'ภูมิธรรม' คาดแบ่งเค้กใกล้เคียงวันโหวตนายกฯ เตรียมประสานขอเสียง รทสช.

แฟ้มภาพ

14 ส.ค. 2566 - นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีกระแสข่าวพรรคที่จะมาร่วมกับพรรคเพื่อไทยยื่นเงื่อนไขร่วมรัฐบาลต้องไม่มีเงื่อนไขห้ามรัฐมนตรีนั่งกระทรวงเดิม หากมีขอให้เปลี่ยนตัวแคนดิเดตนายกฯ ว่าตนยังไม่ได้ยินพรรคใดประสานมาในเรื่องดังกล่าวอย่างเป็นทางการ แต่เท่าที่ได้คุยกับหัวหน้าพรรคที่จะมาร่วมงานกับเพื่อไทย ไม่มีปัญหาที่รุนแรงในเรื่องนี้ ประเด็นที่ว่านายเศษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย ไปพูดไม่ให้พรรคที่จะมาร่วมกับพรรคเพื่อไทยทำงานกระทรวงเดิม นายเศรษฐาไม่ได้พูดเป็นหลัก เป็นคำถามจากสื่อว่าหลักการไม่ควรให้นั่งกระทรวงเดิมหรือไม่ ซึ่งนายเศรษฐา พูดเพียงว่าหลักการดูดีเห็นชอบ แต่ต้องดูว่าการเชิญพรรคต่างๆมาร่วมต้องให้เกียรติและดูความเหมาะสม ไม่อยากให้ยึดติดอยากให้ดูนโยบาย คุณสมบัติของคนที่จะมาทำงานเป็นที่ยอมรับของสังคมหรือไม่ ซึ่งเราไม่มีปัญหาอะไรเป็นเรื่องที่ต้องหารือกัน หน้าที่ของพวกเราต้องประสานงานตั้งรัฐบาลให้ได้ แต่ประเด็นเหล่านี้ต้องไปดูความเหมาะสม นโยบายตัวบุคคล คิดว่าไม่น่ามีปัญหา เท่าที่คุยกับหัวหน้าพรรคหลักๆ เราพูดเหมือนเดิมว่าอยู่ที่ใครร่วมและส่งสัญญานในการเลือกนายกฯให้เพื่อไทยเป็นแกนนำ มีนายเศรษฐา เป็นนายกฯ หลังจากนั้นมาพูดเรื่องกระทรวงให้สังคมพอใจและสอดรับนโยบายบายแต่ละพรรคน่าจะดีกว่า ขอความกรุณาจากพรรคร่วมให้ช่วยดูตรงนี้ เอาวาระประเทศวาระประชาชนเป็นที่ตั้ง แล้วดูความเหมาะสมจะแบ่งกันทำงานอย่างไร ทุกเรื่องคุยกันได้หากใช้เหตุใช้ผล อยากให้รอเวลาคุยกันอีกนิดเดียว

เมื่อถามว่าพรรคการเมืองต่างๆอยากให้คุยก่อนโหวตนายกฯ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรารวมเสียงมาถึงขั้นนี้แล้วไม่มีปัญหา ถึงเวลาที่เหมาะสมจะทำให้มันชัด ต้องชัดเจนก่อนว่ามีคนพร้อมร่วมรัฐบาลเท่าไหร่แล้วจะจัดการอย่างไร ตอนนี้เรามี 238 เสียง พรรคพลังประชารัฐบอกจะโหวตให้โดยไม่มีเงื่อนไขก็รวมเป็น 278 เราต้องทำให้ได้ 375 เสียง และเท่าที่ฟังพรรคการเมืองอื่นๆ ทั้งประชาธิปัตย์ หรือรวมไทยสร้างชาติ ก็พูดทางบวกให้ใช้นโยบายเป็นแกนกลางกำหนดนโบบายทำงาน ดูใครเมหาะสม ใครเป็นหลักเป็นรอง ถ้าคุยด้วยผลประโยชน์ประเทศชาติคุยได้หมด ตั้งใจว่าเมื่อเลือกนายกฯแล้วรัฐบาลจะเดินหน้าทำงานได้ในเดือนก.ย. คิดว่าประเด็นกระทรวงต่างๆจะเสร็จสิ้นใกล้เคียงกับการโหวตนายกฯขอดูเวลาที่เหมาะสม

ถามถึงความคืบหน้าการประสานพรรคมาร่วมโหวตให้แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทยเพิ่มเติม ได้ประสานงานไปยังพรรครวมไทยสร้างชาติแล้วหรือยัง จะมีการประกาศชื่อพรรคร่วมอื่นอีกหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่ากำลังดำเนินการ ทราบแล้วว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ มีแนวโน้มเป็นบวก เราคุยกันบ้างแล้วตั้งแต่เชิญมารับฟังแนวทางร่วมรัฐบาลก่อนหน้านี้ที่พรรคเพื่อไทย ยืนยันความสัมพันธ์ไม่มีปัญหา รอหัวหน้าและเลขาฯพรรคเตรียมการให้เรียบร้อยแล้วจะเชิญพรรครวมไทยสร้างชาติมาพูดคุยอย่างเป็นทางการ เมื่อได้ความชัดเจนว่าจะร่วมรัฐบาลกันหรือไม่จะมีการประกาศอย่างชัดเจนอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า สว.อยากให้เศรษฐาไปแสดงวิสัยทัศน์ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องถามไปยังนายเศรษฐา แต่นายเศรษฐาไม่ใช่ สส. การเข้าไปพูดในสภาฯอาจลำบาก ที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯพรรคก้าวไกล พูดในรัฐสภาเป็นการตอบคำถามแล้วแสดงวิสัยทัศน์ และที่ผ่านมาไม่เคยมีการแสดงวิสัยทัศน์ การตรวจสอบผู้ที่จะมาเป็นนายกฯเป็นเรื่องจำเป็น ทุกคนสามารถตรวจสอบได้ นายเศษฐา ก็พูดชัดเจนแล้วประเด็นที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาตั้งคำถามโดยให้บริษัทที่ถูกตั้งคำถามชี้แจง และนายเศรษฐาก็รักษาสิทธิโดยการฟ้องร้องนายชูวิทย์ ว่าไปตามกฎหมาย เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเลี่ยงภาษี แต่เป็นการบริหารจัดการภาษีตามกฎหมาย เป็นหลักการที่มีการสอนกันในมหาวิทยาลัย เมื่อทุกอย่างทำตามกฎหมมายก็ไม่ผิดจริยธรรม มั่นใจนายเศรษฐาไม่มีปัญหาเรื่องคุณสมบัติอย่างแน่นอน

นายภูมิธรรม ยังกล่าวถึงกรณีที่แกนนำพรรคเพื่อไทยเดินทางไปพูดคุยกับพรรคก้าวไกลที่มีการออกมาระบุพรรคเพื่อไทยไม่ได้บอกรายละเอียดการเดินหน้าตั้งรัฐบาลว่า ขอยืนยันข้อเท็จจริง การไปพบกับพรรคก้าวไกลวันนั้น ไปในฐานะทีมเจรจา ส่วนที่มีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทยไปด้วยนั้น พรรคก้าวไกลเป็นคนร้องขอมา เพื่อจะได้สะบายใจกันทุกฝ่ายน.ส.แพทองธารก็เดินทางไป เราไปอย่างเปิดเผยไม่ปิดบังอะไร ส่วนที่มีรายงานข่าวว่าเราไปแจ้งว่าจะเอาสองลุงมาร่วมรัฐบาลนั้น ไม่ตรงข้อเท็จจริงอาจจะคลาดเคลื่อน เราบอกทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดให้เขาสนับสนุนเราเป็นรัฐบาลได้ เพื่อให้เราทำงานได้ แต่ทางก้าวไกลอยากให้เรากลับไปเป็น 312 เหมือนเดิม ซึ่งเราบอกไปว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นใหม่จะยังตั้งรัฐบาลไม่ได้ เราอยากให้ตั้งรัฐบาลให้ได้เพื่อเปิดประตูแก้วิกฤติ แต่เขาอยากให้เราเป็นเหมือนเดิมคือ 312 ซึ่งไม่ได้ เมื่อไปไม่ได้เราต้องเลือกทางเดินอื่นที่มีไม่กี่ทาง ซึ่งอาจจะขัดใจประชาชนบ้าง แต่พรรคการเมืองที่จะมาร่วมกับเราก็มาจากประชาชน หากพรรคก้าวไกลโหวตให้เราก็ขอบคุณไม่โหวตก็ไม่ว่ากัน หากเขาเป็นฝ่ายค้าน เราเป็นรัฐบาลถ้าทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ สามารถสร้างประโยชน์ให้ประเทศชาติได้ เราพร้อมสนับสนุนนโยบายของเขาที่เป็นประโยชน์

"แต่เราจะไม่ยอมเรื่องกฎหมายอาญามาตรา 112 และเรื่องที่เกี่ยวกับสถาบัน ส่วนที่บอกว่าตนไม่ได้ขอขมา ตนยอมรับว่าเคยพูดว่าจะไปขอโทษขอขมา แต่ที่พูดไปเป็นเพียงสร้อย เพราะไม่รู้สึกว่าตนทำผิดอะไร แต่ในการพูดคุยตนได้พูดไปว่า หากมีอะไรไม่สะบายใจก็ขอโทษ เรามองเรื่องการร่วมมือเป็นหลักจะสามารถแก้ปัญหาได้ ตนยืนยันแล้วว่าถ้าทำงานใหญ่คิดเรื่องใหญ่ต้องใจใหญ่ คิดเรื่องเล็กทำงานใหญ่ไม่ได้"

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ธนกร' เชื่อครม.ใหม่เดินหน้าทำงานเพื่อประชาชนทันที ปัญหาประเทศรอไม่ได้

นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากที่มีการปรับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตนเชื่อว่า รัฐมนตรีทุกคนมีศักยภาพและประสบการณ์ในการทำงาน

'อุ๊งอิ๊ง' ดูไว้! นักการเมืองต้องรักษาสัจจะเหมือน 'อภิสิทธิ์' เคยหาเสียงไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์

เมื่อน.ส.แพทองธาร ชินวัตร กล่าวในงานอีเวนต์ ”10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10“ ว่า พรรคเพื่อไทยตัดสินใจถูกตั้งรัฐบาลผสม

'จักรพงษ์' ปัดเลื่อนชั้นขึ้นนั่ง รมต. จากสายตรงเศรษฐา ยันไร้ปัญหากับปานปรีย์

นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนเข้าถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวถึงกรณีที่ถูกมองว่าเป็นการพาร์ทชั้นจากเดิมที่อยู่ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ว่า ไม่ได้พาร์ทชั้นหรอก

'สุชาติ' ลั่นทำงานเพื่อประเทศชาติ ไม่ใช่เพื่อตัวเอง ไม่ซีเรียสเป็น รมช.พาณิชย์

นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ถึงการได้กลับเข้าทำเนียบรัฐบาลในรอบ 7 เดือน ว่า ได้กลับเข้ามาทำงานให้ประเทศชาติบ้านเมืองเหมือนเดิม

ทำเนียบคึกคัก! รัฐมนตรีใหม่ถ่ายภาพทำบัตร ก่อนเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ฯ

รัฐมนตรีใหม่ที่ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ได้เดินทางเข้าทำเนียบฯเพื่อถ่ายภาพทำประวัติ และทำบัตรประจำตัวรัฐมนตรี ที่ห้องสีเหลือง ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคั

'ก้าวไกล' ไม่กังวลถูกยุบพรรค 'ชัยธวัช' บอกคุยลูกพรรคหลายรอบแล้ว

นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการที่ศาลรัฐธรรมนูญขยายเวลาให้พรรคก้าวไกลแก้ข้อกล่าวหาในคดีล้มล้างการปกครอง ว่า คดีนี้มีความร้ายแรงมากกว่าคดีก่อนหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ