สธ.ตั้งคณะทำงาน ติดตามกระบวนการถ่ายโอน ลูกจ้าง รพ.สต กว่า 9พันคน ไม่ให้กระทบจ้างงานและบริการปชช.

27 ก.ย. 2565- นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี (สอน.) และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) จำนวน 3,264 แห่ง บุคลากรรวม 21,879 คน ให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ใน 49 จังหวัด ตามมติคณะรัฐมนตรี ที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 1 ตุลาคม 2565 นั้น กระทรวงสาธารณสุขมีคณะทำงานดำเนินการร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย อย่างใกล้ชิด ทั้งด้านบุคลากร ทรัพย์สิน และงบประมาณ เพื่อให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยบุคลากรที่จะต้องโอนย้ายไปสังกัด อบจ. แยกตามประเภทการจ้างงาน พบว่า เป็นข้าราชการ 11,552 คน พนักงานกระทรวงสาธารณสุข 4,751 คน จ้างเหมาบริการ 4,443 คน ลูกจ้างชั่วคราว 408 คน ลูกจ้างประจำ 23 คน และพนักงานราชการ 8 คน ซึ่งในส่วนของพนักงานกระทรวงสาธารณสุข จ้างเหมาบริการ และลูกจ้างชั่วคราว รวมกว่า 9 พันคน เมื่อมีการถ่ายโอนภารกิจแล้วกระทรวงสาธารณสุขจะไม่สามารถจ้างงานต่อได้ เนื่องจากจะขัดกับระเบียบงบประมาณ จึงต้องรอหลักเกณฑ์ของ อบจ. ในการจ้างงานกลุ่มนี้

นพ.สุระกล่าวต่อว่า ในช่วงเปลี่ยนผ่านการถ่ายโอนภารกิจ กระทรวงสาธารณสุขได้จัดตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามกระบวนการในการถ่ายโอนทั้งด้านบุคลากร ทรัพย์สิน และภารกิจการบริการ โดยเฉพาะกรณีการจ้างงานบุคลากรกว่า 9 พันคนที่ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ กระทรวงสาธารณสุขจะประสานกับทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน เพื่อไม่ให้กระทบกับการให้บริการประชาชน ส่วนกรณีบุคลากรที่ไม่ประสงค์ถ่ายโอน จะมีหนังสือแจ้งหน่วยงานเกี่ยวกับขั้นตอนการดำเนินงาน โดยจังหวัดที่มีบุคลากรไม่ประสงค์ถ่ายโอนขอให้แสดงความจำนงเลือกหน่วยงานเพื่อไปปฏิบัติงาน เมื่อสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลแล้ว จะเสนอ อ.ก.พ.สป. และ อ.ก.พ.กระทรวง พิจารณาเกลี่ยอัตรากำลังไปยังหน่วยงานอื่นตามความประสงค์ และจัดทำคำสั่งย้ายบุคลากรต่อไป

“ยืนยันว่า หลังการถ่ายโอน สอน.และ รพ.สต. 3,264 แห่งให้แก่ อบจ.ทั้ง 49 แห่งแล้ว ยังต้องมีการจัดบริการสุขภาพให้แก่ประชาชนทั้ง 5 มิติ คือ รักษาพยาบาลเบื้องต้น ส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันควบคุมโรค ฟื้นฟูสมรรถภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค โดยจะมีการขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการปฐมภูมิ ซึ่งในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ หากประชาชนไม่ได้รับความสะดวกในการรับบริการ สามารถแจ้งต่อสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนั้นๆ ได้” นพ.สุระกล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

มท.1 เข้มปีใหม่ จนท.สังกัดมท.ต้องปลอดเมาแล้วขับ-ไม่เอี่ยวยาเสพติด

'อนุทิน' เข้มปีใหม่นี้ข้าราชการ เจ้าหน้าที่สังกัดมหาดไทยต้องปลอดเมาแล้วขับ พร้อมมอบทุกส่วนราชการ อปท. สแกนพฤติการณ์เกี่ยวข้องยาเสพติดของบุคลากรในสังกัด หากพบกระทำผิดต้องลงโทษอย่างเข้มงวดและเด็ดขาด

'สังศิต' ชำแหละ 'ลูกไม้เก่าของสทนช.' ทำแผนแก้ภัยแล้ง-น้ําท่วม แนะขยายเวลาอีก2สัปดาห์

ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ ประธานคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา เผยแพร่บทความเรื่อง ลูกไม้เก่าของสทนช. มีเนื้อหาดังนี้

พอช.จับมือ อปท.เดินหน้าแก้ปัญหาชุมชนริมราง รฟท.ทั่วประเทศ

พอช. / สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ เดินหน้าแก้ไขปัญหาชุมชนในที่ดินการรถไฟฯ ทั่วประเทศตาม ‘มติ ครม.14 มีนาคม 2566’ ในพื้นที่ 35 จังหวัด 300 ชุมชน

ปปช.นครราชสีมา จ่อฟัน 2 เทศบาล-นายก อบต. ส่อทุจริตจัดซื้อเครื่องเล่นเด็ก

สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ประจำจังหวัดนครราชสีมา (ปปช.จ.นม.) อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายปริญญา วิกุล

รัฐบาลชวน อปท.ใช้ระบบท้องถิ่นดิจิทัลชี้ช่วยหนุนงานบริการ

รัฐบาลเร่งเครื่องหนุนหน่วยงานรัฐใช้ระบบดิจิทัลให้บริการประชาชน สพร.เปิดระบบท้องถิ่นดิจิทัล ชวน อปท.ทั่วประเทศเข้าร่วม ยกประสิทธิภาพบริการถึง 5 ด้าน