการท่องเที่ยวของไทยเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงนโยบาย Visa Free ของรัฐบาล โดยในปัจจุบัน แอร์เอเชียให้บริการเส้นทางระหว่างประเทศ 51 เส้นทางบิน 18 ประเทศ รวม 480 เที่ยวบิน/สัปดาห์ ซึ่งในปีนี้แอร์เอเชีย มีแผนเปิดเส้นทางบินใหม่ในเส้นทางระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นอีก 3 เส้นทาง เช่น เส้นทางไปยังเนปาล
ขณะที่เส้นทางบินภายในประเทศ ปัจจุบันให้บริการ 31 เส้นทาง รวม 754 เที่ยวบิน/สัปดาห์ และมีแผนจะเปิดเพิ่มอีก 2 เส้นทาง อย่างไรก็ตาม การเปิดเส้นทางบินใหม่นั้น คาดว่า จะได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 2/2567 ในส่วนของฝูงบินของแอร์เอเชีย ปัจจุบันมีเครื่องบิน จำนวน 56 ลำ ใช้ให้บริการ 51 ลำ และในปี 2567 มีแผนจะรับฝูงบินเพิ่มอีก 4 ลำ แบ่งเป็น แอร์บัส เอ 321 ลำใหม่ 3 ลำ และแอร์บัส เอ 320 อีก 1 ลำ จะทำให้ภายในสิ้นปี 2567 แอร์เอเชียจะมีเครื่องบินรวม 60 ลำ คาดว่า จะนำมาให้บริการได้ 54-55 ลำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นักท่องเที่ยวต่างชาติแห่เข้าไทยพุ่ง23 ล้านคน
‘เสริมศักดิ์’เปิดตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาแตะ 23 ล้านคน สร้างรายได้ 1,086,786 ล้านบาท จีนอันดับ1เข้าไทย 138,498 ค
เฮ นักท่องเที่ยวต่างชาติแห่เข้าไทยทะลุ 22 ล้านคน
‘เสริมศักดิ์’ โชว์ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติแห่เข้าไทยทะลุ 22 ล้านคน จีนครองแชมป์ 4.55 ล้านคน สร้างสร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 1 ล้านล้านบาท
เซ็นทรัลเวิลด์จัดงาน 'Mooncake Fest 2024' ดึงนักช้อปเชื้อสายจีน หวังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไตรมาส3
เซ็นทรัลเวิลด์จัดงานใหญ่ Mooncake Fest 2024 ดึงดูดนักช้อปเชื้อสายจีนจากทั่วโลก หวังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไตรมาส 3 พร้อมเพิ่มช้อปออนไลน์รับส่วนลดสุดคุ้ม ตั้งแต่วันนี้ ถึง 17 ก.ย. 67
ปรบมือ ตร.ท่องเที่ยวพะงันทำงานรวดเร็ว ช่วยสาวอิสราเอลได้กระเป๋าเงินคืน
11 ส.ค.2567 – เมื่อวันที่ 10 ส.ค.เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงันได้รับแจ้งว่านักท่องเที่ยวชื่อ MISS NOGA LEV อายุ 24 ปี สัญชาติ อิสราเอล เดินทางมายังหน่วยบริการตำรวจท่องเที่ยวเพื่อขอความช่วยเหลือเมื่อเวลา 19.00 น ว่าตนเองได้ทำกระเป๋าสตางค์หล่นบริเวณหน้าเซเว่นอีเลฟเวน สาขาศรีธนู ม.8 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี และได้มีหญิง ไม่ทราบสัญชาติ ลักษณะเป็นหญิงสาวเอเชีย ได้หยิบกระเป๋าผู้แจ้งขึ้นมาแล้วหยิบเอาไป โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2567 เวลา 00:30 น. ได้รายงานให้ พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.วินิจ บุญชิต สว.ส.ทท.5 กก.2 บก.ทท.3 จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงันออกสืบสวนสอบสวนบริเวณที่เกิดเหตุ ต่อมาเวลา 19:30 น. ของวันที่ 10 สิงหาคม 2567 หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงันเก็บรวบรวมข้อมูล พยาน หลักฐาน จึงได้ออกสืบสวนบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง บริเวณรอบนอก พบรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่หน้าร้านอาหาร บริเวณบ้านศรีธนู เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงันจึงได้เข้าไปตรวจสอบภายในร้าน พบผู้ต้องสงสัย รูปพรรณตรงตามหลักฐานจากกล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สอบถามผู้ต้องสงสัยถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ทราบชื่อ นางสาวจุฑารัตน์ เทพทุ่งหลวง สัญชาติไทย อายุ 23 ปี นางสาวจุฑารัตน์ให้การยอมรับ ตนเองได้ไปที่เซเว่นอีเลฟเว่นจริงเพื่อไปซื้อสินค้า และได้พบกระเป๋าสตางค์สีน้ำเงินลายดอกไม้ วางอยู่บนพื้นหน้าตู้กดเงินสด ตนจึงได้หยิบกระเป๋าสตางค์ใบนั้นขึ้นมาและเดินเข้าไปข้างในเซเว่นอีเลฟเว่น โดยมีการเปิดดูเพียงเล็กน้อยทราบว่าบัตรและเงินสดจำนวนหนึ่ง ตนเองก็ได้ทำการเลือกซื้อสินค้าต่อ จนกระทั่งเลือกซื้อสินค้าเสร็จและได้เดินมาชำระเงินที่เคาท์เตอร์ได้เดินออกจากร้านพร้อมสินค้าและกระเป๋าสตางค์ ได้เอาเงินผู้เสียหายไปใช้จำนวน 2,959 บาท เบื้องต้นเชิญตัวพบพนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน เพื่อสอบปากคำ และ ให้พนักงานสอบสวน ดำเนินการตามกฎหมาย ต่อไป ทั้งนี้ MISS NOGA LEV นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลได้กล่าวขอบคุณและชื่นชมตำรวจท่องเที่ยวในการช่วยเหลือตนได้อย่างรวดเร็วในครั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมสนับสนุนและภาพลักษณ์ที่ดีของการท่องเที่ยวตามนโยบายกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว.