นันยาง เปิดแคมเปญ 'พอดีไม่เหมือนกัน' ชวนนักเรียน เลิกกดดันตัวเอง หลังพบเด็กไทยสภาพจิตใจย่ำแย่สูงสุด

นันยาง เปิดแคมเปญ ‘พอดีไม่เหมือนกัน’ ชวนนักเรียน ‘เลิกกดดันตัวเอง’ หลังพบปัจจุบันเด็กไทยสภาพจิตใจย่ำแย่สูงสุด เปิดตัวแพลตฟอร์ม ‘ดูใจตน วอลเล็ต’ เติมความใจดีให้ตัวเอง พร้อมรับฟัง เข้าใจ และให้คำแนะนำ ย้ำ ‘ทุกคนมีดีพอ แค่พอดีไม่เหมือนกัน

2 พ.ค. 2567 – นายจักรพล จันทวิมล กรรมการผู้จัดการ บริษัท นันยางมาร์เก็ตติ้ง จำกัด เปิดเผยว่า ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา นันยางได้แสดงจุดยืนยุติปัญหาการบูลลี่ในโรงเรียน ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากทุกภาคส่วนโดยเฉพาะนักเรียนทั่วประเทศ โดยนันยางยังเดินหน้าสานต่อการรณรงค์ดังกล่าวด้วยการสร้างสรรค์แคมเปญ “พอดีไม่เหมือนกัน” เพื่อยุติการสร้างแรงกดดันและความคาดหวังกับตัวเองมากเกินไป หรือนำตัวเองไปเปรียบเทียบกับเพื่อนๆ เพราะจะทำให้บั่นทอนศักยภาพการใช้ชีวิตซึ่งเชื่อว่าจะช่วยเป็นที่พึ่งทางความคิดของเด็กนักเรียนได้อย่างดี

ทั้งนี้ ข้อมูลจากกรมสุขภาพจิต พบสถานการณ์สุขภาพจิตของเยาวชนไทย ในช่วงปี 2563-2567 มีความเครียดสูง ร้อยละ 24.83  มีภาวะเสี่ยงซึมเศร้า ร้อยละ 29.51 และเสี่ยงฆ่าตัวตายสูงถึง ร้อยละ 20.35  ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าวัยอื่นๆ สาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากความเครียด ความเหนื่อยล้า ซึ่งถือเป็นปัญหาที่ต้องเร่งให้ความช่วยเหลือ และยังทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับสาเหตุนันยางเลือกทำแคมเปญ “พอดีไม่เหมือนกัน” ให้นักเรียนเลิกกดดันตัวเอง เพราะพบว่าปัญหาดังกล่าวเกิดเพิ่มขึ้นมาก และเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นภายในจิตใจของเด็ก หากเด็กไม่พูดหรือไม่มีพื้นที่ที่จะรับฟังก็เท่ากับไร้ที่พึ่ง “การกดดันเหยียบย่ำตัวเอง หรือ Self-bully เป็นปัญหามองไม่เห็นด้วยตาเพราะเกิดขึ้นภายในจิตใจ วัยรุ่นมักไม่รู้ตัวว่ากำลังเกิดความคิดและพฤติกรรมที่บั่นทอนศักยภาพการใช้ชีวิตของตนเอง ส่วนหนึ่งเพราะเป็นสิ่งที่ได้ซึบซับมาจากสภาพแวดล้อม ผู้ใหญ่และคนรอบข้างก็มองไม่เห็น หรือมองว่าเด็กไม่มีเรื่องเครียดอะไรมาก ทำให้ไม่ทันได้สังเกตหรือรับฟังกัน ดังนั้น จะเป็นเรื่องดีที่แคมเปญนี้เป็นกระบอกเสียงให้ทุกคนที่กำลังรู้สึกแย่จากตัดสินและตำหนิตัวเองมากเกินไปได้มีที่ปรึกษาในการบรรเทาปัญหาดังกล่าว” ดร.จักรพล กล่าวถึงที่มาของแคมเปญ “พอดีไม่เหมือนกัน”

นางสาวกันตพร สวนศิลป์พงศ์ นักจิตวิทยาการปรึกษาผู้ร่วมก่อตั้ง MASTERPEACE และ ผศ.ดร.กันนิกา เพิ่มพูนพัฒนา กรรมการบริหารหลักสูตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาพัฒนาการมนุษย์ สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมนำเสนอผลการสำรวจข้อมูลการเกิด Self-bully ในเด็กนักเรียนว่า “การสำรวจข้อมูลจากทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ พบว่าวัยรุ่นอายุ 12-18 ปีกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ท้าทายด้านสุขภาพจิต เพราะเป็นวัยที่กำลังค้นหาอัตลักษณ์ตัวเองส่งผลให้เกิดการกดดันตัวเอง นอกจากสังคมรอบข้างจะเรียกร้องให้เขาประสบความสำเร็จแล้ว โลกโซเชียลคืออีกปัจจัยที่มำให้เขาเกิดการเปรียบเทียบตัวเองกับคนรอบข้างได้ง่ายขึ้นด้วย  

นอกจากผลการวิจัยในครั้งนี้ ประสบการณ์ทำงานส่วนตัวก็พบว่าวัยรุ่นมีความรู้สึกกดดันตัวเองและรู้สึกว่าตัวเอง ‘ยังดีไม่พอ’ ซึ่งปรากฏการณ์นี้บอกว่าไม่ใช่แค่คุณครูหรือนักจิตวิทยาที่มีหน้าที่สื่อสารและแนะนำให้เขาหัดเป็นเพื่อนกับตัวเองได้มากขึ้น แต่ทุกคนมีส่วนในการเป็นกระบอกเสียงกับสังคมและช่วยเหลือเรื่องนี้ด้วยการเป็นสภาพแวดล้อมที่ดีให้วัยรุ่นได้ ไม่กดดัน ทำให้เขาตระหนักรู้และเข้าใจ ว่าเขามีจังหวะค่อยๆ ไปต่อได้ เขาดีพอนะ ดีกว่ารอให้ปัญหาใจติดอยู่กับเขาจนมันบานปลายในวัยผู้ใหญ่

สำหรับแคมเปญ “พอดีไม่เหมือนกัน” นั้น ได้เริ่มขึ้นแล้วตั้งแต่ 26 เมษายน ที่ผ่านมา โดยเริ่มจากกิจกรรม ตู้ถ่ายภาพอินเทรนด์ให้ได้มาถ่ายรูปรอยเท้าตัวเอง เพื่ออวดรอยเท้าพอดีไม่เหมือนกันของทุกคน ซึ่งจะจัดงานถึงวันที่ 5 พฤษภาคมนี้ที่ ลิโด้ สยามสแควร์ รวมถึงการสร้างสรรค์เพลง พอดีไม่เหมือนกัน ที่มีเนื้อหาให้กำลังใจและหันกลับมาดูแลใจตัวเอง และที่สำคัญที่สุดคือการพัฒนา

แพลตฟอร์ม “ดูใจตน วอลเล็ต” เติมความใจดีให้กับตัวเอง โดยเปิดช่องทางในการรับฟัง เข้าใจ และให้คำแนะนำแก่ผู้ที่กำลังเผชิญหน้ากับการกดดันตนเอง ให้กลับมาใจดีกับตัวเองให้มากขึ้น สนุกไปกับแต่ละก้าวของชีวิต เพราะนันยางเชื่อว่า ทุกคนต่างดีพอและมีความพอดีที่ไม่เหมือนกัน ผ่านทาง www.พอดีไม่เหมือนกัน.com

โดย “ดูใจตน วอลเล็ต” นั้น เป็นการชักชวนให้วัยรุ่นได้มาสำรวจใจตัวเอง ผ่านแบบประเมินทางจิตวิทยาเพื่อสำรวจความใจดีกับตัวเอง แบ่งปันข้อความปลอบประโลมใจ เพื่อสร้างความตระหนักรู้ ส่งเสริมสุขภาวะที่ดี ป้องกันปัญหาสุขภาพใจ และช่วยให้นักเรียนรู้สึกเบากับความรู้สึกและปัญหาที่ต้องเผชิญมากขึ้น เพราะคนแต่ละคนมีดีในแบบของตนเอง ลดการเปรียบเทียบกับผู้อื่นให้น้อยลง

“ความคาดหวังของเราต่อแคมเปญ “พอดีไม่เหมือนกัน” คือเป็นส่วนหนึ่งที่ได้สร้างความตระหนักรู้ให้แก่วัยรุ่น ชวนกลับมาสำรวจตัวเองเติมความใจดีต่อตนเอง เพื่อให้รู้ตัวว่ากำลังปฏิบัติกับตัวเองแบบไหนในวันที่เจอ อุปสรรค สิ่งสำคัญคือวิธีการที่เราจะรับมือดูแลใจตัวเอง เลือกที่จะไม่เหยียบย่ำตัวเอง และที่สำคัญที่สุดคือ ความเป็นตัวเองของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน เราไม่จำเป็นต้องพยายามวิ่งให้เร็วเท่าใคร กลับมาฟังเสียงภายในตัวเองให้ดังกว่าเสียงคอมเมนต์หรือคำวิจารณ์ของคนภายนอก เพื่อสร้างเสริมใจให้แข็งแรงเพื่อใช้ชีวิตตาม เส้นทางและจังหวะก้าวของตัวเองได้อย่างเต็มที่และมีความสุขที่สุด” นายจักรพล กล่าว

อย่างไรก็ดี ภาพรวมตลาดรองเท้านักเรียนปัจจุบันตลาดรองเท้านักเรียนทุกประเภทในไทยมีมูลค่ารวมประมาณ 5,000 ล้านบาท  นันยางยังคงครองส่วนแบ่งการตลาดเฉพาะรองเท้าผ้าใบเป็นอันดับหนึ่งอยู่ที่ 45% ซึ่งในปี 2567 คาดว่าตลาดยังคงมีการแข่งขันเข้มข้นเช่นเดิม สำหรับภาพรวมธุรกิจของนันยางในปีที่ผ่านมานั้นดีขึ้นกว่าปี 2565 ค่อนข้างมากเพราะนันยางได้รุกทำกิจกรรมการตลาดและการขายต่อเนื่องตลอดทั้งปีทำให้ผู้บริโภคได้สัมผัสและเข้าถึงอย่างใกล้ชิด ประกอบกับได้รับแรงหนุนทางเศรษฐกิจโดยรวมที่ดีขึ้นทำให้นันยางสามารถสร้างอัตราการเติบโต 13.70% สูงกว่าอัตราการเติบโตรวมของตลาดประมาณ 3% โดยในปี 2567 นันยางวางแผนการเติบโตต่อเนื่องที่ 3-5%  พร้อมเพิ่มกลยุทธ์เพื่อรุกขยายโอกาสทางการตลาดในทุกช่องทางและยังคงเน้นเป้าหมายหลักที่กลุ่มนักเรียน นักกีฬา คนทำงาน และผู้ใช้งานอเนกประสงค์ 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เด็กไทย 1 ใน 10 น้ำหนัก/ส่วนสูงหลุดเกณฑ์ กระทบสมอง เสี่ยงปัญหาสุขภาพจิต ป่วย NCDs

นางเบญจมาภรณ์ ลิมปิษเฐียร รองผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จากข้อมูลพัฒนาการเด็กปฐมวัยของไทย ปี 2566 โดยกรมอนามัย

'ราชาหน้าตาข่าย'พรชัย เค้าแก้ว ได้รองเท้าคู่ใจ'PK5' ใส่ล่าทอง อชก.ที่หางโจว

"ปุ้ย" พรชัย เค้าแก้ว ตัวฟาดเบอร์ 1 ตลอดกาลแห่งวงการตะกร้อไทย เจ้าของฉายา “ราชาหน้าตาข่าย” เปิดโปรเจคพิเศษร่วมกับรองเท้าผ้าใบ “นันยาง” ที่สุดของรองเท้ายอดนิยมที่นักตะกร้อทั่วโลกเลือกใช้ ด้วยการเปิดตัวรองเท้ารุ่นลิมิเต็ด "นันยาง PK5" ในรูปแบบที่ไม่เคยมีที่ใดมาก่อน ที่พัฒนาจากรองเท้านันยางรุ่นคลาสสิก (205-S) รองเท้าคู่ใจของพรชัยกว่า 30 ปี เปิดตัวในวันเกิดครบรอบ 42 ปีของพรชัยเมื่อวันที่ 10 ส.ค. นี้ โดยภายในงานได้รับเกียรติจากผู้บริหารนันยาง ดร.จักรพล จันทวิมล กรรมการผู้จัดการ บริษัท นันยางมาร์เก็ตติ้ง จำกัด ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมด้วยเหล่านักกีฬาเซปักตะกร้อทีมชาติไทยปัจจุบัน เข้าร่วมงานและสร้างสีสันลงแข่งขันแมตช์พิเศษร่วมกันในวันนี้ด้วย

เด็กไทยกระหึ่มโลก! คว้าเหรียญทองฟิสิกส์โอลิมปิกระดับทวีปเอเชีย

เด็กไทยสร้างชื่อให้ประเทศ คว้า 1 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 2 เกียรติคุณประกาศ 4 เกียรติบัตรฟิสิกส์โอลิมปิกระดับทวีปเอเชีย จากมองโกเลีย

เด็กไทยล้มเจ้าภาพสหรัฐฯ ซิวแชมป์ฮิปฮอป ในศึกเชียร์ลีดดิ้งชิงแชมป์โลก

เชียร์ลีดดิ้งเด็กไทย หลั่งน้ำตาสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่กล่าวขานในถิ่นลุงแซม หลังถูกมองว่าเป็น “ม้านอกสายตา” โดยล้มแชมป์เก่า สหรัฐฯ คว้าแชมป์โลกได้อย่างสะใจ “อ.สืบสาย” มั่นใจ ปอม ปอม กับ ฮิปฮอปคู่ มีดีเกินพอที่จะคว้าแชมป์กลับมามอบสร้างความสุขให้คนไทยทั้งประเทศเช่นกัน

นายกฯ ปลื้ม ‘เด็กไทย’ คว้ารางวัลคณิตศาสตร์นานาชาติ

โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ ปลื้มความสามารถเด็กไทยรับ 8 รางวัลจาก CHAMPION 2023 ITMC และ 62 รางวัล GOLD AWARD แสดงความสามารถด้านคณิตศาสตร์ให้เป็นที่ประจักษ์ในเวทีนานาชาติ