ผบ.ทสส. นำเหล่าทัพ ยืนไว้อาลัยคารวะกำลังพลเสียชีวิต เรือหลวงสุโขทัยอับปาง

ผบ.ทสส. นำ เหล่าทัพ ยืนไว้อาลัย-คาราวะ กำลังพลเสียชีวิต เรือหลวงสุโขทัยอับปาง แสดงถึงความเข้มแข็ง สามัคคี รักษาเรือ เต็มกำลังความสามารถ ด้าน ผบ.ทร. เผยพบ 2 ร่างผู้สูญหาย ยังเหลือผู้ที่ยังไม่พบอีก 8 ร่าง เดินหน้าสอบสวน - กู้เรือ-กำจัดคราบน้ำมัน

27 ธ.ค.2565 - ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ. เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ โดยมีผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมประชุม จากนั้น พล.อ.เฉลิมพล กล่าวชื่นชม การปฏิบัติงานของกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย เนื่องจากสภาพที่เกิด สิ่งสำคัญคือการแสดงถึงกำลังพลในเรือหลวงสุโขทัยที่พยายามดูแลรักษายุทโธปกรณ์หลัก ที่มีความสำคัญอย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยเชื่อมั่นว่าอยู่ในขีดความสามารถที่จะแก้ไขอุบัติการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับเรือหลวงสุโขทัยได้ จนถึงเวลาสภาพลมฟ้าอากาศมีความรุนแรงต่อเนื่องจนเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุกับเรือ ตามที่ประชาชนและสื่อได้เห็นและได้รับทราบการดำเนินการของกำลังพลที่มีความเข้มแข็ง มีความสามารถที่พยายามช่วยเหลือคนอื่นๆอย่างเต็มกำลังความสามารถ บางส่วนก็ทำให้เกิดการสูญเสียกับกำลังพลซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว ไดเแก้ไขปัญหาและค้นหาผ฿สูญหายมาโดยตลอดปัจจุบันเหลืออีก 10 นายซึ่งเราก็จะดำเนินการต่อไป

"ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็เป็นความเสียใจอย่างที่สุดกับกองทัพเรือและครอบครัวของกำลังพลผู้สูญเสีย ขณะเดียวกันในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็นำมาซึ่งความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ความสมัครสมานสามัคคีของกำลังพลที่จะร่วมดำเนินการเพื่อให้เหตุการณ์ดังกล่าว คลี่คลาย และดูแลครอบครัวและการดำเนินการต่างๆของกองทัพเรือในต่อไป เราก็เตรียมสนับสนุนการดำเนินการต่างๆขอแสดงความคารวะกำลังพลของเรือหลวงสุโขทัย ที่ได้เสียชีวิตในการปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ นอกจากนี้ก่อนการประชุม ผบ.เหล่าทัพ ผมได้เชิญผู้เข้าร่วมประชุมได้ยืนไว้อาลัย กำลังพลเรือหลวงสุโขทัยที่เสียชีวิตด้วย”

ด้าน พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผบ.ทร. กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันนี้ตนในนามกองทัพเรือได้ขอบคุณผบสูงสุดผบ. ทบผบ. ทอและสตชที่ทุกหน่วยงานได้กรุณาสนับสนุนกองทัพเรือในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงส่งผู้แทนไปเยี่ยมครอบครัวกำลังพลที่บาดเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาลและการสนับสนุนเครื่องบินอากาศยานในการเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิต ไปประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ กองทัพเรือขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่มาร่วมในการดำเนินการครั้งนี้ และในวันนี้เราได้พบผู้สูญหายเพิ่มอีก 2 นาย ในเวลา 09.30น.และ เวลา 10.15 น. มีเรือประมงได้พบผู้สูญหาย ที่จังหวัดชุมพรก็ได้มีการส่งเรือไปรับร่างผู้เสียชีวิต พร้อมนำร่างผู้เสียชีวิตไปสู่อัตลักษณ์ต่อไป

อีกทั้งเฮลิคอปเตอร์ได้ตรวจพบร่างผู้เสียชีวิตสวมเครื่องแต่งกายลายพรางคาดว่าน่าจะเป็นผู้ศูนย์หานอีก 1 ราย วันนี้ก็กำลังลำเลียงร่างไปพิสูจน์อัตลักษณ์ต่อไป ขณะนี้มีผู้สูญหายที่ยังหาไม่พบอีก 8 นาย กองทัพเรือจะพยายามค้นหาต่อไปส่วนในวันพรุ่งนี้ (28 ธ.ค.)จะนำร่างผู้เสียชีวิตที่มีการพิสูจน์อัตลักษณ์แล้วจากประจวบคีรีขันธ์กลับสัตหีบ และจะมีการประกอบพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพสวดพระอภิธรรมต่อไป

เมื่อถามถึงการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรือหลวงสุโขทับอับปาง พล.ร.อ.เชิงชาย ระบุว่า คณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นมาสอบสวนเพื่อตรวจสอบหาเหตุว่าเรือสุโขทัยอับปางและจมลงในทะเลเนื่องจากน้ำเข้าเรือ จนกำลังพลไม่สามารถรักษาเรือไว้ได้ ในส่วนที่ 2 ตรวจสอบขั้นตอนการปฏิบัติภายหลังจากที่เรือจงไปแล้ว การปฏิบัติของกำลังพลของเรือหลวงสุโขทัยการช่วยเหลือต่างๆ และขั้นตอนการดำเนินการตั้งแต่เรือจมว่าปฏิบัติตามขั้นตอนถูกต้องหรือไม่ ซึ่งคิดว่าการสอบสวนได้เริ่มดำเนินการไปแล้วจะมีการสรุปผลและนำเรียนผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น

เมื่อถามถึงความคืบหน้าการกู้เรือ เนื่องจากมีคราบน้ำมันไหลออกมาว่ พล.ร.อ.เชิงชาย กล่าวว่า ในส่วนพื้นที่ที่เรือจมในวันดังกล่าวมีเรือจ่ม 3 ลำเรือสินค้า และ เรือหลวงสุโขทัย ทั้ง 3 พื้นที่มีการประกาศเป็นพื้นที่เป็นเขตภัยพิบัติ รอการสนับสนุนเพื่อไม่ให้ ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาในพื้นที่ดังกล่าว ในส่วนน้ำมันที่อยู่ในเรือในกรณีของเรือสุโขทัยคาดว่ามีน้ำมันอยู่จำนวนหนึ่ง รั่วไหลออกมา ก็ได้วางแผนเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและนำน้ำมันดังกล่าวขึ้นมา

ขณะที่ พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า กองทัพเรือยังคงดำเนินการ เร่งค้นหาและช่วยเหลือกำลังพล กรณีรล.สุโขทัยอับปางในพื้นที่ลาดตระเวนตามแผน ส่วนตามแนวชายฝั่ง ก็ยังคงมีการจัดชุดลาดตระเวนทางเท้าในบริเวณที่คาดว่าจะมีการพบผู้สูญหาย โดยเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ได้รับแจ้งจากเรือประมงที่ทำการประมงบริเวณเกาะสาก จังหวัดชุมพร ว่าพบร่างผู้เสียชีวิต อยู่ใน พื้นที่ดังกล่าว 1 ร่าง เรือตรวจการณ์ประมง 611 ได้เข้าทำการเก็บกู้ ซึ่งจากหลักฐานเบื้องต้นสามารถบ่งชี้ว่าเป็นกำลังพลกองทัพเรือ ต่อมาในเวลา 10.43 น. ได้มีการตรวจพบร่างผู้เสียชีวิตอีก 1 ร่าง โดยเรือตรวจการณ์ประมงที่ 619 ได้เข้าทำการเก็บกู้ ซึ่งมีหลักฐานบ่งชี้ว่าเป็นกำลังพลกองทัพเรือเช่นกัน โดยในขณะนี้ได้นำร่างทั้งสอง เข้าสู่กระบวนการของการพิสูจน์อัตลักษณ์เพื่อยืนยันตัวบุคคล รวมกับร่างที่พบวานนี้อีก 1 ร่าง ซึ่งหากสามารถยืนยันตัวบุคคลได้จะแจ้งให้ทราบในโอกาสแรก

สรุปการช่วยเหลือผู้ประสบภัย (วันที่ 27 ธันวาคม 2565) เวลา 11.30 น. ยอดกำลังพล 105 นาย รอดชีวิต จำนวน 76 นาย เสียชีวิตรวม 21 นาย ในจำนวนนี้สามารถระบุชื่อได้แล้ว 18 นาย และมีหลักฐานบ่งชี้ว่าเป็นกำลังพลกองทัพเรือและอยู่ในกระบวนการของการพิสูจน์อัตลักษณ์เพื่อยืนยันตัวบุคคล 3 นาย คงเหลือผู้สูญหายจำนวน 8 นาย

สำหรับรายชื่อกำลังพลที่เสียชีวิต ซึ่งสามารถเพื่อยืนยันตัวบุคคลได้แล้ว จำนวน 18 นาย ประกอบด้วย 1. ว่าที่เรือเอก สามารถ แก้วผลึก 2. พันจ่าเอก อัชชา แก้วสุพรรณ์ 3.พันจ่าเอก สมเกียรติ หมายชอบ 4.พันจ่าเอก อำนาจ พิมที 5. จ่าเอก จักร์พงศ์ พูลผล 6.จ่าเอก บุญเลิศ ทองทิพย์ 7.จ่าเอกชูชัย เชิดชิด 8. จ่าโท ธวัชชัย สาพิราช 9.จ่าตรี สถาพร สมเหนือ10.จ่าตรี นพณัฐ คำวงค์ 11.จ่าตรี ศุภกิจ ทิวาลัย 12. จ่าตรี ศราวุธ นาดี 13. พลทหาร อัครเดช โพธิ์บัติ 14. พลทหาร จิราวัฒน์ ธูปหอม 15. พลทหาร สิทธิพงษ์ หงส์ทอง 16. พลทหาร วรพงษ์ บุญละคร 17.พลทหาร ปรีชา รักษาภักดี 18. พลทหาร จำลอง แสนแก

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พบแล้ว ร่างลูกเรือประมงพลัดตกน้ำใกล้เกาะมุก ไต๋เรือนำศพกลับขึ้นฝั่งที่ภูเก็ต

น.อ.พิเชษฐ์ ซองตัน ผอ.กองสารนิเทศ และโฆษก ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 (ศรชล.ภาค3) เปิดเผยว่า วันนี้ เวลา 09.43 น. เจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้าออกภูเก็ตได้รับแจ้งจาก เรือ พิชัยสมุทร 9 ประเภท อวนลากคู่

เกาะหูยง อุทยานฯสิมิลัน แหล่งอนุรักษ์เต่าทะเล เผยสถิติเต่าวางไข่กว่า 1 หมื่นฟองต่อปี

กองทัพเรือ ได้จัดทำโครงการ อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลฝั่งอันดามัน โดยมอบให้ ทัพเรือภาคที่ 3 จัดตั้งศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล เมื่อปี 2538 ซึ่งกำหนดจุดอนุบาลเต่า ทะเลจำนวน 2 จุดพื้นที่แรกเป็นการอนุรักษ์เพราะฟักไข่เต่าในพื้นที่เกาะ

ผู้การเรือลาออก! กองทัพเรือสรุปผลสอบเรือหลวงสุโขทัยล่ม

ทร.สรุปเหตุสุดวิสัย รล.สุโขทัยล่ม ผู้การเรือฯ ลาออก แสดงความรับผิดชอบ ลูกน้องเสียชีวิต ยันไม่มีคำสั่งแทรกแซงการตัดสินใจ

ประดับตกแต่ง'ขบวนเรือพระราชพิธี' มรดกวัฒนธรรมล้ำค่า

ขบวนพยุหยาตราทางชลมารคเป็นมรดกศิลปวัฒนธรรมล้ำค่าของประเทศไทย กองทัพเรือได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้จัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคตามโบราณราชประเพณี เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 การพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน