เตือนเข้าถ้ำหรือโพรงต้นไม้ ต้องใส่หน้ากากอนามัย ป้องกันสปอร์เชื้อรา

6 ต.ค. 2565- นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ รักษาราชการอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคฮีสโตพลาสโมสิส สามารถพบได้ทั่วโลก โดยเฉพาะในแถบทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำหรับประเทศไทยพบรายงานประปราย โรคนี้เกิดจากเชื้อราฮีสโตพลาสมา แคปซูลลาตุม (Histoplasma capsulatum) ซึ่งมีอยู่ในสิ่งแวดล้อม เช่น ในดินอยู่แล้ว แต่ปริมาณเชื้อจะมีมากในมูลของค้างคาว เมื่อคนเข้าไปในช่วงกลางวัน ค้างคาวกำลังนอนพัก การส่งเสียงดัง ทำให้ค้างคาวตกใจ ส่งเสียงร้อง เครียด ถ่ายมูล ฉี่ ทำให้เชื้อโรคที่อยู่ในมูลฟุ้งกระจายในโพรงต้นไม้ คนจะติดโรคโดยการหายใจเอาสปอร์ของเชื้อราเข้าไป ระยะฟักตัวของโรคประมาณ 3-17 วัน แสดงอาการได้หลายรูปแบบ อาจพบอาการปอดอักเสบ มีไข้ ไอ หายใจลำบาก เจ็บหน้าอก อ่อนเพลีย หนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ น้ำหนักลด ในรายที่อาการรุนแรง อาจมีอาการไอเป็นเลือด เอกซเรย์จะเห็นมีฝ้าที่ปอด แต่คนส่วนใหญ่ที่รับเชื้อมักไม่แสดงอาการป่วยเนื่องจากภูมิคุ้มกันสามารถต่อสู้กับเชื้อได้ ในคนที่ภูมิคุ้มกันปกติหรือรับเชื้อเข้าไปในปริมาณเล็กน้อยสามารถหายเองได้ใน 1 เดือน

“โดยทั่วไปเชื้อนี้เป็นเชื้อฉวยโอกาสทำให้เกิดอาการในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ผู้ป่วยเอดส์ ผู้ที่ปลูกถ่ายอวัยวะ หรือผู้ที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกันเป็นประจำ แต่ในผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องอาจมีอาการรุนแรง เช่น ติดเชื้อที่ปอดเรื้อรัง และเชื้ออาจแพร่กระจายไปยังระบบประสาทส่วนกลางก่อให้เกิดอาการทางระบบประสาท และเสียชีวิตได้ โรคนี้รักษาได้โดยใช้ยาฆ่าเชื้อราร่วมกับการรักษาตามอาการ ซึ่งอาจต้องรับประทานยานาน 3 เดือน ถึง 1 ปีขึ้นกับอาการ ตำแหน่ง และความรุนแรงของโรค การติดต่อจากคนสู่คนหรือจากสัตว์สู่คนเป็นไปได้ยาก” นายแพทย์ธเรศ กล่าว

นพ.ธเรศ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันไม่มีวัคซีนหรือตัวยาที่จะป้องกันโรคนี้โดยตรง วิธีป้องกันตนเองที่มีประสิทธิภาพ คือ รักษาสุขภาพให้แข็งแรง หลีกเลี่ยงการเข้าถ้ำที่มีค้างคาว ในสิ่งแวดล้อมที่อับชื้นมีมูลนกหรือมูลสัตว์ โพรงต้นไม้ที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก หากจำเป็นต้องเข้าไปอยู่ในสถานที่เหล่านี้ ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย หลังจากนั้นต้องล้างมือให้สะอาด เปลี่ยนเสื้อผ้า และหากมีอาการป่วยภายหลังไปท่องเที่ยวในสถานที่ที่เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์พาหะ หรือการทำความสะอาดเล้า/กรง/คอกสัตว์ รวมถึงการพรวนดิน และจัดเก็บบ้านเก่า ให้รีบไปพบแพทย์ทันที สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แนะสวมหน้ากากต่อ ป้องกันสายพันธุ์ XBB เหตุแพร่เร็ว-ดื้อต่อภูมิคุ้มกัน

อดีตนายกแพทยสภา โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ขอให้พี่น้องประชาชนสวมหน้ากาก ล้างมือและเว้นระยะห่างต่อไปก่อนเท่าที่ทำได้นะครับ

รัฐบาลขอบคุณคนไทยร่วมมือสู้โควิดย้ำยังต้องใส่แมสก์ต่อ

รัฐบาลขอบคุณทุกภาคส่วน ร่วมมือมาตรการภาครัฐ ส่งผลลดระดับโควิด-19 เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง 1 ต.ค.นี้ ขอความร่วมมือสวมหน้ากากอนามัยต่อ เพื่ออยู่กับโควิดได้อย่างปลอดภัย

เยอรมนีช็อก แคชเชียร์ปั๊มโดนยิงตายเพียงแค่ขอลูกค้าสวมแมสก์ตามกฎ

เกิดคดีที่สร้างความตกใจในเยอรมนี เมื่อนักศึกษาหนุ่มวัย 20 ปีทำงานเป็นแคชเชียร์ที่ปั๊มน้ำมัน โดนลูกค้าใช้ปืนจ่อยิงหัวเสียชีวิตเพียงเพราะไม่พอใจที่เด็กหนุ่มขอให้เขาสวมหน้ากากอนามัยตามกฎหมาย