'บิ๊กแก้ว' ตรวจเยี่ยมทัพเรือฝึกประจำปีลั่นกองทัพพร้อมดูแลทุกสถานการณ์

พล.อ.เฉลิมพลตรวจเยี่ยมการฝึกกองทัพเรือประจำปี 2565 กับการฝึกปฏิบัติการร่วม ศรชล. เน้นย้ำช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมบรรเทาภัยพิบัติ –ฝึกขจัดมลพิษทางน้ำ วอนเชื่อมั่นเหล่าทัพพร้อมดูแลทุกสถานการณ์

16 มิ.ย.2565 - ที่จ.ระยอง พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) เดินทางมาตรวจเยี่ยมและสังเกตการณ์การบูรณาการร่วมระหว่างการฝึกกองทัพเรือประจำปี 2565 กับการฝึกปฏิบัติการร่วมศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ประจำปี 2565 โดยมี พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และ พล.ร.อ.ธีรกุล กาญจนะ รองผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะผู้อำนวยการการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2565 ให้การต้อนรับ

โดยเมื่อเวลา 09.30 น. ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารเรือ และผู้แทนส่วนราชการใน ศรชล. เดินทางมาด้วยเรือหลวงอ่างทอง หลังจากนั้นได้เยี่ยมชมการฝึกขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันในทะเล (Oil Spill) และการฝึกค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเล (Sea SAR) ร่วมกับหน่วยงานในศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล พร้อมทั้งตรวจเยี่ยมศูนย์บัญชาการในทะเล และโรงพยาบาลสนามบนเรือหลวงอ่างทอง

ต่อมาเวลา 11.45 น. ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารเรือ และคณะ เดินทางต่อไปยังเกาะเสม็ด จ.ระยองโดยเรือระบายพลขนาดกลาง เพื่อตรวจเยี่ยมการฝึกให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ ประกอบด้วย ชุดปฏิบัติการเคมี ชีวภาพและรังสี ที่ท่าเรืออ่าวกลาง ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์บนบก (ICC) ภายในสนามฟุตบอล อบจ. ระยอง สำหรับการฝึกในปีนี้ กองทัพเรือได้กำหนดจัดให้มีการฝึกปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ (HADR) และการฝึกขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันในทะเล (Oil Spill) ด้วยกำลังทางเรือตามแนวคิด From The Sea การค้นหา และช่วยชีวิตในพื้นที่การรบทางทะเล (Combat Sea SAR) โดยเป็นการบูรณาการความร่วมมือและการระดมสรรพกำลังจากหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ กองทัพเรือ กรมเจ้าท่า กรมประมง กรมศุลกากร กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กองบังคับการตำรวจน้ำ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ร่วมกับ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดระยอง บริษัทเอกชน หน่วยกู้ภัย และสมาคมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมของกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมัน

ทั้งนี้ปัจจุบัน ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลนับเป็นหน่วยงานหลักและเป็นกลไกสำคัญของรัฐบาลและรับผิดชอบการดำเนินการที่มีเอกภาพ สามารถบูรณาการการปฏิบัติงานในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลให้มีความมั่นคงและยั่งยืน ทั้งภายในและภายนอกราชอาณาจักร ในเขตทางทะเลที่มีลักษณะที่หลากหลาย และประเทศไทยมีอำนาจอธิปไตยหรือสิทธิอธิปไตย รวมทั้งสิทธิหน้าที่อื่นตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศที่ประเทศไทยมีพันธกรณีจะต้องปฏิบัติตาม เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลที่มีอยู่อย่างมากมายในด้านความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้านทรัพยากร ด้านสิ่งแวดล้อม และด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของชาติทางทะเล มีนายกรัฐมนตรี เป็นผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ผอ.ศรชล.) โดยปัจจุบันมีภารกิจหลักในการป้องกันภัย 9 ด้าน ประกอบด้วย 1.การช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล 2.การทำประมงผิดกฎหมาย 3.การค้ามนุษย์ การลักลอบเข้าเมือง 4.ยาเสพติด สินค้าผิดกฎหมาย อาวุธสงคราม 5.การทำลายสิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่ง 6.การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 7.โจรสลัด การปล้นเรือ 8.การก่อการร้าย 9.การขนส่งสินค้าสองวัตถุประสงค์

ทั้งนี้ พล.อ.เฉลิมพล กล่าวว่า เป็นการฝึกในเรื่องของความมั่นคง การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติ ถือเป็นความร่วมมือในการปฏิบัติของหน่วยพลเรือน และศรชล. ซึ่งเป็นหน่วยที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อรองรับภารกิจดังกล่าว ที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพเรือ รวมถึงหน่วยต่างๆที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมเจ้าท่า กรมประมง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รวมถึงภาคเอกชนต่างๆ เพราะฉะนั้นการดำเนินการเชื่อมต่อในส่วนของทางทะเลมาสู่ฝั่งจึงกำหนดให้มีการทบทวนการปฏิบัติ เพื่อช่วยเหลือเมื่อเกิดภัยพิบัติต่างๆ สิ่งสำคัญของการฝึกคือให้กำลังพลแต่ละภาคส่วนมาร่วมปฏิบัติเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น และความเข้าใจในการปฏิบัติงานร่วมกัน และสิ่งสำคัญคือการอำนวยการร่วม เช่น การจัดการจราจร การนำส่งรพ. การควบคุมพื้นที่ เพื่อให้เกิดการบูรณาการที่มีประสิทธิภาพ ขอชื่นชมทุกคนที่ร่วมใจปฏิบัติงาน และอยากให้ประชาชนเชื่อมั่นในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เมื่อเกิดภัยพิบัติว่ากองทัพเรือมีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้กองทัพเรือรวมถึงเหล่าทัพอื่นๆมีความพร้อมด้านยุทธการ นอกเหนือจากนั้นเราก็ติดตามสถานการณ์การปฏิบัติต่างๆและความเคลื่อนไหวต่างๆของภูมิภาค

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปภ. รายงานยังมีน้ำท่วมภาคใต้ 7 จังหวัด เร่งระบายน้ำพื้นที่น้ำท่วมขังและเยียวยาผู้ประสบภัย

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสรุปสถานการณ์ยังมีอุทกภัยภาคใต้ 7 จังหวัด ปภ. บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งฟื้นฟูทำความสะอาด กำจัดขยะ ในพื้นที่น้ำลดและเร่งระบายน้ำและเยียวยาผู้ประสบภัย

'อนุทิน' ยันยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟูหาดใหญ่ต่อ จ่อขนนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน

'อนุทิน' ยอมรับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ยัน ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟู-เยียวยาต่อ หยอด อำนาจอยู่ที่ มท.1แล้ว 'นายกฯ คงไม่ขัดอะไร' เผยขั้นตอนนำผู้ประสบภัยกลับบ้าน ทำไปแล้วกว่า 90% จ่อขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียนพรุ่งนี้

'รล.จักรีนฤเบศร-หน่วยซีล' จบภารกิจน้ำท่วมหาดใหญ่แล้ว!

'ผบ.ทร.' เผย 'รล.จักรีนฤเบศร-หน่วยซีล' จบภารกิจน้ำท่วมหาดใหญ่ เหลือ 'รล.อ่างทอง' ลำเลียงความช่วยเหลือ พร้อมเกาะติด ปริมาณฝนช่วง ธ.ค.

ปภ. รายงาน 8 จังหวัดภาคใต้ระดับน้ำลดลงต่อเนื่อง เร่งทำความสะอาดพื้นที่น้ำลดและระบายน้ำ

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสรุปสถานการณ์อุทกภัยภาคใต้ ยังมีน้ำท่วมใน 8 จังหวัด ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่องทุกพื้นที่ ปภ. บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งฟื้นฟูทำความสะอาด กำจัดขยะ ในพื้นที่น้ำลดและเร่งระบายน้ำในพื้นที่ที่ยังมีน้ำท่วมขัง เพื่อให้สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ

หาดใหญ่ระทม 'ดร.สนธิ' แนะหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรบริหารจัดการภัยพิบัติอย่างไร

ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิและนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า บริหารจัดการอย่างไร? ทำให้หาดใหญ่ระทม..

'ผบ.ทสส.' สั่ง ศป.กฉ.ส่วนหน้า 8 ข้อ เร่งฟื้นฟู 'หาดใหญ่'

'ผบ.ทสส.' สั่ง ศป.กฉ.ส่วนหน้า 8 ข้อ จัดระเบียบ ‘ศูนย์พักพิง-การแพทย์’ เร่งเปิดระบบ ‘ไฟฟ้า-ประปา’ แจกถุงยังชีพ-อาหาร มาตรการ รปภ. เก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิต ตั้งจุดรวบรวมขยะ 4 พื้นที่ ย้ายยานพาหนะกีดขวาง