'ภูมิธรรม' ร่ายยาว สังคมไทยขัดแย้งแบ่งกลุ่ม แบ่งสี พท.ต้องคิดใหญ่ ใจกว้าง จับมือกับทุกพรรค

การตัดสินใจครั้งนี้ของพรรคเพื่อไทยเรายอมเสียต้นทุนทางการเมืองบางส่วนด้วยความเชื่อว่า “ทารกที่คลอดจากครรภ์มารดา ล้วนผ่านความเจ็บปวดฉันใด การเปลี่ยนแปลง เพื่อสิ่งใหม่ที่ดีขึ้น ย่อมต้องผ่านความเจ็บปวดฉันนั้น”

16 ส.ค.2566 - นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก มีเนื้อหาดังนี้

พรรคเพื่อไทยมีจุดกำเนิดต่อมาจากพรรคไทยรักไทยซึ่งเริ่มต้นขึ้นภายใต้รธน. ปี40 ที่ร่างขึ้นภายหลังจากวิกฤติการเมือง พค 35 ครั้งนั้น ทหารทุกเหล่าทัพยอมถอยออกจากการเมือง กระทั่งไม่มีใครคิดว่าประเทศไทยจะมีการรัฐประหารอีกแล้ว
แต่ต่อมาเมื่อสังคมไทยเกิดความขัดแย้ง แบ่งกลุ่ม แบ่งสี กันอย่างรุนแรง พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน กระทั่งถึงพรรคเพื่อไทย
ซึ่งยืนหยัดต่อสู้บนหลักการประชาธิปไตยมาโดยตลอด
มาถึงวันนี้ เรายังคงยืนยันบนหลักการประชาธิปไตยไม่เปลี่ยนแปลง
การดำเนินงานการเมืองของพรรคเพื่อไทยในครั้งนี้กับความพยายามคลี่คลายความขัดแย้งที่ดำรงอยู่มาเป็นเวลายาวนานกว่า 20 ปี หัวใจสำคัญคือแต่ละฝ่ายยอมถอยออกคนละก้าว ให้มาอยู่ในจุดที่ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับประเทศและประชาชน
กระบวนทัศน์เดิมในทางการเมืองมองพรรคการเมืองคู่แข่งคือการเอาชนะคะคานกัน กระทั่งปัจจุบัน ยังเพิ่มอารมณ์เหยียดหยาม
ด้อยค่าอีกฝ่ายที่ไม่ใช่ฝ่ายเราอย่างหนักหน่วงโดยเฉพาะในสื่อสังคมออนไลน์
หากเปลี่ยนมุมคิดโดยใช้การเมือง เป็นเวทีที่ได้พูดคุย แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ทำงานร่วมกัน ช่วยสลายขั้วความขัดแย้ง และนำพาบ้านเมืองออกจากหล่มความขัดแย้งดังกล่าว
การคิด และดำเนินการเพื่อให้ประสบผลสำเร็จในภารกิจใหญ่เช่นนี้ มิใช่เรื่องง่าย สำหรับพรรคเพื่อไทย เพราะในอดีตเราเคยเป็นฝ่ายถูกกระทำมาโดยตลอด แต่ภายหลังการพูดคุยแลกเปลี่ยนกันภายในพรรค พวกเราได้ข้อสรุปที่ตระหนักดีว่าหากจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีของสังคมอย่างที่ทุกคนคาดหวัง
พรรคเพื่อไทยต้องคิดใหญ่ ด้วยใจที่ใหญ่ ใจที่กว้าง ภายใต้สถานการณ์ทางเลือกที่คับแคบอย่างยิ่ง
พรรคเพื่อไทย จำเป็นต้องทำงานกับความคิด ความรู้สึกของทุกคนภายในพรรคอย่างมาก เมื่อมองเห็นเป้าหมายที่ใหญ่กว่าผลประโยชน์ของพรรคเพียงฝ่ายเดียว พรรคเพื่อไทยจำเป็นต้อง แสวงหาทางเลือกที่ดีที่สุด และเป็นรูปธรรม ภายใต้หลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข
โดยเปิดใจกว้าง จับมือทำงาน
ร่วมกับทุกพรรคการเมืองที่ล้วนแล้วแต่ได้รับคะแนนเสียงการเลือกตั้งมาจากประชาชนที่หลากหลาย ในจำนวนสัดส่วนที่แตกต่างกัน เพราะ
นี่คือ ตัวแทนของประชาชนส่วนหนึ่งของประเทศที่ต่างก็มีสิทธิ์และเสียงเท่าเทียมกัน
การตัดสินใจครั้งนี้ของพรรคเพื่อไทยเรายอมเสียต้นทุนทางการเมืองบางส่วนด้วยความเชื่อว่า “ทารกที่คลอดจากครรภ์มารดา ล้วนผ่านความเจ็บปวดฉันใด การเปลี่ยนแปลง เพื่อสิ่งใหม่ที่ดีขึ้น ย่อมต้องผ่านความเจ็บปวดฉันนั้น”
พรรคเพื่อไทยจะใช้ความมุ่งมั่นตั้งใจทำงาน เพื่อพิสูจน์ตัวเองต่อพี่น้องประชาชน เรารับผิดชอบ ในสิ่งที่เราคิด เราทำ
โดยอนาคตจะเป็นบทพิสูจน์ ความคิด และความเชื่อของเรา

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ชูศักดิ์' เผยเคยรับข้อเสนอ 'บุ้ง ทะลุวัง' เพื่อไทยเร่งแก้รธน.เรื่องสิทธิประกันตัว

นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีการเสียชีวิตของน.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง ทะลุวัง ว่า ขอแสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของน.ส.เนติพร ซึ่งยังเป็นเยาวชนคนหนุ่มสาว

'สมชัย' ฟาด 'สหายอ้วน' แค่ส่งข้าวทดสอบอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ จะยากอะไรนักหนา

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ว่า กรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ พาสื่อมวลชนลงพื้นที่ตรวจสอบข้าวสารตามโครงการรับจำนำข้าวซึ่งเก็บมากว่า 10 ปี

ชำแหละ 'เพื่อไทย' ครบรอบ 1 ปี เลือกตั้ง 66 ทำประเทศเสียหายมากมาย

ครบรอบหนึ่งปี เลือกตั้ง 66 'จตุพร' ซัดเพื่อไทยทำ ปท.เสียหายมากมาย ตั้งแต่ตระบัดสัตย์ ปล่อย'ทักษิณ' จุ้นจ้านสงครามพม่า แต่นายกฯ กลับเงียบ ไม่มีใครทำอะไรได้ จึงลำพองอำนาจ ลั่น 29 พ.ค.วันชี้ชะตาบ้านเมืองครั้งสำคัญ

แห่ทวงสัญญา 'อิ๊งค์-นิด-อ้วน' ถ้าได้เป็นรัฐบาลจะขอให้ศาลปล่อยผู้ต้องหาคดีม.112

ในสังคมออนไลน์ กลุ่มที่สนับสนุน น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ "บุ้ง ทะลุวัง" ภายหลังการเสียชีวิตของ บุ้ง ได้มีการแชร์คำพูดของแกนนำพรรคเพื่อไทย ช่วงหาเสียงเลือกตั้งส.ส. เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2566 ต่อนโยบายที่เกี่ยวกับผู้ต้องหาคดีม.112

'อิ๊งค์' เซ็นตั้งที่ปรึกษา ขันน็อต สก.เพื่อไทย

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ลงนามในคำสั่งแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งพรรคเพื่อไทย ที่ 0002/2567 ระบุว่า ตามที่ได้มีคำสั่งพรรคเพื่อไทยลงวัน

ผิดเหลี่ยมปลุกผีโกงจำนำข้าว เพื่อไทยพัง-'ยิ่งลักษณ์'เจ๊ง!

อีเวนต์ระดับชาติเมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา เรียกได้ว่าทำให้พรรคเพื่อไทยเสียแต้มทางการเมือง และอาจทำให้นายใหญ่นายหญิงเจ๊งซ้ำ