เจ้าของรางวัล 'ผู้นำด้านสาธารณสุข ม.ฮาร์วาร์ด' แนะเร่งปฏิรูประบบสุขภาพปฐมภูมิ ลดความเหลื่อมล้ำ

'นพ.ชูชัย' เจ้าของรางวัล Leadership in Public Health Award เผยหากเร่งปฏิรูประบบสุขภาพปฐมภูมิ จะทำให้ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้ามีความเข้มแข็ง ยั่งยืน ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม

2 ก.ย.2565 - นายแพทย์ชูชัย ศุภวงศ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการระบบสุขภาพปฐมภูมิ เจ้าของรางวัล ผู้นำด้านสาธารณสุข มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Leadership in Public Health Award 2022) เปิดเผยว่า การปฏิรูประบบสุขภาพปฐมภูมิเริ่มปรากฏเห็นเป็นจริงแล้ว

การดูแลสุขภาพเชิงรุกที่บ้าน หรือในชุมชน เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยทาง สปสช.จัดสรรงบประมาณสนับสนุนการดำเนินการดังกล่าว ใน 6 กลุ่มโรค ที่ไม่มีความซับซ้อนมาก ได้แก่ แผลกดทับ โรคเบาหวาน ที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง ไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลัน ภายหลังได้รับการผ่าตัดกลับมารักษาแผลที่บ้านได้ โรคติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ ปอดอักเสบ และโควิด19 การดำเนินการดังกล่าว จะเพิ่มความสะดวกและการเข้าถึงบริการมากขึ้น ลดภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัว และไม่เสียเวลาในการทำมาหากิน อีกทั้ง ลดความแออัดในสถานพยาบาล ทำให้โรงพยาบาลต่างๆ มีเวลาในการดูแลผู้ป่วยหนักอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

นพ.ชูชัย กล่าวว่า การปฏิรูประบบสุขภาพปฐมภูมิ เป็นการสร้างและพัฒนาระบบสุขภาพชุมชน ที่เน้นการสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การรักษาโรค และการฟื้นฟูสภาพได้อย่างต่อเนื่องและผสมผสาน ทำงานเชิงรุก ด้วยแนวคิดแบบองค์รวมให้แก่บุคคล ครอบครัว และชุมชน โดยมีระบบการส่งต่อและเชื่อมโยงกับโรงพยาบาลได้อย่างเหมาะสม รวมทั้งประสานกับองค์กรชุมชนในท้องถิ่นเพื่อพัฒนาความรู้ของประชาชนในการดูแลส่งเสริมสุขภาพของตน และสามารถดูแลตนเองเมื่อเจ็บป่วยได้อย่างสมดุล

“หากการปฏิรูประบบสุขภาพปฐมภูมิ ขยายขอบเขตครอบคลุมทั่วประเทศ จะทำให้ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้ามีความเข้มแข็ง และระบบสุขภาพของไทยมีความยั่งยืนไม่ล้มละลายเหมือนในบางประเทศที่ค่าใช้จ่ายจากการรักษาพยาบาลสูงมาก ที่สำคัญคือ ช่วยลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรมในสังคม ในที่สุด” นพ.ชูชัย กล่าวสรุป

ทั้งนี้ น.พ. ชูชัย ศุภวงศ์ เป็นผู้ได้รับรางวัล “ Leadership Award in Public Health Practice “ประจำปี 2565 (The 2022 Alumni Award )จาก สมาคมศิษย์เก่าคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ( The Harvard T•H•Chan School of Public Health Alumni Association )ซึ่งประกาศเป็นทางการเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2565 จะมีพิธีรับมอบวันที่ 24 ก.ย.นี้

นพ.ชูชัย เป็นศิษย์เก่าฮาร์วาร์ด เคยไปศึกษา ได้รับปริญญาโทด้านสาธารณสุขศาสตร์ ในปี 2534 และปริญญาโทด้านอาชีวเวชศาสตร์ ในปี 2535 และเป็นศิษย์เก่าคนไทยคนแรกที่ได้รับรางวัลนี้ และเป็นคนที่สาม ที่มาจากเอเซีย ที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ ซึ่งเริ่มให้รางวัลในปี 2535 ซึ่งจัดเป็น The Alumni Award of Merit ที่เป็น The highest honor ที่มอบให้ศิษย์เก่าเพียงคนเดียว แต่ต่อมานับแต่ปี2554ได้เพิ่มเป็นสามรางวัล แก่ศิษย์เก่าที่มีผลงานประสบความสำเร็จในด้านนวัตกรรม และเป็นผู้นำด้านสาธารณสุขดีเด่น ( Remarkable achievement and leadership in Public Health Practice )

สำหรับประวัติการทำงาน นายแพทย์ชูชัย ศุภวงศ์ เกิด 20 มกราคม 2496 อายุ 69 ปี หลังจบการศึกษา แพทยศาสตร์บัณฑิต จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ไปปฏิบัติงานในโรงพยาบาลชุมชนประมาณ 10 ปี(โรงพยาบาลชุมชนท่าอุเทน นครพนม โรงพยาบาลชุมชนสิชล นครศรีธรรมราช โรงพยาบาลชุมชนทับสะแก ประจวบคีรีขันธ์)และได้รับการเลือกให้เป็นประธานชมรมแพทย์ชนบท ต่อมาเมื่อได้รับเลือกเป็นกรรมการและเลขาธิการแพทยสภา จึงย้ายเข้ามาอยู่กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แล้วไปศึกษาต่อที่โรงเรียนสาธารณสุข มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด กลับมาปฏิบัติงานที่กระทรวงสาธารณสุข และต่อมาได้รับการคัดเลือกเป็น เลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (นักบริหารระดับ 11) จนเกษียณอายุราชการ

บทบาททางการเมือง เคยดำรงตำแหน่ง รองประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ 2550 และ รองประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ 2558 แต่ไม่ผ่านความเห็นชอบของ สภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช. ) เป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.) สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.)

เกียรติประวัติ เคยได้รับรางวัลข้าราชการพลเรือนดีเด่น (พศ.2528)   รางวัลแพทย์ดีเด่นสมาคมวิทยาลัยศัลยแพทย์นานาชาติ(พศ.2530 )   รางวัลศิษย์เก่าแพทย์จุฬาดีเด่นเนื่องในโอกาสครบรอบ ๖๐ปี คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (พศ.2550 )  รางวัลดีเด่นอุทิศตนเพื่อการควบคุมการบริโภคยาสูบจากองค์การอนามัยโลก(พศ.2551)

ปัจจุบัน ดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการมูลนิธิแพทย์ชนบท ช่วยระดมทุนจากภาคธุรกิจเอกชน และประชาชนทั่วประเทศ มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท นำไปจัดหาเครื่องมือแพทย์ อุปกรณ์ทางการแพทย์อื่นๆ ไปยังโรงพยาบาลชุมชนทั่วประเทศ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) และอสม.ในบางพื้นที่ ที่ขาดแคลน