อนันดาฯ ยันปม 'เฮลิกซ์' ไม่กระทบสถานะการเงิน

อนันดาฯ มั่นใจ!! กรณี “เฮลิกซ์” ไม่กระทบต่อศักยภาพการบริหารจัดการ และสถานะทางการเงิน อย่างแน่นอน

25 ก.ย. 2567 – สืบเนื่องจากข่าว “ดีเอสไอ ดำเนินคดีกับอดีตกรรมการบริษัท เฮลิกซ์ จำกัด บริษัทในเครือ “อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์” ในความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 หลังพบก่อความเสียหายกว่า 996 ล้าน” บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ขอชี้แจงข้อมูลดังกล่าวว่า บริษัท เฮลิกซ์ จำกัด (บริษัทย่อยของบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)) เป็นการลงทุนในบริษัทก่อสร้าง โดยเข้าถือหุ้นจำนวนร้อยละ 99.99 ซึ่งต่อมาได้มีการตรวจสอบพบว่าเมื่อประมาณปี 2563 (ซึ่งไม่ใช่เหตุการณ์ปัจจุบัน) บริษัท เฮลิกซ์ จำกัด เกิดการขาดทุนสะสมอย่างมีนัยสำคัญ และพบว่ามีผลดำเนินธุรกิจขาดทุนในโครงการก่อสร้าง จึงได้มอบหมายให้ตัวแทนบริษัทไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) โดย ดีเอสไอมีความเห็นสั่งฟ้อง ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ฐานความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535

นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ ได้เริ่มเข้าลงทุนในบริษัท เฮลิกซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบการในธุรกิจก่อสร้างตั้งแต่ปี 2556 เนื่องจากในเวลาดังกล่าวบริษัทฯ ตระหนักถึงการขาดแคลนผู้รับเหมาก่อสร้าง จึงได้ตัดสินใจลงทุนในธุรกิจดังกล่าว โดยมีรูปแบบการดำเนินงานและทีมงานบริหารจัดการที่แยกออกจากบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) อย่างชัดเจน ซึ่งต่อมาผลการดำเนินงานของบริษัท เฮลิกซ์ จำกัด มีภาวะการขาดทุนอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปี ทำให้บริษัทฯ ได้ตัดสินใจหยุดการลงทุนในธุรกิจดังกล่าวในปี 2563

ซึ่งผลการขาดทุนดังกล่าวนั้น บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ได้มีการรับรู้ไปทั้งหมดแล้ว แต่อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบมาตรฐานการควบคุมภายในตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี และได้พบความผิดปรกติในการบริหารงานของบริษัท เฮลิกซ์ จำกัด จึงได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ซึ่งต่อมา DSI ได้ดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริง และมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาซึ่งเป็นผู้บริหารของ บริษัท เฮลิกซ์ จำกัด ทั้ง 3 ราย ฐานความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ตามที่ปรากฏในข่าวการร้องทุกข์กล่าวโทษ อยู่บนพื้นฐานข้อมูลและเอกสารที่เกิดขึ้น และข้อสรุปจากการสอบสวนเป็นสำคัญ

บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ยังคงยึดถือความโปร่งใสและความถูกต้องในการติดตามเรื่องดังกล่าวให้เป็นไปตามข้อกำหนด กฎหมาย และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมดของบริษัท อย่างสูงสุด

“ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอยืนยันว่าเหตุการณ์ความเสียหายที่เกิดขึ้น ได้มีการตรวจสอบพบตั้งแต่ปี 2563 จึงไม่ใช่เหตุการณ์ปัจจุบัน ถือเป็นความเสียหายในอดีต ซึ่งบริษัทได้รับรู้ผลการดำเนินการตามมาตรฐานบัญชีเรียบร้อยแล้ว ไม่กระทบกับการดำเนินงานและฐานะทางการเงินในปัจจุบันของ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) แต่อย่างใด” นายชานนท์ กล่าวทิ้งท้าย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดีเอสไอเผยคืบหน้าคดีคุกวีไอพี อธิบดีราชทัณฑ์ ยันขรก.ทุจริตต้องถูกลงโทษ

"ดีเอสไอ" เร่งสอบเส้นทางเงินผู้ต้องขังชาวจีน พร้อมเรียกเจ้าหน้าที่และอดีต ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ให้ปากคำครบทุกฝ่าย

รมว.ยุติธรรม เผยเจ้าหน้าที่อึดอัดพฤติกรรมอดีต ผบ.คุกพิเศษกรุงเทพ

รมว.ยุติธรรม เผยข้าราชการในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ-กรมราชทัณฑ์ สุดอึดอัดกับพฤติกรรมของ “อดีตผบ.มานพ” แย้ม ดีเอสไอเร่งตรวจสอบเส้นทางการเงิน

จ่อฟันซ้ำ! 'ผบ.คุก - 19 ผู้คุม' พักราชการ-ให้ออกไว้ก่อน

'โฆษกกรมราชทัณฑ์' เผยอีก 1-2 วันนี้ เตรียมเปลี่ยนแปลงคำสั่ง 'ผบ.เรือนจำฯ-จนท.' รวม 20 ราย ส่อ 'พักราชการ-ให้ออกจากราชการไว้ก่อน ขณะที่ 'ดีเอสไอ' ลุยสอบปากคำเก็บหลักฐานมัดผิด

รมว.ยุติธรรม ตั้งดีเอสไอ ร่วมสืบสวนคดีคุก VIP เอื้อนักโทษจีนเทา มีนางแบบจีนส่งถึงที่

"รมว.ยุติธรรม" ลั่นไม่ปล่อยผ่าน ผู้คุมเรือนจำพิเศษเอื้อประโยชน์จีนเทา พบหลักฐานชัดผู้คุม 7 นายพานางแบบจีน 2 คนเข้า “ห้องดัดแปลง” กลางวันแสกๆ เผยสามารถกู้ภาพวงจรปิดได้บางส่วนหลังถูกมือมืดลบข้อมูล จับภาพนักโทษจีนเทาเดินเพ่นพ่านในพื้นที่ต้องห้าม ส่วนผู้ต้องขังจีนเทา 2 รายถูกย้ายทันที เผยพรุ่งนี้เตรียมบุกเข้าเรือนจำตรวจข้อเท็จจริง

'ดีเอสไอ' ลุยสอบ '5 ธุรกิจในไทย' ครอบครัวก๊ก อาน พัวพันกาสิโน ค้ามนุษย์ สแกมเมอร์

“ดีเอสไอ" ประสานข้อมูล “กรมพัฒนาธุรกิจการค้า” ลุยตรวจสอบ ”5 ธุรกิจในไทย“ ครอบครัวก๊กอาน เบื้องต้นพบ “ลูก 3 คน” นั่งกรรมการบริหารด้วยตัวเอง หลัง ”กรมการปกครอง“ เพิกถอนสัญชาติไทย "ก๊กอานและบุตร 3 คน"