มช.พบไม้ดอกกลิ่นหอม‘เหลืองปิยะรัตน์’ พืชชนิดใหม่ของโลกที่หายากในนราธิวาส

22 ต.ค.2565- นักวิจัยมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ค้นพบพืชชนิดใหม่ของโลก “เหลืองปิยะรัตน์” ที่จังหวัดนราธิวาสระบุเป็นพืชหายากในวงศ์กระดังงา ดอกสวยงามและมีกลิ่นหอม แต่หายากและเสี่ยงสูญพันธุ์ วางแผนวิจัยต่อด้านเภสัชเวทและเภสัชวิทยาเพื่อเป็นพืชสมุนไพรรักษาโรค หลังจากค้นพบพืชชนิดใหม่ของโลกในสกุลมหาพรหม ซึ่งได้รับพระราชทานนาม “พรหมจุฬาภรณ์” เมื่อปี 2562


ล่าสุดนักวิจัยสังกัดภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ หาวิทยาลัยเชียงใหม่ นำโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธนวัฒน์ เชาวสกู และนักศึกษาระดับปริญญาเอก ได้แก่ นางสาวฉัตรธิดา วิยา(สาขาวิชาชีววิทยา) และนางสาวอานิสรา ดำทองดี (สาขาวิชาความหลากหลายทางชีวภาพและชีววิทยาชาติพันธุ์) พร้อมทั้งนายนายกิติศักดิ์ อ๋องย่อง และนายอับดุลรอแม บากา นักวิจัยอิสระ ได้ร่วมกันศึกษาตัวอย่างพืชจากอำเภอจะแนะ และอำเภอสุคิรินจังหวัดนราธิวาส โดยบูรณาการข้อมูลสัณฐานวิทยาและวิวัฒนาการชาติพันธุ์เชิงโมเลกุลเข้าด้วยกันพบว่าเป็นพืชชนิดใหม่ของโลกในวงศ์กระดังงา (Annonaceae) จำนวน 1 ชนิด คือ เหลืองปิยะรัตน์

เหลืองปิยะรัตน์

เหลืองปิยะรัตน์มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Phaeanthuspiyae Wiya, Aongyong & Chaowasku โดยตั้งชื่อเป็นเกียรติแก่ ดร.ปิยะ เฉลิมกลิ่น นักวิจัยอาวุโส ผู้ริเริ่มการศึกษาพืชวงศ์กระดังงาในประเทศไทยและได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติ Taiwania ปีที่ 66 ฉบับที่ 4 หน้าที่ 509-516 พ.ศ. 2564 โดยงานวิจัยนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิจัยอนุกรมวิธานและวิวัฒนาการชาติพันธุ์ของพรรณไม้วงศ์กระดังงาในประเทศไทยที่หายากและยังไม่เป็นที่รู้จักเพื่อการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนภายใต้การสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) 

ผลแก่ของดอกเหลืองปิยะรัตน์

เหลืองปิยะรัตน์มีลักษณะเด่น คือ เป็นไม้ต้นขนาดเล็ก สูงประมาณ 3 เมตร มีก้านดอกยาวกลีบดอกชั้นนอกมีขนาดเล็กคล้ายกลีบเลี้ยง กลีบดอกชั้นในเมื่อเจริญเต็มที่จะมีสีเหลืองเข้มที่โคนกลีบมีสีม่วงอมน้ำตาล ดอกมีกลิ่นหอม ผลเป็นผลกลุ่ม ผลย่อยมีเมล็ดเดียว เมื่อสุกสีแดงสดจากการสำรวจพบเหลืองปิยะรัตน์เพียงไม่กี่ต้นในหย่อมป่าดิบชื้นที่ถูกรบกวน ซึ่งรายล้อมไปด้วยสวนยางและสวนผลไม้ สุ่มเสี่ยงที่จะถูกแผ้วถางจนสูญพันธุ์ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องช่วยกันอนุรักษ์ไว้ ก่อนที่จะไม่เหลือให้ชนรุ่นหลังได้ชื่นชมและศึกษา
นอกจากเหลืองปิยะรัตน์แล้ว ในประเทศไทยยังพบพืชาสกุล Phaeanthus อีก 1 ชนิด คือ หัวลิงซึ่งมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า  Phaeanthus Lucidus Oliv. โดยพบที่จังหวัดนราธิวาสและยะลา   

“เหลืองปิยะรัตน์มีศักยภาพในการพัฒนาเป็นไม้ดอกไม้ประดับได้เนื่องจากมีดอกที่สวยงามและมีกลิ่นหอมนอกจากนี้พบว่าผู้คนในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ใช้พืชสกุล Phaeanthus ชนิดอื่น ๆเป็นพืชสมุนไพรรักษาโรคตา ดังนั้นอาจพัฒนาเหลืองปิยะรัตน์เป็นพืชสมุนไพรได้เช่นเดียวกันซึ่งจะต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมทางด้านเภสัชเวทและเภสัชวิทยาต่อไป” ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธนวัฒน์ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

มช. เปิดตัวเว็บไซต์ แสดง Dashboard ระบบการเฝ้าระวังโรคที่เป็นผลกระทบจากปัญหาหมอกควัน และการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.นพ.สุวัฒน์ จริยาเลิศศักดิ์ คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และหัวหน้าโครงการวิจัย

มช. เปลี่ยนการเผาเป็นพลังงานสะอาด พัฒนาชีวมวลจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ทดแทนการใช้ถ่านหิน ลดมลพิษ เพิ่มโอกาสแก่ชุมชน

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดย คณะวิศวกรรมศาสตร์ เดินทางไปยังอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่เพื่อสาธิตวิธีการใช้เครื่องต้นแบบ Torrefactor และ Pyrolyzer นำทีมโดย ศาสตราจารย์ ดร.นคร ทิพยาวงศ์

'เศรษฐา' โปรยยาหอมทิ้งท้ายปีหน้าลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้อีก!

นายกฯ เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลาม ด้าน คกก.อิสลามประจำจังหวัดนราธิวาสอ่านดุอาอ์ขอพรให้ เศรษฐา ยันยินดีรับฟังความเห็น พร้อมร่วมกันทำงาน เผยปีหน้ามาดูความคืบหน้าโครงการต่างๆอีก

เปิดศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยวข้าวหรือ “โรงเรียนโรงสีแห่งแรก” ของประเทศไทย

เมื่อวันที่ 26 ก.ย.ที่บริษัท ยนต์ผลดี จำกัด จ.นครสวรรค์ มีพิธีเปิดศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยวข้าว มี ดร.วิสูตร จิตสุทธิภากร ตำแหน่ง ประธานกรรมการบริษัท ยนต์ผลดี จำกัด