รายได้งาม! นายจ้างซาอุฯ ต้องการพยาบาล ผู้ช่วยพยาบาล และช่างฝีมือกว่า 300 อัตรา

1 มิ.ย.2565 - นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการขับเคลื่อนนโยบายการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในซาอุดีอาระเบียว่า จากรายงานของสำนักงานแรงงานในประเทศซาอุดีอาระเบีย กรุงริยาด พบว่า ล่าสุดนายจ้างในประเทศซาอุดีอาระเบียได้แจ้งความต้องการแรงงานไทยมาแล้วเบื้องต้น รวมทั้งสิ้น 309 อัตรา

นายสุชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และท่าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ได้มีนโยบายส่งเสริมการมีงานทำให้กับคนไทยทุกกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเร่งจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานประเทศซาอุดิอาระเบีย ซึ่งกระทรวงแรงงานได้ขานรับนโยบายดังกล่าว ซึ่ง

ล่าสุดนายจ้างได้แจ้งความต้องการแรงงานไทยผ่านทางสำนักงานแรงงานในประเทศซาอุดีอาระเบียแล้ว ส่วนใหญ่เป็นสาขาพยาบาลวิชาชีพ พี่เลี้ยงพยาบาล และผู้ช่วยพยาบาล สาขาละ 100 อัตรา รวม 300 อัตรา นอกจากนี้ ยังมีสาขาช่างอีก 9 อัตรา ได้แก่ ช่างเชื่อม 3 อัตรา ช่างควบคุม เครื่องกลึง 3 อัตรา ช่างไฟฟ้าอุตสาหกรรม 3 อัตรา โดยตำแหน่งดังกล่าว มีอัตราค่าจ้างสุทธิอยู่ที่ประมาณ 27,500 – 37,000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ โดยเมื่อไปทำงานในซาอุดีอาระเบียแล้ว นายจ้างจะจัดสวัสดิการอื่น ๆ ให้กับแรงงานไทย เช่น ค่าอาหาร ค่าที่พัก รถรับ - ส่งจากที่พักไปที่ทำงาน ค่าตั๋วการเดินทางไปกลับรายปีฟรี ประกันสุขภาพ ประกันการบาดเจ็บจากการทำงาน วันลาหยุด พักผ่อนประจำปี และสวัสดิการอื่น ๆ อีกมากมาย

ทั้งนี้ ท่านที่สนใจไปทำงานในประเทศซาอุดีอาระเบีย ขอให้ติดตามข่าวสารหรือประกาศรับสมัครตำแหน่งงานจากกรมการจัดหางานเป็นระยะ โดยในเบื้องต้นสามารถลงทะเบียนผ่านระบบ E-Service กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ ได้ที่เว็บไซต์ http://toea.doe.go.th เลือก “ลงทะเบียน” เลือก “คนหางาน” และสามารถศึกษาคู่มือวิธีการลงทะเบียนคนหางานได้ที่หน้าเว็บไซต์ และสามารถคิดตามข่าวสารได้ที่เว็บไซต์ www.doe.go.th/overseas. หรือติดต่อสำนักงานจัดหางานได้ทุกจังหวัด และสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 1-10 ในวันเวลาราชการ หรือที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน

“ท่านนายกรัฐมนตรีมีนโยบายสำคัญในการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในซาอุดีอาระเบียจึงกำชับให้กระบวนการจัดส่งเกิดจากความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ แรงงานได้รับค่าจ้างที่เหมาะสมเป็นธรรม ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ” นายสุชาติ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“รองนายกฯ สุชาติ” เป็นประธาน กก.สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เห็นชอบ EIA โครงการสำคัญ แก้ปัญหาอุทกภัย–เสริมบริหารจัดการน้ำ

นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 6/2568 เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2568 ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล

ทส. ร่วมติดตามความก้าวหน้าโครงการพัฒนาเกาะสีชัง ตามพระบรมราโชบาย จ.ชลบุรี มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ควบคู่การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

วันนี้ (17 ธันวาคม 2568) เวลา 09.00 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

รองนายกฯ สุชาติ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการมรดกโลก เดินหน้าผลักดันแหล่งวัฒนธรรมไทยสู่เวทีโลก

วันที่ 16 ธันวาคม 2568 เวลา 15.00 น. ณ ห้องประชุม 1001 ชั้น 10 สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อาคารทิปโก้ และผ่านระบบประชุมทางไกล นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี

ดร.บุณณดา โฆษกกระทรวงแรงงาน พร้อมคณะที่ปรึกษารัฐมนตรี ลงพื้นที่ติดตามงานศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนงาน ภาค 1 จ.ปทุมธานี พร้อมผลักดันยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ประกันตนทุพพลภาพ

เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2568 ดร.บุณณดา สุปิยพันธุ์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) พร้อมด้วยนายกานต์ กิตติอำพน คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (ด้านต่างประเทศ) ร่วมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม

รองนายกฯ “สุชาติ” สั่งการ กรมอุทยานฯ ผนึก DSI–กรมป่าไม้ ทลายโกดังไม้เถื่อนหนองคาย รวบ 4 ผู้ต้องหา ยึดไม้หวงห้ามกว่า 275 ลบ.ม.

เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2568 นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สั่งการให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช บูรณาการร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และกรมป่าไม้ เร่งปราบปรามขบวนการลักลอบตัดและค้าไม้ผิดกฎหมายอย่างเข้มข้น หลังพบพฤติการณ์เชื่อมโยงขบวนการค้าไม้ข้ามชาติ

รองนายกฯ สุชาติ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ สบอ.16 เชียงใหม่ รวมพลังบริจาคโลหิต หนุนทหารกล้าแนวหน้าชายแดนไทย-กัมพูชา

นายกริชสยาม คงสตรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่) ได้นำคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่า รวมจำนวน 100 นาย เข้าร่วมกิจกรรมบริจาคโลหิต ณ โรงพยาบาลสวนดอก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อส่งต่อชีวิต ความหวัง และกำลังใจให้แก่ “ทหารกล้าแนวหน้า” ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสี่ยงภัย