
เซ็นทรัลพัฒนา เผยเมกะโปรเจ็กต์ ‘The Central’ พหลโยธิน ศูนย์การค้าแฟล็กชิพแห่งอนาคต มูลค่า 21,000 ล้านบาท บนที่ดิน 49 ไร่ ตอกย้ำการเป็นแลนด์มาร์กสำคัญแห่งใหม่ ช่วยยกระดับกรุงเทพฯ และประเทศไทยสู่ระดับโลก
8 ต.ค. 2568 – นายชนวัฒน์ เอื้อวัฒนะสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจศูนย์การค้าและกลุ่มงานพัฒนาโครงการ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา หรือ CPN เปิดเผยว่า ตลอด 45 ปีที่ผ่านมาเซ็นทรัลพัฒนาภูมิใจที่โครงการระดับ World-Class และทุกโครงการของบริษัทเป็นหัวใจสำคัญในการยกระดับย่านต่างๆ ของเมือง และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอย่างต่อเนื่อง จากจุดเริ่มต้นของ‘เซ็นทรัล ลาดพร้าว’ ซึ่งเป็น Mixed-Use แห่งแรกของไทย และ เป็นโครงการ Visionary Shift สร้างความเปลี่ยนแปลงให้วงการรีเทลของไทย ซึ่งยังคงประสบความสำเร็จอย่างมากมาจนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้ ย่าน ลาดพร้าว–พหลโยธิน ได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว บริษัทจึงได้พัฒนา “The Central พหลโยธิน” มูลค่าโครงการกว่า 21,000 ล้านบาท บนที่ดิน 49 ไร่ พื้นที่ (GBA)457,409 ตร.ม. ที่จะเป็นอีกหนึ่งโครงการระดับโลกที่ต่อยอดความสำเร็จของบริษัท เพื่อผลักดันย่านนี้ให้เต็มศักยภาพสูงสุด และยกระดับสู่ The Next CBD แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ คาดว่าก่อสร้างแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 4 ของปี 2569

นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา หรือ CPN กล่าวว่า โครงการต่างๆ ของเราได้บุกเบิกย่านและกลายเป็นแลนด์มาร์กสำคัญทั่วกรุงเทพฯ สำหรับการพัฒนาเมกะโปรเจ็กต์ เรามุ่งมั่นพัฒนาเมืองให้ตอบโจทย์ทุกมิติของการใช้ชีวิต สร้างกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองที่มี Quality of Life ที่ดีที่สุดเมืองหนึ่ง รวมถึงลงทุนพัฒนาโครงการในระดับ Flagship ที่จะมาพลิกโฉมย่าน สร้าง New Cultural Hub & Business District แห่งใหม่ให้กับเมือง เช่นเดียวกับมหานครชั้นนำของโลกอย่างนิวยอร์ก, ลอนดอน, กรุงโซล และโตเกียว ทั้งนี้เรามีความเชื่อมั่นในโครงการ The Central ด้วยศักยภาพใน 3 เรื่องสำคัญ ได้แก่
1) Location Power: ศักยภาพของโลเคชั่นโครงการตั้งอยู่บนถนนสองสายหลัก คือ วิภาวดีรังสิต และ พหลโยธิน ปัจจุบันมีรถยนต์สัญจรผ่าน 337,000 คันต่อวัน รวมถึง MRT สายสีน้ำเงินมีผู้โดยสาร 15,600 คนต่อวัน และ BTS สายสีเขียวมีผู้โดยสาร 35,100 คนต่อวันและในอนาคตหลังศูนย์เปิดคาดว่าจะมีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นอีก 30% อีกทั้งย่านนี้ยังเชื่อมไปสู่ สนามบินดอนเมืองที่ปัจจุบันรองรับผู้โดยสารราว 30 ล้านคนต่อปี และกำลังเตรียมขยายโครงการเพื่อเพิ่มศักยภาพตามแผนงานของรัฐ ทำให้ดึงคนไทยและต่างชาติเข้ามายังย่านลาดพร้าว-พหลโยธิน
2) Market Magnet: โครงการ The Central พหลโยธินจะเป็นแม่เหล็กดึงดูดการเติบโตใหม่ๆ และจะเป็นตัวเร่งสำคัญที่ยกระดับย่านให้กลายเป็นศูนย์กลางธุรกิจและไลฟ์สไตล์แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ โดยย่านนี้มีดีมานด์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง Catchment Area มีประชากรประมาณ 2.5 ล้านคนและจากฐานข้อมูลของเราอ้างอิงจากเซ็นทรัลพัฒนา พบว่าในย่านนี้มีกลุ่มลูกค้า Wealth Segment กำลังซื้อสูงกว่าค่าเฉลี่ยคนกรุงเทพฯ ถึง 2.3 เท่า, อีกทั้งยอดขายต่อพื้นที่ (Sales per GLA) สูงกว่าค่าเฉลี่ยศูนย์การค้าในกรุงเทพฯ ถึง 45%และจำนวนผู้ใช้บริการมากกว่าศูนย์การค้าในกรุงเทพฯ โดยเฉลี่ยถึง 2.19 เท่า
3) Flagship of Sub-Culture Communities:พื้นที่ที่เปิดรับคนรุ่นใหม่และคนทุกกลุ่มรองรับกิจกรรมที่หลากหลาย ตั้งแต่ Urban Sport Community, Immersive Art Destination, Experiential Discovery Zone และ Family Entertainment อีกทั้งยังเป็นCollective Social Ground พื้นที่ของทุกคนนอกจากนี้ พื้นที่การจัดงานยังรองรับ Multi-Cultural Events และในส่วน Convention Hall มีพื้นที่กว่า 6,700 ตร.ม. สามารถรองรับคอนเสิร์ตและอีเว้นท์ระดับโลกอีกด้วย

นายอิศเรศ จิราธิวัฒน์ Head of Leasing – Fashion & Luxury บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา หรือ CPN ระบุว่า สำหรับพหลโยธินมีศักยภาพเทียบชั้นย่านราชประสงค์ ในฐานะย่านที่เป็นทำเลยุทธศาสตร์เหมาะกับการพัฒนาโครงการระดับ World-Class ไม่ว่าจะเป็นเติบโตบนฐานโครงสร้างคมนาคมหลัก ทั้ง BTS, MRT และถนนสายสำคัญ เป็นจุดเชื่อมต่อการใช้ชีวิต–การทำงาน–การเดินทาง รวมถึงรายล้อมด้วยดีมานด์คุณภาพสูง ทั้งที่อยู่อาศัยระดับกลาง–บน อาคารสำนักงาน โรงแรม และสถาบันการศึกษา และ Anchor of Flagship Brands เช่นเดียวกับที่ centralwOrld เป็น ‘Flagship Landmark’ ของราชประสงค์ ดังนั้น The Central พหลโยธิน จะเป็น ‘The Landmark of Northern Bangkok’ ที่ขับเคลื่อนการเติบโตของย่าน
ขณะเดียวกันจากข้อมูลปีล่าสุด พหลโยธินช่วงต้นติด Top 10 ทำเลราคาที่ดินแพงที่สุดในประเทศไทยปี 68 โดยมีราคาประเมินอยู่ที่ 1.9 ล้านบาทต่อตารางวา อัตราการเติบโตสูงถึง 5% (มากกว่าย่าน เพลินจิต-ชิดลม, สุขุมวิท, สีลม, สาทร) ซึ่งตัวเลขนี้การันตีถึงศักยภาพการเติบโตที่ชัดเจน
นอกจากนี้ ยังมองเห็นการเติบโตของโครงการที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน โครงการที่อยู่อาศัยที่แวดล้อมศูนย์การค้า The Central พหลโยธิน มีมากถึง 472 โครงการและมากกว่า 50% เป็นโครงการในระดับ Upper Segment ขึ้นไป โดยอาคารสำนักงานต่างๆ ยังมีแนวโน้มขยายตัวสู่ย่านรอบนอก โดยเฉพาะในแนว North Corridor พหลโยธินและวิภาวดีรังสิต ดังนั้นกลุ่มคนทำงานจะเข้ามาในพื้นที่และเป็นกำลังซื้อที่มหาศาล ในส่วนอาคารสำนักงานที่ตั้งรอบโครงการมีถึง 52 แห่งในจำนวนนี้ 15 แห่งเป็น Grade A Office สะท้อนถึงคุณภาพของทำเลและศักยภาพการเป็นศูนย์กลางWorkplace แห่งอนาคตของกรุงเทพฯ ในส่วนของ Quality Neighbourhood โครงการยังแวดล้อมด้วยโรงเรียนชั้นนำ 51 แห่ง (เป็นโรงเรียนอินเตอร์ 6 แห่ง), มหาวิทยาลัยชั้นนำ 9 แห่ง, และโรงแรม 41 แห่ง


