ครม. เห็นชอบลดเงินสมทบนายจ้าง-ผู้ประกันตน ตั้งแต่ พ.ค.-ก.ค.65

5 เม.ย.2565 - นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่าตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน และผู้ใช้แรงงาน ได้ออก 10 มาตรการ ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน รวมถึงผู้ใช้แรงงาน หนึ่งในนั้น คือการลดเงินสมทบประกันสังคม เพื่อช่วยเหลือนายจ้างผู้ประกอบการ และพี่น้องผู้ประกันตน โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้น้อย ซึ่งได้รับความเดือดร้อน จากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 และสถานการณ์สงครามระหว่างประเทศรัสเซีย และยูเครน ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ค่าครองชีพ ต้นทุนการผลิต และบริการของทั้งในและต่างประเทศ

โดยเมื่อวันนี้ (5 เมษายน 2565) คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบมาตรการในการช่วยเหลือลดเงินสมทบนายจ้าง ผู้ประกันตนมาตรา 33 จากเดิมร้อยละ 5 เหลือฝ่ายละร้อยละ 1 ของค่าจ้าง และผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ปรับลดอัตราเงินสมทบ จากเดิมร้อยละ 9 (เดือนละ 432 บาท) เหลือร้อยละ 1.9 คิดเป็นเงินเดือนละ 91 บาท โดยเริ่มตั้งแต่งวดเดือนพฤษภาคม - กรกฎาคม 2565 สำหรับฝ่ายรัฐบาลยังส่งเงินสมทบในอัตราเดิมคือร้อยละ 2.75 ของค่าจ้างผู้ประกันตน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยต่อไปว่า มาตรการลดเงินสมทบเพื่อช่วยเหลือ พี่น้องผู้ประกันตนในยามเดือดร้อนในสถานการณ์ดังกล่าว จะส่งผลให้ผู้ประกันตนสามารถนำเงินสมทบที่ลดลง 1,000 – 1,800 บาทต่อคน รวมเป็นเงินประมาณ 18,085 ล้านบาท ไปใช้เพิ่มกระแสเงินสดให้ผู้ประกันตน มีสภาพคล่องมากขึ้น หากลูกจ้างผู้ประกันตนติดเชื้อต้องรักษาตัวไม่สามารถประกอบอาชีพได้ ทำให้ขาดรายได้

อีกทั้งมาตรการดังกล่าว จะเป็นการลดปัญหาทางการเงินของผู้ประกันตนทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น นอกจากนั้นแล้วยังเป็นการช่วยแบ่งเบาลดภาระต้นทุนที่สูงขึ้นและเพิ่มสภาพคล่องให้กับนายจ้าง เป็นจำนวนเงิน 15,938 ล้านบาท เพิ่มศักยภาพในการรักษาการจ้างงาน ส่งผลให้สามารถประกอบธุรกิจต่อไปได้อย่างต่อเนื่องในระบบเศรษฐกิจ เงินสมทบที่ลดลงมากกว่า 34,023 ล้านบาท จะกลายเป็นเม็ดเงินที่นำมาใช้จ่ายช่วยหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ของประเทศ

สำหรับขั้นตอนต่อจากนี้ กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม จะได้เร่งดำเนินการเพื่อให้ประกาศใช้เป็นกฎหมายได้ทันภายในกำหนด จึงขอให้นายจ้าง และผู้ประกันตน มั่นใจการดำเนินงานของกระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคมภายใต้ นโยบายของนายประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาของผู้ประกันตนให้ตรงจุดและทันท่วงที เนื่องจากปัญหาเรื่องความเป็นอยู่ ปากท้องของพี่น้อง ผู้ใช้แรงงานเป็นเรื่องสำคัญ และจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังอย่างแน่นอน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘สุชาติ’ โต้ราคาลำไยกิโลฯละ 1 บาท เฉพาะสินค้าเกรดซี   

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยวันนี้ (12 กรกฎาคม 2568) ว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข่าวทางออนไลน์ ซึ่งอาจทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดว่าลำไยจังหวัดเชียงใหม่มีราคาตกต่ำเหลือเพียงกิโลกรัมละ 1 บาทนั้น ข้อเท็จจริงราคาดังกล่าวเป็นเพียงราคาลำไยเกรด C ซึ่งเป็นลำไยรูดร่วง ผลขนาดเล็กประมาณ 20 มิลลิเมตร ไม่ใช่ราคาลำไยทั้งหมด

ลูกจ้างเฮ! ประกันสังคมเพิ่มเงินว่างงาน ‘เลิกจ้าง’ รับสูงสุด 9,000 บาท/เดือน

สำนักงานประกันสังคมประกาศปรับเพิ่มเงินทดแทนกรณีว่างงานจากการถูกเลิกจ้าง จาก 50% เป็น 60% ของค่าจ้างรายวัน จ่ายสูงสุด 9,000 บาทต่อเดือน นาน 6 เดือน รวม 54,000 บาท เริ่มมีผล 28 มิถุนายนที่ผ่านมา

นายจ้างรู้หรือยัง? ลืมทำสิ่งนี้ เสี่ยงทั้งปรับ-ติดคุก ลูกจ้างเสียสิทธิทันที

สำนักงานประกันสังคม เตือนนายจ้างอย่าละเลยขึ้นทะเบียน-ส่งเงินสมทบตามกำหนด ฝ่าฝืนมีโทษปรับ 20,000 บาท หรือจำคุก 6 เดือน ลูกจ้างอ

ครม. อนุมัติผ่อนผันแรงงานเมียนมา อยู่ในราชอาณาจักรชั่วคราว ทำงานต่อไปถึง 13 ก.พ.69

นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบเรื่อง การผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ซึ่งได้รับการขยายระยะเวลาการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568

รมช.พาณิชย์ สุชาติ หนุนซอฟต์พาวเวอร์ สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ของไทย ร่วมเปิดงาน “SPLASH – Soft Power Forum 2025” พร้อมเดินหน้ายกระดับผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดโลก

วันที่ 8 กรกฎาคม 2568 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วย นายวราวุฒิ สมหวังประเสริฐ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ นายสุรินทร สุนทรสนาน

ปลัดแรงงานสั่ง สปส. เร่งเยียวยา 16 ล้าน ครอบครัวเหยื่อไฟไหม้โรงงานสระบุรี

ปลัดกระทรวงแรงงานสั่งสำนักงานประกันสังคมเร่งดำเนินการช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจากเหตุเพลิงไหม้โรงงานแปรรูปกระดาษใน อ.หนองแค จ.สระบุรี เมื่อ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยจ่ายสิทธิประโยชน์รวมกว่า 16 ล้านบาท พร้อมจัดทีมลงพื้นที่เยี่ยมญาติ ประสาน สปส.ทุกจังหวัดดูแลสิทธิครบถ้วน