สธ.อ้างข้อมูลอนามัยโลก ยันโอมิครอนสายพันธุ์ BA.2 อาการไม่รุนแรง ไม่แตกต่างจากสายพันธุ์ BA.1 เดิม

23 ก.พ. 65- นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงโรคโควิด 19 สายพันธุ์โอมิครอน ว่า องค์การอนามัยโลกเผยข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 ว่า ไวรัสโควิด 19 สายพันธุ์โอมิครอน BA.2 แม้จะแพร่ระบาดได้ง่ายกว่าสายพันธุ์ BA.1 เดิม แต่จากการพิจารณาของคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญถึงข้อมูลตัวอย่างผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ BA.2 จากหลายประเทศ ไม่พบความรุนแรงที่แตกต่างหรือมากไปกว่าสายพันธุ์ BA.1 แต่อย่างใด ข้อมูลนี้ช่วยลดความกังวลให้แก่ประเทศต่างๆ ที่สายพันธุ์ BA.2 กำลังแพร่ระบาดอย่างกว้างขวาง เช่น เดนมาร์ก เป็นต้น รวมถึงประเทศไทยที่พบว่าสายพันธุ์ BA.2 มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน

นพ.รุ่งเรืองกล่าวต่อว่า ขณะนี้ข้อมูลของเชื้อไวรัสโควิด 19 สอดคล้องกับการปรับตัวเข้าสู่การเป็น “โรคประจำถิ่น หรือโรคติดต่อตามฤดูกาล” คือความรุนแรงลดลงมาก พบผู้เสียชีวิตน้อยกว่า 1 รายต่อผู้ติดเชื้อ 1,000 ราย และผู้ที่มีอาการรุนแรง น้อยกว่า 5 ราย จากผู้ป่วย 1,000 ราย อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การติดเชื้อในประเทศไทยขณะนี้ยังมีแนวโน้มสูงขึ้น จึงขอให้ประชาชนยังคงมาตรการป้องกันตนเอง และเข้ารับวัคซีนโควิด 19 เข็มกระตุ้นตามกำหนด รวมทั้งขอความร่วมมือทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ศูนย์จีโนมฯ อัปเดตผลทดลอง 'วัคซีนโควิด' รุ่นล่าสุด 'XBB.1.5 โมโนวาเลนต์'

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า องค์การอนามัยโลกระบุวัคซีนโควิด-19 เจนเนอเรชั่นล่าสุด “XBB.1.5 โมโนวาเลนต์”

นักไวรัสวิทยาแนะทำตัวเหมือนป้องกันโควิดสกัดไข้หวัดใหญ่ที่พุ่งช่วงนี้ได้

นักไวรัสวิทยาแจงรายละเอียดข้อมูลไข้หวัดใหญ่ไทยกับ WHO เตือนช่วงนี้ตัวเลขไทยพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง แนะใช้ช่องป้องกันตัวเหมือนโควิด

'องค์การอนามัยโลก' แนะจับตาระบาด 'โควิด' จากน้ำเสีย

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า องค์การอนามัยโลกแนะนำให้ชาติสมาชิกเฝ้าระวังการระบาดโควิด-19 จากน้ำเสีย