‘บริตนีย์ สเปียร์ส’ ได้ค่าตอบแทน 15 ล้านดอลลาร์จากหนังสือ ‘The Woman in Me’

AFP

มีข่าวลือออกมาพักใหญ่แล้วว่า บริตนีย์ สเปียร์ส ได้ลงนามข้อตกลงมูลค่านับล้านกับสำนักพิมพ์ ตอนนี้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า บันทึกความทรงจำ “ที่น่าประทับใจ” ของเธอจะได้รับการตีพิมพ์เป็นหนังสือออกมาในเร็ววันนี้

ตามรายงานของสำนักพิมพ์ Gallery Books หนังสือ ‘The Woman in Me’ ของป๊อปสตาร์จะวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาวันที่ 24 ตุลาคม มันเป็นหนังสืออัตชีวประวัติที่บอกเล่าเรื่องราวอันกล้าหาญและน่าทึ่งเกี่ยวกับอิสรภาพ ชื่อเสียง ความเป็นแม่ การอยู่รอด ความศรัทธา และความหวัง “อย่างเช่นคำให้การในชั้นศาลของบริตนีย์ที่เขย่าโลก เปลี่ยนแปลงกฎหมาย และความกล้าหาญที่สร้างแรงบันดาลใจของเธอ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเรื่องเล่าจากความทรงจำของเธอจะมีผลกระทบที่คล้ายกัน” – เป็นคำเชิญชวนของสำนักพิมพ์

นับเป็นครั้งแรกที่จะมีการเปิดเผย “การเดินทางอันน่าทึ่ง และความแข็งแกร่งที่เป็นหัวใจของหนึ่งในศิลปินนักร้องที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ดนตรีป๊อป หนังสือเล่มนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อบรรยายถึง “พลังที่ยั่งยืนของดนตรีและความรัก” นอกจากนี้สื่อในสหรัฐฯ ยังรายงานเพิ่มเติมด้วยว่าบริตนีย์ สเปียร์สได้ทำข้อตกลงกับสำนักพิมพ์แล้ว และงานนี้เธอจะได้รับค่าตอบแทนสูงถึง 15 ล้านดอลลาร์ หรือราว 500 ล้านบาท

สเปียร์สแจ้งเกิดเป็นซูเปอร์สตาร์ในช่วงปลายทศวรรษ 1990 ด้วยเพลงฮิตอย่าง ‘Baby One More Time’ และกลายเป็นที่รู้จักของแฟนเพลงทั่วโลกด้วย ‘Oops! I Did It Again’ ตามมาด้วย ‘Toxic’ ปี 2008 เธอกลายเป็นบุคคลไร้ความสามารถเนื่องจากปัญหาด้านสุขภาพจิต เป็นเหตุให้พ่อของเธอเข้ามารับหน้าที่เป็นผู้ปกครอง และควบคุมไม่เพียงแต่ผลประโยชน์จากเรื่องส่วนตัวของเธอเท่านั้น หากยังรวมถึงผลงาน และทรัพย์สินทั้งหมดของเธอด้วย

กระทั่งปลายปี 2021 ข้อพิพาททางกฎหมายที่ยาวนานระหว่างเธอกับเจมี สเปียร์ส-พ่อของเธอก็สิ้นสุดลง ในแถลงการณ์ต่อศาล บริตนีย์ สเปียร์สรำพันว่า ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาเธอบอบช้ำ และหดหู่ “ฉันแค่ต้องการชีวิตของฉันกลับคืนมาเท่านั้น”

‘The Woman in Me’ เป็นหนังสือที่บริตนีย์ สเปียร์สร่วมงานกับ แซม แลนสกี-นักเขียนและนักข่าว ที่กล่าวถึงการทำงานกับสเปียร์สครั้งนี้ว่า “ซื่อสัตย์อย่างไร้ความปราณี” กับครอบครัวของเธอเอง รวมถึงเรื่องราวความสัมพันธ์ในอดีต และชีวิตคู่ของเธอกับแซม อัสการีด้วย. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง