
นายกฯ ขอความร่วมมือประชาชนร่วมแก้ไขปัญหา PM 2.5 ทั้งพื้นที่เมือง-เกษตร-ป่า กำชับตรวจจับรถควันดำทุกชนิด-งดเผาเพื่อเตรียมเพาะปลูก/หาของป่า ย้ำให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย
5 ก.พ. 2566 – นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบรายงานปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในทุกพื้นที่ของประเทศไทยขณะนี้ ซึ่งเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ ทั้งจากการเผาวัชพืชเพื่อเตรียมเพาะปลูกฤดูกาลใหม่ การก่อสร้าง การขนส่งคมนาคมและการจราจร และปัญหา PM 2.5 มักจะเกิดในช่วงที่อากาศปิด โดยนายกรัฐมนตรีได้กำชับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงคมนาคม กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน บูรณาการเร่งแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 อย่างเร่งด่วน พร้อมขอความร่วมมือมายังประชาชนทุกคนได้มีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 เพราะฝุ่น PM 2.5 ที่เกิดขึ้นมีผลต่อสุขภาพของคนทั้งประเทศ
นายอนุชา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำหลักการในการป้องกันและแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ใน 3 พื้นที่คือ 1. พื้นที่เมือง ที่มีแหล่งกำเนิดมาจากการจราจรและโรงงานอุตสาหกรรม ดังนั้น จึงขอความร่วมมือให้บำรุงรักษาเครื่องยนต์ทั้งในส่วนของภาครัฐและเอกชน ให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดตรวจวัดควันดำ และขยายพื้นที่ตรวจวัดควันดำเพื่อควบคุมตั้งแต่ต้นทาง ตรวจกำกับโรงงานอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มในการปล่อยมลพิษสูง ทั้งโรงงานที่ใช้หม้อน้ำ โรงงานที่ใช้ถ่านหิน โรงงานหลอมเหล็ก ฯลฯ ควบคุมสถานประกอบการ เช่น กิจการผสมซีเมนต์ กิจการหลอมโลหะ อู่พ่นสีรถยนต์ กิจกรรมผลิตธูป ฯลฯ 2. พื้นที่เกษตร ที่มีแหล่งกำเนิดฝุ่นละอองมาจากการเผาเศษวัสดุการเกษตร ดังนั้น จึงขอให้เกษตรกรหยุดเผาในพื้นที่การเกษตร 3. พื้นที่ป่า แหล่งกำเนิดฝุ่นละอองที่สำคัญมาจากไฟป่า ดังนั้น ทุกภาคส่วนต้องส่งเสริมเครือข่ายความร่วมมือในการควบคุมไฟป่า รณรงค์ป้องกันไฟป่า และบริหารจัดการเชื้อเพลิงด้วยวิธีชิงเก็บลดเผา
“นายกรัฐมนตรีย้ำขอความร่วมมือประชาชนได้ลดพฤติกรรมตนเองที่จะเป็นแหล่งกำเนิดฝุ่น PM 2.5 ให้งดการเผาเพื่อเตรียมเพาะปลูก หรือเผาป่าเพื่อการเข้าไปหาอาหาร ขอให้หยุดโดยเด็ดขาด รวมทั้งขอความร่วมมือให้ลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล โดยใช้รถขนส่งมวลชนสาธารณะให้มากขึ้น พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ตรวจจับรถควันดำทุกชนิดอย่างเข้มงวด ไม่ต่อใบอนุญาตรถที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย โดยขอให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานดำเนินการตามกฎหมาย เพราะฝุ่น PM 2.5 ที่เกิดขึ้นมีผลต่อสุขภาพของคนทั้งประเทศ ทั้งนี้ นายกฯ จะกำกับติดตามผลการดำเนินการ และให้มีการประเมินสถานการณ์เป็นระยะอย่างต่อเนื่อง” นายอนุชา กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ ปลื้ม ‘เด็กไทย’ คว้ารางวัลคณิตศาสตร์นานาชาติ
โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ ปลื้มความสามารถเด็กไทยรับ 8 รางวัลจาก CHAMPION 2023 ITMC และ 62 รางวัล GOLD AWARD แสดงความสามารถด้านคณิตศาสตร์ให้เป็นที่ประจักษ์ในเวทีนานาชาติ
นายกฯ ปลื้ม 'ภูเก็ต-อีสาน' ติดอันดับ 50 สถานที่ยอดเยี่ยมโลก
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
นายกฯ สั่งปกป้องคุ้มครองสิทธิ ทรัพย์สินทางปัญญาข้าวหอมมะลิไทย
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ทนๆ กันไปคุณภาพอากาศ 27 พื้นที่ในมือผู้ว่าฯ ชัชชาติอยู่ในเกณฑ์สีส้มกระทบต่อสุขภาพ
กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม กทม.รายงานคุณภาพอากาศ ชี้มี 27 พื้นที่มีค่าในเกินมาตรฐาน ข่าวดี 16 มี.ค.อากาศเปิดสถานการณ์ฝุ่นพิษจะดีขึ้น
เฮสนั่น! ครม. ไฟเขียวเพิ่มค่าตอบแทน กำนันผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ตำบล ฝ่ายปกครอง
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า คณะรัฐมนตรีเห็นชอบปรับเพิ่มอัตราเงินตอบแทนตำแหน่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน
สั่งทุกหน่วยบังคับใช้ กม.เข้มข้น แก้ฝุ่น PM2.5
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม