6 ก.ค.2566 - ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า ในการประชุมคณะกรรมาธิการกิจการวุฒิสภา(วิปวุฒิสภา) เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา มีการหารือเรื่องการประชุมรัฐสภา เพื่อโหวตนายกรัฐมนตรี ในวันที่13ก.ค. โดยมีส.ว.บางคนหยิบยกประเด็นการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีว่า หากไม่ได้รับเสียงเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภาครบ 376เสียง ในวันดังกล่าว จะสามารถเสนอชื่อนายพิธากลับมาโหวตในรอบสองได้หรือไม่ โดยเทียบเคียงกับการพิจารณาคัดเลือกบุคคลมาดำรงตำแหน่งองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญของวุฒิสภา ที่หากชื่อบุคคลใดไม่ได้รับความเห็นชอบจากที่ประวุฒิสภาแล้ว จะไม่มีสิทธิได้รับการเสนอชื่อกลับมาพิจารณาใหม่ในรอบสองอีก
นอกจากนี้ ยังหารือกรณีหากจะเปิดประชุมรัฐสภาเพื่อโหวตนายกฯมากกว่า 1ครั้ง จะต้องเว้นระยะห่างการประชุมกี่วัน เพราะส.ว.บางคนมองว่า อย่างน้อยต้องเว้นระยะห่างการประชุม 3วัน ตามข้อบังคับการประชุมในการแจ้งระเบียบวาระให้สมาชิกทราบ ไม่สามารถประชุมต่อเนื่องกันได้ในวันรุ่งขึ้น ขณะที่บางคนเสนอให้เว้นระยะเวลาลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีห่างกัน 2สัปดาห์ อย่างไรก็ตามทั้ง 2ประเด็นดังกล่าวไม่สามารถหาข้อยุติได้ในการประชุมกมธ.กิจการวุฒิสภา จึงมอบให้นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ไปหารือกับนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อหาข้อยุติในประเด็นที่ส.ว.มีข้อสงสัย รวมถึงให้นำไปหารือในที่ประชุมวิป3ฝ่ายคือ ส.ว. ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล และส.ส.ฝ่ายค้านในต้นสัปดาห์หน้า เพื่อหาข้อยุติต่อไป
ขณะที่ความเคลื่อนไหวของส.ว. ที่ก่อนหน้านี้มีส.ว.ร่วม 20คน ประกาศจะสนับสนุนนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี ตามเสียงข้างมากที่ได้รับฉันทามติจากประชาชน แต่หลังจากที่พรรคก้าวไกลยังยืนยันมีนโยบายเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112 ต่อสภาผู้แทนราษฎร ทำให้เสียงส.ว.หลายคนที่เคยระบุพร้อมจะสนับสนุนนายพิธาเป็นนายกฯ เกิดความลังเล และไม่โหวตสนับสนุนนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี ทำให้เหลือเสียงส.ว.ที่พร้อมหนุนนายพิธาเป็นนายกฯขณะนี้ไม่ถึง 10คน จนมีแนวโน้มค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า นายพิธาจะได้รับเสียงสนับสนุนเป็นนายกฯจากส.ส.และส.ว.ไม่ถึง 376เสียง ในการประชุมรัฐสภา วันที่ 13ก.ค. เพื่อโหวตนายกรัฐมนตรี
นายทรงเดช เสมอคำ ส.ว. กล่าวถึงกรณีเคยระบุพร้อมสนับสนุนนายพิธา หากสามารถรวบรวมเสียงข้างมากของพรรคการเมืองได้เกิน 250เสียงว่า เดิมเคยมีหลักการโหวตให้พรรคการเมืองที่รวบรวมเสียงส.ส.ข้างมากได้เกิน 250เสียง เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ถ้านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ยังมีจุดยืนแก้ไขมาตรา112 ก็ไม่สามารถโหวตให้เป็นนายกฯได้ เพราะมาตรา112 แตะต้องไม่ได้ไม่ว่าจะยกเลิกหรือแก้ไข ดังนั้นถ้าพรรคก้าวไกลยังมีนโยบายแก้ไขมาตรานี้ จะไม่โหวตให้นายพิธาเป็นนายกฯ
นางประภาศรี สุฉันทบุตร ส.ว. กล่าวยืนยันว่าจากที่เคยโพสต์ข้อความว่าสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกมนตรีนั้น ขณะนี้ยังไม่เปลี่ยนแปลง ยังสนับสนุนนายพิธาเป็นนายกฯเช่นเดิม เนื่องจากจะโหวตให้พรรคเสียงข้างมาก หากนายพิธาไม่ได้รับเลือกเป็นนายกฯแล้ว พรรคอันดับสองเสนอแคนดิเดดเป็นนายกฯก็จะเลือกนายกฯจากพรรคอันดับ2 แต่หากยังไม่ได้รับเลือกอีก แล้วพรรคเสียงข้างน้อยเสนอตัวเป็นนายกฯ ตนจะไม่เลือก
เมื่อถามว่าไม่ติดใจในเรื่องการแก้ไขมาตรา112 ของพรรคก้าวไกล นางประภาศรี ตอบว่าเรื่องมาตรา 112 หรือเรื่องหุ้นไอทีวีเป็นเรื่องขององค์กรที่เกี่ยวข้องจะพิจารณา ส.ว.ไม่มีหน้าที่ไปตัดสินเรื่องเหล่านี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ค้าน ‘VAT’15% ‘พิธา’ สอน ‘อิ๊งค์’ ต้องปฏิรูปภาษี
"พิธา" แนะรัฐบาลปฏิรูปภาษีทั้งระบบ ดีกว่าเจาะจงที่แวต ถามตัวเลข 15% มาจากไหนไม่เข้าใจ ด้านประธานหอการค้าขอนแก่นระบุการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มควรขึ้นไม่เกิน 10%
'พิธา' แนะรัฐบาลปฏิรูปภาษีทั้งระบบ มากกว่าปรับขึ้น VAT 15% สงสัยอยู่ดีๆก็โพล่งมา
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวรัฐบาลมีแนวคิดขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม 15% ว่า ภาษีในประเทศ มีทั้งภาษีทางตรง
'พิธา' ลุยช่วยหาเสียงเลือกนายก อบจ.อุบลฯ หวังเป็นตาอยู่ ศึก 2 ขั้วใหญ่ชนกันเอง
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ลงพื้นที่ช่วยนายสิทธิพล เลาหะวนิช ผู้สมัครนายก อบจ.อุบลราชธานี
ปปช.เปิดทรัพย์สิน 'ก่อแก้ว' สุดอู้ฟู่รวย 263 ล้านบาท
เปิดเซฟ 'ชัยธวัช ตุลาธน' อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล 19.3 ล้านบาท 'อภิชาติ' อดีตเลขาธิการพรรค 13.2 ล้านบาท 'ก่อแก้ว' อู้ฟู่ 263 ล้าน
'เอ็ดดี้ อัษฎางค์' มีคำตอบให้! 'พิธา' ไม่เข้าใจทำไมกลายเป็นศัตรูเพื่อไทย
เอ็ดดี้-อัษฎางค์ ยมนาค อินฟลูเอ็นเซอร์การเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" ไม่เข้าใจทำไมกลายเป็นศัตรูกับเพื่อไทย อัษฎางค์ ยมนาค มีคำตอบให้