'อรรถพล' เข้ากระทรวงวันแรก ลั่นพร้อมดูแลค่าพลังงานไม่ให้กระทบประชาชน

‘อรรถพล’ เข้ากระทรวงพลังงานวันแรก ลั่นพร้อมดูแลค่าพลังงานไม่ให้กระทบประชาชน ดูรายละเอียดในแผนงานต่าง ๆ และจัดตั้งหน่วยงานบริหารภายใต้กระทรวงฯ

25 ก.ย. 2568 – นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังถือฤกษ์เวลา 08.09 น. เข้าสักการะพระพรหมและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่กระทรวงพลังงาน ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งวันแรก ว่าสำหรับนโยบายด้านพลังงาน นั้น เบื้องต้นช่วงปลายปีราคาพลังงานพุ่งสูงขึ้น ดังนั้นจึงต้องพยายามบริหารจัดการค่าพลังงานไม่ให้เป็นภาระของประชาชน ซึ่งจะต้องมีการหารือกับนายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน เนื่องจากเห็นว่ายังมีเรื่องที่รอพิจารณาอยู่พอสมควร โดยในช่วงที่เข้ามารับตำแหน่ง มีเป้าหมายที่จะต้องสร้างความมั่นใจให้ประชาชน และดูแลในช่วงระยะสั้น ๆ ให้ดี รวมถึงในระยะยาวก็ต้องดูแลความมั่นคงของพลังงานด้วย

นายอรรพล กล่าวว่า ขณะที่แนวทางการลดค่าไฟนั้น จำเป็นต้องไปดูศึกษารายละเอียดว่าจะสามารถทำอย่างไรได้เพื่อไม่เป็นภาระของประชาชน ขณะที่การจัดทำแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ(PDP) ก็จำเป็นต้องเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมอีกด้วย ซึ่งต้องรอหลังจากที่รัฐบาลมีการแถลงต่อรัฐสภาก่อน โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนในสัปดาห์หน้า รวมไปถึงการจัดตั้งหน่วยงานบริหารภายใต้กระทรวงพลังงาน ทั้งคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) การตั้งผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(สกนช.) รวมถึงการเสนอชื่อผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ก็ต้องเข้าไปดูรายละเอียดต่อไป

 นอกจากการบริหารจัดการราคาพลังงานไม่ให้เป็นภาระต่อประชาชนแล้ว นโยบายเร่งด่วนยังมุ่งเน้นการส่งเสริมสังคมคาร์บอนต่ำและพลังงานสะอาด เพื่อผลักดันประเทศไทยสู่เป้าหมาย Net Zero โดยหนึ่งในแผนงานที่สำคัญคือ โครงการโซลาร์ภาคประชาชนที่มีเป้าหมาย 1,500 เมกะวัตต์ ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงและได้รับประโยชน์จากพลังงานสีเขียวได้มากขึ้น และบางโครงการช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนด้วย

“ระยะเวลา 4 เดือนจะใช้นโยบายดูแลประชาชนระยะสั้นให้ดี วางรากฐานความมั่นคงยั่งยืนทางพลังงานระยะยาวไว้ด้วย” นายอรรถพล กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%