'มิน พีชญา' ยินดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ปัดมีหุ้นใน 'THE iCON GROUP'

นางเอกสาว มิน-พีชญา วัฒนามนตรี นัดสื่อมวลชนเพื่อตั้งโต๊ะแถลงข่าวชี้แจงแล้ว หลังมีรายชื่อเป็นหนึ่งในบอสและพรีเซ็นเตอร์ ของบริษัท THE iCON GROUP ในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร โดยเจ้าตัวได้เดินทางมาพร้อมกับผู้จัดการส่วนตัวและทีมทนายความ โดย มิน พีชญา เผยว่า

“มินไม่ได้นิ่งนอนใจ หลังเกิดเรื่องก็อยากออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ แต่ทุกอย่างพร้อมวันนี้ ถามว่ามินเป็นใครในบริษัท มินเป็นทั้งพรีเซ็นเตอร์และผู้รับจ้าง ในฐานะผู้บริหารฝ่ายสื่อสารองค์กร หรือเรียกภาษาบ้านๆ ว่าพีอาร์ มีสัญญากฎหมายชัดเจน ส่วนคนข้างในบริษัทเขาจะเรียกว่ามินว่าบอส เป็นคำที่เขาเรียกมินกันเอง และให้เกียรติมิน มินได้ค่าตัวเท่ากับค่าตัวพรีเซ็นเตอร์ปกติทั่วไป เป็นการเหมารวมทั้งพีอาร์และพรีเซ็นเตอร์ มินเพิ่งร่วมงานกับบริษัทมาได้แค่ปีกว่า เซ็นสัญญาปีต่อปี วันที่ก้าวเข้ามาร่วมงาน ได้รับข้อมูลเหมือนทุกคน ก็ตรวจสอบว่าบริษัทจดตั้งถูกต้องไหม ผลิตภัณฑ์เป็นยังไง เอามาลองใช้จริง แล้วบริษัทมีรางวัลจาก สคบ.ซึ่งเป็นหน่วยงานของภาครัฐ แล้วมินไม่ใช่พรีเซ็นเตอร์คนแรกที่มาร่วมงาน

มินตรวจสอบเท่าที่บุคคลคนหนึ่งจะตรวจสอบได้แล้ว แต่ยังโทษตัวเอง ว่าเราตรวจสอบไม่ดีพอ ทำให้เกิดความเสียหายกับประชาชนที่เรารัก  ตั้งแต่มินเข้ามา บริษัทไม่เคยมีจุดน่าสงสัยตรงไหนเลย คือภาพลักษณ์มันดีเหมือนที่ทุกคนเห็น มินเองเพิ่งได้ยินเรื่องเสียหายของบริษัท พร้อมกับทุกคนเลย ยอมรับว่าตกใจมาก แล้วก็พยายามตั้งสติและตั้งรับ ที่ตกใจและเสียใจ เพราะมีผู้เสียหายเกิดขึ้น และมินสงสารเขามาก มินอยากยืนเคียงข้างข้างประชาชน ต่อให้มินพยายามตรวจสอบอย่างรอบคอบแล้ว แต่มันก็ยังไม่มากพอและไม่ครอบคลุม มินพลาดจริงๆ มินไม่ได้เอะใจเลย มินพยายามตรวจสอบเท่าที่จะมากได้ ตรวจแม้กระทั่งภาษีว่าเขาจ่ายถูกต้องไหม มินก็กลัว

อยู่วงการมา 20 ปี มินไม่เคยเสียหาย  ไม่เคยรับอะไรที่สุ่มเสี่ยง สีเทา แล้วบ้านมินก็มีธุรกิจก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ แล้วเงินที่ได้จาก THE iCON ก็เป็นเงินที่ได้เท่ากับค่าตัวพรีเซ็นเตอร์ทั่วไป มินไม่ได้ได้เงินเป็น 100 ล้านอย่างที่เขาพูด มินมีทางเลือกไม่ต้องมาทำอะไรสีเทาให้ประชาชนเดือดร้อนเพื่อที่ตัวเองจะได้มีเงินไปเพื่ออะไร ที่บ้านมินมีธุรกิจรองรับอยู่แล้ว แล้วที่มินเข้ามาทำงานตรงนี้ ผู้จัดการได้รับการติดต่อจากบริษัท ให้มาเป็นพรีเซ็นเตอร์เซรั่มตัวหนึ่ง หลังจากนั้นเขาก็ติดต่อมา ว่าอยากให้เป็นมากกว่าพรีเซ็นเตอร์ อยากให้มาเป็นพีอาร์ของบริษัท 

ในส่วนของการออกงานมีสคริปต์ไหม มินได้รับการให้ข้อมูลจากบริษัท ในมุมดีหมดเลย ณ วันนั้นมินก็เชื่อจริงๆ ว่าบริษัทนี้และผลิตภัณฑ์ทั้งหมด จะช่วยให้คนมีชีวิตที่ดีขึ้นได้ วันนั้นเราเชื่อว่าดีจริง จนวันนี้ได้ยินเรื่องแล้วตกใจมาก และเมื่อเกิดเหตุขึ้น มินก็เสียใจ อยากจะแสดงความจริงใจกับผู้เสียหาย โดยการยุติสัญญากับบริษัท THE iCON ที่มีต่อกันทั้งหมด แม้จะยังไม่มีการตรวจสอบว่าถูกหรือผิด แต่มินเลือกข้างประชาชน เลือกความยุติธรรมและความถูกต้อง มินไม่หนีไปไหน จากนี้จะรวบรวมพยานหลักฐาน เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จะเอาทุกอย่างส่งพนักงานสอบสวน ยินดีให้ความร่วมมือทุกอย่าง อยากให้รีบตรวจสอบ

อยากรู้ความจริงทั้งหมดเหมือนกัน ตั้งแต่เกิดเรื่องไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้คุยกับคุณพอลว่าจะจัดการยังไง ติดต่อไป 3-4 วัน แต่ในเมื่อบริษัทเลือกจะเงียบ แล้วทุกอย่างเลยถาโถมมาที่มิน เลยเลือกจะออกมาแถลงข่าว ยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง ส่วนเงินค่าจ้างทั้งหมดจะต้องคืนหรือเอาไปช่วยเหลือผู้เสียหาย มินขอให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายก่อน เพราะมันยังต้องตรวจสอบที่มาของเงิน”