
“กรมเจ้าท่า” ออกประกาศการควบคุมการเดินเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสักเป็นการเฉพาะชั่วคราว กำชับเรือขึ้น-ล่อง กระทบกับผู้ที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำ หลังกรมชลฯระบายน้ำเพิ่มขึ้นจากเขื่อนเจ้าพระยา
25 ต.ค. 2565 – รายงานข่าวจากกรมเจ้าท่า(จท.) ว่าได้ออกประกาศ เมื่อวัน ที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา เรื่อง การควบคุมการเดินเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสักเป็นการเฉพาะชั่วคราว (เพิ่มเติมครั้งที่ 2)เนื่องจาก กรมชลประทาน มีความจำเป็นที่จะต้องระบายน้ำเพิ่มขึ้นจากเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท และเขื่อนพระราม 2 อำเภอท่าเรือจ.พระนครศรีอยุธยา ติดต่อกันเป็นช่วงระยะเวลาต่อเนื่อง
ทั้งนี้จะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา จ,พระนครศรีอยุธยา และแม่น้ำป่าสัก
ตั้งแต่เขื่อนพระราม 6 มีปริมาณน้ำสูงขึ้นและล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่สองริมฝั่งแม่น้ำ ประกอบกับมีกระแสน้ำไหลเชี่ยวซึ่งอาจเป็นสาเหตุในการเกิดอุบัติเหตุทางน้ำได้ กรมเจ้าท่า จึงต้องเพิ่มมาตรการป้องกันอุบัติเหตุทางน้ำ และป้องกันมิให้คลื่น จากเรือลากจูงเรือลำเลียงสินค้า ขึ้น-ล่อง กระทบกับผู้ที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำ ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน
อย่างไรก็ตาม โดยให้ถือปฏิบัติ ดังนี้ 1.เรือ ขาขึ้น ในแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำป่าสักจ.พระนครศรีอยุธยา ให้ผู้ควบคุมเรือ งดการนำเรือผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา จากบริเวณวัดพนัญเชิงวรวิหาร อ.พระนครศรีอยุรยาจ.พระนครศรีอยุธยาจนถึง โรงงานน้ำตาลไทยรวมทุน อ.ป่าโมก จ.อ่างทองให้ผู้ควบคุมเรือ งดการนำเรือผ่านแม่น้ำป่าสัก จากบริเวณวัดพนัญเชิงวรวิหาร อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จนถึง พื้นที่ อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา
2.เรือ ขาล่อง ในแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำบำาสัก จ.พระนครศรีอยุธยา ให้เดินเรือด้วยความระมัดระวังสูงสุดการลากจูงเรือลำเลียงที่บรรทุกสินค้าในแม่น้ำปาสัก ต้องมีเรือดึงท้ายหรือโต่งท้าย ซึ่งมีกำลังของเครื่องจักรไม่น้อยกว่ากำลังของเครื่องจักรเรือลากจูง ในระยะ 500 เมตร หลังออกจากพื้นที่ อ.นครหลวง จนถึง สะพานอโยธยาอ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา รวมถึงต้องจัดให้มีคนประจำเรืออย่างน้อยหนึ่งคน ประจำอยู่ที่หัวเรือลำเลียงทุกสำการลากจูงเรือลำเลียงที่บรรทุกสินค้าในแม่น้ำเจ้าพระยา
ทั้งนี้ต้องมีเรือดึงท้ายหรือโต่งท้าย ซึ่งมีกำลังของเครื่องจักรไม่น้อยกว่ากำลังของเครื่องจักรเรือลากจูงในระยะ 500 เมตร หลังออกจากพื้นที่ที่กำหนด รวมถึงต้องจัดคนประจำเรืออย่างน้อยหนึ่งคนประจำอยู่ที่หัวเรือลำเลียงทุกลำ ช่วงโรงงานน้ำตาลไทยรวมทุน อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง จนถึง สะพานอโยธยาจ.พระนครศรีอยุธยาเรือลากถูง ที่ไม่ได้ทำการลากจูงเรือลำเลียง ให้เดินเรือโดยไม่ให้เกิดคลื่นน้ำกระทบกับผู้ที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำที่อาจสั่งผลกระทบจนเกิดความเสียหาย โดยให้ผู้ควบคุมเรือระงับ หรือยับยั้ง การเดินเรือดังกล่าวก่อนเกิดความเสียหาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แม่ค้าหมูสดแก้บนชุดใหญ่! หัวหมู 99 หัว-ไข่ 99 แผง หลัง 2 หมู่บ้านรอดน้ำท่วม
แม่ค้ารายใหญ่ตลาดแต้ อำเภอเมืองอ่างทอง นำหัวหมู–ไข่ไก่ พร้อมวงดนตรีเต็มวง มาถวายหลวงพ่อสิงห์ หลังบ้านและห้องเย็นมูลค่านับล้าน “รอดหวุดหวิด” จากน้ำเจ้าพระยา ก่อนเตรียมนำของแก้บนแจกชาวบ้านร่วมฉลองปลอดภัยไปด้วยกัน
'อรรถกร' สำรองสนามแข่งมวยสงขลา ป้องกระทบ 'ซีเกมส์' ธ.ค.
'อรรถกร' เผยเร่งอพยพนักท่องเที่ยวน้ำท่วมหาดใหญ่ พร้อมสำรองสนามแข่งมวยสงขลา ไม่ให้กระทบ 'ซีเกมส์' เดือนธ.ค.
คลองระบายน้ำหลากบางบาล-บางไทร ทางน้ำสายใหม่พลิกชีวิตริมน้ำชาวกรุงเก่า...ใกล้จริง!
พื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง โดยเฉพาะในเขตจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นอกจากจะมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ มีราชธานีเก่าของไทย มีวัดวาอาราม
นายกฯ ดันเมกะโปรเจกต์ คลองระบายน้ำ 'ป่าสัก-อ่าวไทย' เร่งอนุมัติก่อนยุบสภา
"อนุทิน" ลั่นไม่ใช้ประชาชนเป็นตัวประกัน เดินหน้าเข็นเมกะโปรเจกต์โครงการป่าสักอ่าวไทย ผันน้ำขนาดเจ้าพระยา ออกแก้น้ำท่วมซ้ำซาก เร่ง อนุมัติก่อนยุบสภา
ระทึก! น้ำเหนือจ่อเข้า กทม. เขื่อนภูมิพลใกล้ล้น รัฐจับตา 3 วันชี้ชะตา
สถานการณ์น้ำเหนือพุ่งต่อเนื่อง เขื่อนภูมิพลมีน้ำเกือบเต็มความจุ รัฐบาลเตรียมแผนระบายน้ำเพิ่มภายใน 2-3 วัน ส่งผลน้ำเหนือจ่อถึงเจ้าพระยา-ปริมณฑล ขณะนนทบุรี-ปทุมฯ เริ่มได้รับผลกระทบ จับตาไม่ให้ “ซ้ำรอยปี 54” ย้ำยังควบคุมได้แต่ต้องเฝ้าระวังใกล้ชิดทุกพื้นที่ริมแม่น้ำ
เจ้าพระยาล้นตลิ่ง! ท่วมหน้าจวนผู้ว่าฯชัยนาท ร้านอาหารริมน้ำอ่วม
สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดชัยนาทขยายวงกว้างมากขึ้น เนื่องจากปริมาณน้ำด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา มีปริมาณเพิ่มขึ้นเป็น 3,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

