50ปี รพ.รามาธิบดี ก้าวสู่โรงเรียนแพทย์'คุณภาพนวัตกรรม'

เนื่องใน “วันรามาธิบดี” วันที่ 3 พฤษภาคมที่กำลังจะถึงนี้ เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงวันที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศ มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินเปิดคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และเปิดให้บริการแก่ประชาชนคนไทยในฐานะโรงเรียนแพทย์และโรงพยาบาลที่พึ่งของประชาชนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2512 คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี จึงได้จัดแถลงพันธกิจสำคัญในการผลิตบุคลากรการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พัฒนางานวิจัยและองค์ความรู้เพื่อพัฒนาระบบสาธารณสุขไทย รวมไปถึงการดูแลผู้ป่วยโดยนำนวัตกรรมการแพทย์เข้ามาช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยในทุกช่วงอายุอย่างยั่งยืน โดยมีมูลนิธิรามาธิบดีฯ ทำหน้าที่เป็นสะพานบุญที่ช่วยระดมทุนเพื่อสนับสนุนทุกพันธกิจ และส่งต่อการให้…ไม่สิ้นสุด

ศ.นพ.ปิยะมิตร ศรีธรา คณบดีคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี และประธานคณะกรรมการบริหารมูลนิธิรามาธิบดีฯ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลากว่า 50 ปี จวบจนปัจจุบัน คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีได้ดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วยมากกว่า 2 ล้านคนต่อปี โดยเป็นผู้ป่วยนอกถึง 2.3 ล้านคน และผลิตบุคลากรการแพทย์มาแล้วมากกว่า 18,000 คน หรือมากกว่า 400 คนต่อปี ประกอบด้วย แพทย์ พยาบาล รวมทั้งแพทย์และพยาบาลเฉพาะทาง นักวิทยาศาสตร์ฉุกเฉินการแพทย์ และนักเวชศาสตร์สื่อความหมาย ซึ่งบัณฑิตเหล่านี้ก็จะกระจายกันออกไปดูแลผู้ป่วยในสังคมทั่วประเทศ สิ่งที่รามาธิบดีเน้นย้ำอยู่เสมอคือการให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเท่าเทียม เพราะผู้ป่วยทุกคนมีสิทธิเข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพ นอกจากนี้รามาธิบดียังมีการพัฒนานวัตกรรมการแพทย์อยู่เสมอ เพื่อการดูแลสุขภาพของประชาชนอย่างครอบคลุมและขับเคลื่อนวงการแพทย์ไทยให้ก้าวหน้าต่อไป
ในปี2564ที่ผ่านมา คณะแพทย์ฯ ของรพ.รามาธิบดี ได้รางวัลคุณภาพแห่งชาติ ซึ่งเพิ่งประกาศเมื่อเดือนมีนาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยรางวัลที่ได้เป็นรางวัลด้านนวัตกรรม ที่มีทั้งด้านการเรียนการสอน หลักสูตรและนวัตกรรมด้านการวิจัย
ทางด้านหลักสูตรการแพทย์ มีการพัฒนานวัตกรรมการศึกษา โดยจัดทำ 2 หลักสูตรร่วมกับ 2 คณะของมหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อรับมือกับยุค Disruption เพื่อตอบสนองความสนใจที่หลากหลายของนักศึกษาแพทย์ โดยได้ร่วมมือกับ คณะวิศวกรรมศาสตร์ผลิต “แพทย์นวัตกร” ซึ่งเป็นแพทย์ที่มี 2 ปริญญา หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต และวิศวกรรมศาสตร์มหาบัณฑิต รวมถึงความร่วมมือกับวิทยาลัยการจัดการในการผลิต “แพทย์นักบริหาร” เพื่อส่งเสริมให้แพทย์มีทักษะและความพร้อมในการบริหารจัดการโรงพยาบาล และองค์กรด้านสาธารณสุขตั้งแต่ระดับชุมชนจนถึงระดับประเทศ นอกจากนี้ยังมีหลักสูตรผลิต “นักฉุกเฉินการแพทย์ทางด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา – Sport Paramedic” เป็นหลักสูตรร่วมระหว่างภาควิชาฉุกเฉินการแพทย์ และสาขาวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา

ด้านการวิจัยเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ด้านโรคที่รักษายาก ผ่านการพัฒนานวัตกรรมและการวิจัยตัวอย่างงานวิจัยที่โดดเด่น เช่น การวิจัยด้านนวัตกรรมสร้างอวัยวะเทียมที่มีชีวิต (Tissue Regeneration) ซึ่งทำให้เกิดการผลิตกระดูกเทียมเยื่อหุ้มสมองเทียม การรักษาโรคด้วยเม็ดเลือดขาวซึ่งกระตุ้นภูมิต้านทานต่อเซลล์มะเร็ง การปลูกถ่ายอวัยวะ เช่น ตับ และไต สำหรับไตได้ ดำเนินการไปแล้วกว่า 2.9 พันราย ซึ่งถือว่ามากที่สุดในประเทศไทย การปลูกถ่ายอวัยวะตับจากพ่อแม่สู่ลูกที่มีภาวะตับวาย โดยทำสำเร็จเป็นรายแรกในประเทศไทย เปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียมโดยไม่ต้องผ่าตัด และนวัตกรรมรักษาลิ้นหัวใจรั่วด้วยการใช้คลิปหนีบ เป็นต้น

ด้านการรักษาและสร้างสุขภาพรามาธิบดีมีการส่งเสริมแนวทางการรักษาโรคและดูแลสุขภาพในการแพทย์ยุคใหม่ ที่ตอบโจทย์ความท้าทายเชิงระบบ โดยมีแนวคิดว่าการรักษาหลายอย่างสามารถทำได้ที่ “บ้าน” ซึ่งตัวอย่างนวัตกรรมการรักษาที่โดดเด่น ได้แก่ นวัตกรรมระบบการให้บริการผู้ป่วยนอกผ่าน Telemedicine ซึ่งคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีเป็นผู้นำด้านนี้ รวมถึงนวัตกรรมเคมีบำบัดที่บ้านสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง ที่ช่วยให้เกิดการรักษาด้วยเคมีบำบัดอย่างตรงเวลาและลดการใช้เตียงในโรงพยาบาล ซึ่งนำมาสู่การผลักดันเชิงนโยบายสาธารณสุขของประเทศไทย ที่ส่งผลให้เกิดการประหยัดค่าใช้จ่ายเชิงสาธารณสุขอย่างมาก


“ภารกิจของเรา นอกเหนือจากรักษาช่วยผู้ป่วย และฝึกอบรมไปช่วยผู้ป่วยตามบ้าน ตลอดจนการปลูกถ่ายอวัยวะ การทำวิจัย นวัตกรรม ก็เพื่อช่วยคนไข้ให้ได้รับการรักษา และดูแลที่มีคุณภาพมากขึ้น และยังทำให้เกิดงานวิจัยที่สูงขึ้น ตลอดจน ได้พัฒนาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญขึ้นได้ในเวลาเดียวกัน ซึ่งภารกิจเหล่านี้ จะไม่มีขึ้นมาได้ ถ้าไม่มีมูลนิธิรามาธิบดีมาช่วย เช่นผ่าตัดลิ้นหัวใจรั่ว ที่ต้องใช้อุปกรณ์ที่แพงมาก ด้วยงบประมาณที่มีเราทำไม่ได้ ต้องอาศัยทุนจากมูลนิธิฯมาช่วยเหลือ” ศ.นพ.ปิยะมิตรกล่าว


ด้านนางสาวพรรณสิรี คุณากรไพบูลย์ศิริ ผู้จัดการมูลนิธิรามาธิบดีฯ ได้กล่าวเสริมว่า บทบาทสำคัญของมูลนิธิรามาธิบดีฯ คือการเป็นสะพานบุญแห่งการให้ เพราะการให้สร้างความสุขทั้งต่อผู้ให้และผู้รับ มูลนิธิฯ ยังคงเดินหน้าส่งต่อน้ำใจและการช่วยเหลือจากผู้ให้ไปสู่ผู้ป่วย ผ่านโครงการต่าง ๆ ทั้งในรูปแบบของการช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล การจัดหาเครื่องมือแพทย์ การสนับสนุนงานวิจัย การก่อสร้างอาคารสถานที่เพื่อขยายศักยภาพการรับรองดูแลผู้ป่วย ซึ่งทั้งหมดนี้มุ่งหวังให้ผู้ป่วยให้มีโอกาสเข้าถึงการรักษาอย่างเต็มประสิทธิภาพในทุกระดับชั้น และพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ประชาชนในภาพรวม

ในปีนี้มูลนิธิฯ มีความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการการผลักดันให้เกิดโครงการนวัตกรรมการแพทย์เพื่อผู้สูงวัยและผู้ป่วยระยะสุดท้าย เพื่อรองรับสังคมแห่งผู้สูงวัย โดยโครงการนี้ได้มีการพัฒนานวัตกรรมในการสร้างศูนย์ต้นแบบการดูแลสุขภาวะผู้สูงอายุอย่างครบวงจร หวังว่าจะดูแลผู้คนในทุกช่วงวัยให้มีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีจวบจนนาทีสุดท้าย โดยจะผลักดันให้เป็นศูนย์ต้นแบบการเรียนรู้ต่อไป
“โครงการต่างๆ ของรามาธิบดีที่กล่าวมานี้จะไม่สามารถขับเคลื่อนต่อไปได้หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากภาคประชาชน ในนามของมูลนิธิเราจึงมุ่งมั่นทำงานเพื่อสานต่อการให้ที่ยิ่งใหญ่นี้ให้คงอยู่ในสังคมสืบต่อไป” นางสาวพรรณสิรี กล่าว


เนื่องในวันรามาธิบดี จึงขอเรียนเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการให้ ด้วยการซื้อเสื้อ “หัวใจอินฟินิตี้” ราคา 199 บาท ทางช่องทางต่าง ๆ เช่น LINE @ramafoundation, www.ramafoundation.or.th, มูลนิธิรามาธิบดีฯ หรือบริจาคเงินสมทบทุนมูลนิธิรามาธิบดีฯ สอบถามโทร 02-201-1111

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สาวสาวสาว' เปิดประตูสู่ทุกความคิดถึง

หลังเปิดตัวว่าเกิร์ลกรุปวงแรกของไทยมีคอนเสิร์ตใหญ่อีกครั้ง ในชื่อ สาว สาว สาว ประตูใจคอนเสิร์ต ก็เรียกเสียงเฮลั่นจากแฟนๆ ตัวจริงทั่วฟ้าเมืองไทยที่ตั้งตารอมาเกือบ 6 ปี โดยไอดอล 3 สาว ทั้ง แอม-แหม่ม-ปุ้ม ซุ่มซ้อมและความพร้อมอย่างหนัก ทั้งร้อง ทั้งเต้น ทั้งโชว์เดี่ยว โชว์กลุ่ม โชว์พิเศษ ให้เตรียมกรี้ดกันคอแตก จุใจกับเพลงดังจาก 10 อัลบั้ม

คอนเสิร์ต 'อัสนี-วสันต์' ประกาศเพิ่มรอบการกุศล

หลังจากสร้างปรากฏการณ์ อัสนี และ วสันต์ คอนเสิร์ต ฉันเคยบอกกับเธอหรือยัง? SOLD OUT ในพริบตา และมีกระแสเรียกร้องให้เพิ่มรอบ 2 แบบสนั่นโซเชียล ผู้จัดอย่าง NEEKRUNG CONNECT ไม่ปล่อยให้แฟนๆ ต้องลุ้นนาน เปิดเพิ่มรอบการกุศลร่วมกับ มูลนิธิรามาธิบดี ในวันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน 2567 ทันที

กรมสมเด็จพระเทพฯ พระราชทานพระราชวโรกาสให้ทูตเคนยา เฝ้าฯ

13 ก.พ.2567- สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออก ณ วังสระปทุม พระราชทานพระราชวโรกาสให้ รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงฉัตรประอร งามอุโฆษ กรรมการบริหารและเลขานุการมูลนิธิรามาธิบดี

กรมสมเด็จพระเทพฯ ทอดพระเนตรงานศิลปะการกุศลรามาฯ รักษาศิลป์

29 ก.ค.2566 - เวลา 14.00 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ไปทอดพระเนตรนิทรรศการผลงานศิลปะการกุศล “รามาฯ รักษาศิลป์ : ส่งต่อความสุข สานต่อการ “ให้” ผ่านงานศิลปะ” 

12 ดีไซเนอร์จิตอาสาออกแบบคอลเลกชันช่วยผู้ยากไร้

อิ่มบุญส่งท้ายปี มูลนิธิรามาธิบดีฯ แสดงพลังแห่งการให้ผ่านโครงการ Power of Giving  ปีที่ 8   รวมพลดีไซเนอร์จาก 12 แบรนด์แฟชั่นชั้นนำมาร่วมสร้างสรรค์ของที่ระลึกสุดพิเศษชวนคนไทยส่งต่อความสุขไม่สิ้นสุด ภายใต้คอนเซ็ปต์ Made With Love…ทำด้วยรัก สร้างโอกาสช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้

'กลัฟ คณาวุฒิ' ทำบุญวันเกิดกับ 4 มูลนิธิฯ

หล่อไม่มีลิมิตแล้วยังใจบุญต่อเนื่องสำหรับหนุ่ม กลัฟ-คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์ ฉลองครบรอบวันเกิดในวัย 25 ปีบริบูรณ์ หลังจากที่ได้เจ้าตัวจัดงานคอนเสิร์ตมอบความสุขให้กับเหล่าพี่ลูกบอลฯ ไปอย่างอบอุ่นหัวใจพร้อมได้รับของขวัญต่าง ๆ จากทั่วทุกมุมโลก เจ้าตัวก็พร้อมที่จะแบ่งปันต่อให้กับบุคคลอื่น ๆ หรือหน่วยงานต่าง ๆ ที่ทำเพื่อสังคม เป็นประจำทุกปี