'มวยสะดิ้ง หมัดซิ่ง สายฟ้า' กับประสบการณ์ 'ครั้งแรก' ของนักแสดง

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งละครที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก สำหรับ "มวยสะดิ้ง หมัดซิ่ง สายฟ้า" ทางช่อง 8  นำแสดงโดย 4 ยอดขุนพลมวยขวัญใจคนไทยทั้งประเทศ อย่าง สามารถ พยัคฆ์อรุณ , เขาทราย แกแล็คซี่, เขาค้อ แกแล็คซี่ และ สมจิตร จงจอหอ พร้อมกันนี้ยังมีทีมนักแสดงหน้าใหม่ไฟแรงเด็กปั้นของทางช่อง 8 ที่แจ้งเกิดกันเป็นแถว โดยทุกคนล้วนแต่ยกให้ "มวยสะดิ้ง หมัดซิ่งสายฟ้า" เป็นละครที่สร้างประสบการณ์ “ครั้งแรก” ในด้านต่างๆของทุกคนอีกด้วย

เริ่มกันที่ ตะวัน-ณวินวิชญ์ กิตติชนวิทย์ พระเอกป้ายแดง ดีกรีอดีตนักแบดมินตันทีมชาติไทยที่หันมารับงานแสดงเป็นครั้งแรกแถมยังขึ้นแท่นพระเอกหน้าใหม่อีกด้วย “ผมรับบทเป็นสายฟ้าครับ เราก็มีอีกความใฝ่ฝันหนึ่งอยากเป็นนักแสดงด้วย มันเป็นจุดที่ประจวบเหมาะพอดี ช่วงที่โควิดเข้ามา ในช่วงนั้นรายได้ของนักกีฬาจาก 100 เปอร์เซ็น เหลือ 10 เปอร์เซ็น ซึ่งมันพอค่าใช้จ่าย แต่มันไม่สามารถที่จะเดินต่อได้ในอนาคต เพราะตอนนั้นเราไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง เราเลยรู้สึกว่าเราต้องเปลี่ยนในการทำงานของเรา ซึ่งตรงนั้นเรามีโอกาสเข้ามาพอดี ก็เลยคว้าไว้

เล่นละครยากครับ มันเป็นเรื่องแรกด้วย แล้วเหมือนเราถ่ายทอดในอีกแบบหนึ่ง อย่างกีฬาเราถ่ายทอดโดยการใช้ร่างกาย ในการใช้พละกำลังในสนาม ในคอร์ทสี่เหลี่ยม ไม่ได้อีโมชั่นในการส่งสายตากับผู้ชมหรืออะไร แต่พอเป็นการแสดงเรารู้สึกว่าเราต้องใช้อีโมชั่นในสายตา ในการแสดง ส่งสีหน้าแววตาทุกอย่าง ก็รู้สึกว่ายากครับ

ส่วนในเรื่องจะมีพี่ๆ นักมวย ที่ผันตัวมาเป็นนักแสดงเยอะมาก พอเป็นนักกีฬาเหมือนกันมันทำให้เรารีแลกซ์ขึ้น จากที่ตอนแรกเราคิดว่าเราจะกดดัน แต่พอได้มาเจอพี่สมจิตร พี่สามารถ พี่เขาทราย พี่เขาค้อ มันกลายเป็นว่าคนกีฬาคุยกันเองมาก่อน มันเหมือนเราเป็นพี่น้องเป็นเพื่อน พอเข้าซีนเขาก็จะมีให้คำแนะนำเรา มันทำให้เรารีแลกซ์และง่ายขึ้นในการแสดงครับ ถ้าถามการให้คะแนนตัวเองกับการแสดงเรื่องแรก ถ้าเป็นคิวแรกๆ มันอาจจะมีแข็ง มีเกร็ง แบบว่าไม่ได้เป็นธรรมชาติจ๋า แต่พอได้เจอธัญญ่า ได้รู้จักหลายๆ คน สนิทสนมมากขึ้น ได้คุยกับผู้กำกับ ผู้ช่วย ทำให้เรารีแลกซ์ขึ้น คิวหลังๆ เริ่มพัฒนา เป็นตัวละครมากขึ้นมาเรื่อยๆ ครับ”

ตะวัน ณวินวิชญ์

ด้าน ธัญญ่า อาร์สยาม ที่ถึงแม้ว่าจะผ่านงานแสดงมาบ้าง แต่เรื่องนี้เจ้าตัวได้ขึ้นแท่นเป็นนางเอกเต็มตัวครั้งแรก  “เรื่องนี้เป็นการขึ้นแท่นนางเอกเต็มตัวครั้งแรกของหนูค่ะ ถึงจะเคยผ่านงานแสดงมาบ้าง  แต่พอมาเรื่องนี้มันก็ยังยากอยู่ดีค่ะ มันแตกต่างตรงที่เราต้องเข้าไปเล่นด้วย เพราะบทเปรี้ยวที่ได้รับเขาโหวกเหวกโวยวาย  จีบผู้ชายก่อน จะไม่เหมือนเรื่องอื่นที่เราจะเรียบร้อย อันนี้เราสอดรู้สอดเห็น วอกแว่กตลอด เราได้เรียนรู้ใหม่หมดเลยเพราะที่ผ่านมาเราเล่นหนัง-ละครคอมาดี้ก็จริงแต่บทเราไม่คอมาดี้เลย เรียบร้อยตลอด คนก็ไม่คิดว่าเราจะเล่นคอมาดี้ได้ เพราะที่ผ่านมามันใสๆ มาตลอด

อีกอย่างเรื่องนี้รับบทเป็นลูกสาวเจ้าของค่ายมวย เราก็ต้องซ้อมมวย จากที่ชีวิตจริงเราเป็นคนไม่ออกกำลังกายเลย ไม่ชอบเลย แต่พอรับเรื่องนี้ก่อนเปิดกล้องสองเดือนหนูเข้าฟิตเนส เรียนมวยด้วย ออกกำลังกายด้วย คือตั้งใจมากๆ เพราะมันเป็นครั้งแรกของการเป็นนางเอกของเรา และได้บทบาทใหม่ๆ ด้วย จริงๆ ตื่นเต้นมากค่ะ นอกจากหนูจะไปลงคอร์สฟิตเนสเอง เรียนมวยเอง หนูยังไปลงเรียนการแสดงเองด้วย คือทุ่มมากค่ะ อยากให้มันออกมาดี เพื่อที่จะปั้นตัวละครเปรี้ยวที่ผู้ใหญ่บอกว่าอาจจะต้องแรดนิดนึงนะ เราก็คิดว่าแรดนี่แรดเบอร์ไหนที่ไม่ให้คนเกลียด ต้องแรดแบบพอน่ารัก เป็นนางเอก ต้องประมาณไหน เราต้องจับจุดตัวละครเปรี้ยวให้เจอ”

ธัญญ่าอาร์สยาม

ตังเม-เมธาวี ธีรลีกุล รับบท วารี สาวเรียบร้อยที่ต้องมาอยู่ในบรรยากาศคอมมาดี้คลอดเวลาครั้งแรก ซึ่งถือว่าเป็นงานยาก “ตื่นเต้นมากค่ะ ในเรื่องจะมีพี่ๆ นักมวยเยอะ แต่เราเล่นเป็นลูกสาวของพี่สมจิตร จงจอหอ  เรียกได้ว่าเป็นละครที่หนูเล่นแล้วขำที่สุดในชีวิต ต้องเล่นกับคุณพ่อแบบนี้ เข้าซีนกับพ่อสมจิตร กับพี่ปอ  อรรณพ หนูต้องทำสมาธิสูงมาก เพราะจะหลุดขำตลอดเวลา บางครั้งหลุดขำก็มี  

คือทุกคนในกองเป็นคนเฮฮาหมด เวลาเล่นเราไม่มีสมาธิเลย มองหน้าก็ขำแล้ว จริงๆ หนูเคยเล่นซิทคอมมาก่อน แต่คาแรคเตอร์ไม่ได้คอมมาดี้ขนาดขนาดนี้ มันต้องพยายามบังคับตัวเองมากๆ เพื่อไม่ให้ตัวเองหลุดขำ อย่างมีซีนหนึ่งที่หนูต้องร้องไห้ แต่พี่ปอแอบแกล้งเรา  ก็มีเสียสมาธิไปบ้าง ต้องรีบกลับมาคีพคาแรคเตอร์ให้ได้ เพื่อจะได้ทำงานต่อ”

ตังเม เมธาวี

นักร้องเอวพริ้ว ปอ-อรรณพ ทองบริสุทธิ์ ที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับทางช่อง 8 เป็นครั้งแรก เปิดเผยว่า “ครั้งนี้เป็นการร่วมงานกับช่อง 8 เป็นครั้งแรกครับ ก่อนมาทำงานก็แอบมีความกังวล เพราะเป็นสถานที่ใหม่ ทีมงานใหม่ แต่พอได้มาทำงานจริงๆ โล่งอกมากครับ ได้มาเจอบรรยากาศใหม่ๆ พี่ๆ น้องๆ ที่เราไม่เคยเจอ ปกติเราอยู่ในวงการก็จะเจอแต่พี่ๆ เราต้องสวัสดีเขาแต่เรื่องนี้เราเจอแต่เด็กๆ  ก็เปลี่ยนบรรยากาศดีครับ สนุกสนานมากในกอง

ซึ่งเรื่องนี้เป็นการรับบทที่ต้องต่อยมวยไทยครั้งแรกด้วยครับ พี่สมจิตร จงจอหอ เป็นคนสอนเลย เพราะในเรื่องเราก็เป็นศิษย์เขาด้วย ในเรื่องเราเป็นตำรวจที่อยากเป็นนักมวย เลยให้เขาสอน ก็เลยจะค่อยๆ โตไปกับเนื้อเรื่อง มันก็ยากนะครับ มีองศาต่างๆ ท่าต่างๆ ไหว้ครู แต่มันก็สนุกนะครับ เราได้เตรียมมุกตลกๆ ไปขายผู้กำกับด้วย”

ปอ อรรณพ

นักแสดงหนุ่มอนาคตไกล ไกด์-กันตพล ชมพูพันธ์ เรื่องนี้ขอผลิกมารับบทร้ายเป็นครั้งแรกเผยว่า “เรื่องนี้เป็นการเล่นร้ายครั้งแรกของผมครับ 3 เรื่องที่ผ่านมาเป็นคนดีมาตลอด คาแรคเตอร์ค่อนข้างไกลตัว มันไม่ได้ร้ายไปทั่วนะ แต่เป็นร้ายที่มีเหตุผลของมัน เราอิจฉาพระเอกครับ อิจฉาที่มาทีหลังแต่ได้ดีกว่าเรา ไม่ว่าจะเป็นด้านความรัก ด้านของมวย เราเลยพยายามทำทุกทางเพื่อขัดขวางพระเอกจนน่าหมั่นใส่ในบางที

ผมว่าการเล่นร้ายเล่นง่ายกว่าเล่นดีนะ บางทีการเล่นดีมันจะมีข้อจำกัดของมัน อย่างเช่น  การแสดงความรู้สึก การพูด ท่าทาง มันต้องมีการคีพคาแรคเตอร์นิดหนื่ง อย่างคนดี คนฉลาด เราต้องทำยังไงก็ได้ให้ดูเป็นคนดีคนฉลาด แต่พอเราเล่นร้ายปุ๊บเราปล่อยอิสระ มันมีความเป็นมนุษย์สูง ความอิจฉา ความโกรธ เราสามารถแสดงออกมาได้เต็มที่เลย จริงๆ ผมก็ผ่านงานละครมาไม่มาก แล้วต้องพลิกมาเล่นร้าย ผมก็ไม่ได้หนักใจอะไรนะ มันมีความท้าทาย ผมว่าคำว่านักแสดงต้องเล่นได้หมดครับทุกบทบาท”

ไกด์ กันตพล

ปิดท้ายกันที่ อะตอม-ณฐาภพ เคนจันทึก หนุ่มน้อยวัย 19 ปี ที่ต้องมารับบทโตเกินวัย แต่ใจเกินร้อย ขอทุ่มเทให้กับการแสดงแบบสุดตัวกับการแสดงครั้งแรก “ปกติผมเป็นคนอยู่ไม่นิ่งอยู่ไม่สุข เป็นเด็กดื้อ พอต้องมาเล่นละครซึ่งถือเป็นครั้งแรกของผม แล้วยังต้องมาเล่นบทที่โตเกินวัย เป็นนักเลง ต้องมีความนิ่งๆ ขรึมๆ ที่พร้อมบวกตลอดเวลามันก็เลยเล่นยาก  แต่เป็นความยากที่ท้าทายดี สนุกมากๆ ได้เล่นเป็นคนอื่นที่เราไม่เคยได้ทำมาก่อน ได้ลองต่อยมวยด้วย อันนี้ก็ยากเหมือนกัน เวลาเข้าคิวต่อยมวยเรายังเล่นไม่ค่อยเป็นอยู่เลย แต่ด้วยคาแรคเตอร์เราเป็นนักมวย เป็นนักเลง ต้องต่อยแบบจริงจัง

เอาจริงๆ ก่อนเข้าฉากผมก็มีไปเรียนพิเศษเรื่องมวยมาก่อน 2 อาทิตย์ ที่ค่ายมวย คงสิทธา แต่พอมาออกกล้องมันต้องเข้ามุมกล้องให้มันสอดคล้องไปกับตัวเรื่องครับ แต่ผมโชคดีมาก เพราะพี่เขาค้อ เขาจะคอยสอนผมตลอด สอนตั้งการ์ด สอนให้พันข้อมือเวลาต่อยจริงเขาก็จะอยู่ข้างหลังเรา คอยบอกคอยสอน ส่วนเรื่องผิดคิว เจ็บตัว ก็มีบ้างเหมือนกันครับ”

อะตอม ณฐาภพ

มวยสะดิ้ง หมัดซิ่ง สายฟ้า บทประพันธ์โดย พิง ลำพระเพลิง บทโทรทัศน์โดย ทีมคนรักแมว กำกับการแสดงโดย ศรา ยืนยง ผลิตโดย บริษัทกู๊ดบอย เอนเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด วันเวลาออกอากาศ : ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 18.00-19.00 น. ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 และสามารถรับชมย้อนหลังที่แรกที่เดียวที่ TrueID ผ่าน 3 ช่องทางแอปพลิเคชันเว็บ และกล่อง TrueID TV ดูฟรีทุกเครือข่าย ทันทีหลังละครจบ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เอแคลร์ จือปาก' กับผลงานหนัง-ละครที่ท้าทายตนเอง

ถึงคิวตัวแม่เมร่อน "เอแคลร์ จือปาก" มาเจอกับว่าที่เจ้าสาวออร่าฉ่ำ "แก้มบุ๋ม ปรียาดา" ในรายการ "เมนูของพี่ใส่พริกกี่เม็ด" เข้าครัวทำอาหารสุดโปรดไข่ตุ๋น พร้อมเผยผลงานในวงการบันเทิงที่ท้าทายตัวเอง

'ช่อง 3' เปิดผังเดือนกุมภาพันธ์

เข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์ ช่อง 3 ยกทัพความบันเทิงมากันจนล้นจอ รับประกันความสนุกแบบจัดเต็ม เตรียมกดรีโมทดูหน้าจอช่อง 3 กันได้เลย เริ่มต้นกันที่ละครพีเรียดโรแมนติก-คอมเมดี้ เว้าวอนรัก ซึ่งได้ อแมนด้า ชาลิสา ออบดัม ขึ้นแท่นเป็นนางเอกเต็มตัวเรื่องแรก ประชันสองพระเอก เด่นคุณ งามเนตร และ เพ็ชร-ฐกฤต ตวันพงศ์ ผลงานของผู้จัดคนเก่ง อาร์ต-พนิตนาฏ ฉัตรวิไล แห่ง บริษัท มัมแอนด์แด๊ด เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด กำกับการแสดงโดย กรพจน์ สืบชมภู

'ช่อง7HD' จัดทัพละครเด็ด 'ปี2567' รวมนักแสดงฝีมือดีแน่นจอ!

ยังคงเดินหน้าคัดสรรละครดี เปี่ยมคุณภาพให้กับผู้ชมอย่างต่อเนื่องเช่นเดิม สำหรับช่อง 7HD โดยในปี 2567 นี้ พบกับทัพละครหลากรส ครบทุกแนว ทั้งช่วงละครหลังข่าวภาคค่ำ และก่อนข่าวภาคค่ำ ที่มัดรวมความสนุก เริ่มจากละครหลังข่าวภาคค่ำ อัดแน่นความหลากหลายครบรส รวมนักแสดงมากฝีมือ

'Bake Me Please' ตัวแทนซีรีส์วายไทยเข้าชิงรางวัลเวที 'GagaOOLala AWARDS 2023'

ความฟีลกู๊ดของหนุ่มๆ สายหวาน นำโดย โอห์ม-ฐิติวัฒน์ ฤทธิ์ประเสริฐ(เชฟชิน), ไกด์-กันตพล ชมภูพันธ์(พีช), ภูมิ-ภูริพันธ์ ทรัพย์แสงสวัสดิ์(เชฟกาย), เปรม-ณพนัช ธนติณตระกูล(โอบ) และ อะตอม-ณฐาภพ เคนจันทึก (อะตอม) นักแสดง ซีรีส์ “Bake Me Please พิชิตใจนายสายหวาน” เรื่องแรกจาก Rose studio เข้าตากรรมการเข้าให้แล้ว

'เบลล่า' ซ้อมหนักเพื่อแฟนๆ กับงาน 'FAN MEETING จะชาตินี้ชาติไหนหัวใจคือเธอ'

แฟนละครออเจ้าทั้งหลายห้ามหลาด เข้าสู่โค้งสุดท้ายแล้ว กับงาน “FAN MEETING จะชาตินี้จะชาติไหนหัวใจคือเธอ” ที่ยกทัพนักแสดงกว่าหลายชีวิตมาสร้างความสุข ความสนุก ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นใกล้ชิดฟินหลายตลบที่จะเกิดขึ้นในงานนี้งานเดียวเท่านั้น

นักวิชาการอิสระ เผยดูละครพรหมลิขิตวันแรกก็ติดงอมแงม พร้อมอธิบายการเมืองยุคอยุธยาตอนปลาย

นายภัทร เหมสุข นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กกล่าวถึงละครย้อนยุคเรื่อง "พรหมลิขิต" ว่า วันนี้ (18 ต.ค.) ตอนสองทุ่มครึ่งเหมือนโลกหยุด งานการไม่ต้องทำกันแล้วเพราะทุกคนอยากดูตอนแรกของ พรหมลิขิต ep1 ถ้าทุกคนหยุดผมก็ต้องหยุดด้วย ทำงานอยู่คนเดียวดูเหมือนเป็นคนทำตัวขวางโลก