
30 มิ.ย. 2566 – นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชื่นชมความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ร่วมกันผลักดันการซื้อขายคาร์บอนเครดิตขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 4 จังหวัดนำร่อง เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ผ่านการคัดแยกขยะและจัดทำถังขยะเปียก ลดโลกร้อน สร้างทุนหมุนเวียนกลับคืนสู่ชุมชน สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio – Circular – Green Economy: BCG) ของรัฐบาล ในการสร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนที่เน้นการแปลงของเสียให้เป็นแหล่งรายได้ ซึ่งสอดคล้องตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับภาคี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาคเอกชนและภาคประชาสังคม ประกาศความสำเร็จการจัดการขยะอาหารจากครัวเรือน เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และบรรลุเป้าหมายประเทศไทยที่ยั่งยืน โดยกระทรวงมหาดไทยดำเนินโครงการถังขยะเปียก ลดโลกร้อน ในพื้นที่นำร่อง 4 จังหวัด ได้แก่ ลำพูน สมุทรสงคราม เลย และอำนาจเจริญ โดยองค์การบริหารก๊าซเรือนกระจก (อบก.) ได้รับรองคิดเป็นค่าคาร์บอนเครดิตร่วมกับหน่วยงานภายนอก สามารถแปลงเป็นเงินทุนกลับคืนสู่หมู่บ้าน/ชุมชนได้ในราคา 260 บาทต่อตัน ในเฟสแรก พร้อมเตรียมขยายแนวทางสู่ 22 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งจะทำให้สามารถจัดเก็บปริมาณคาร์บอนเครดิตรวม 26 จังหวัด ที่จัดเก็บได้มากกว่า 2 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ช่วยส่งเสริมการลดก๊าซเรือนกระจกในระดับครัวเรือน นำรายได้หมุนเวียนกลับสู่ชุมชน
“นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อม เน้นย้ำความร่วมมือ การจัดการร่วมกัน ของทุกภาคส่วนในการร่วมกันแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง เพราะผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมส่งถึงทุกคน ที่อาศัยอยู่ร่วมกันบนโลกใบนี้ โดยภาครัฐถือเป็นส่วนกลางในฐานะผู้นำในการขับเคลื่อนนโยบาย ขณะที่ปัจจัยส่งเสริมความสำเร็จต้องอาศัยการบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วน รวมถึงภาคประชาสังคม โดยนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าการซื้อ-ขายคาร์บอนเครดิตนี้ จะสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนลดก๊าซเรือนกระจกอย่างเป็นรูปธรรม สร้างสภาพแวดล้อมที่ดี และเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อน นำประเทศมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ” นายอนุชา ระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯยันแจกแน่ เงินดิจิทัลต้องเกิด เร่งด่วนอีกครึ่งปี!
นายกฯยันแจกแน่ เงินดิจิทัลต้องเกิด เร่งด่วนอีกครึ่งปี!
คิกออฟแก้‘หนี้’ ขู่ปิดเว็บปล่อยกู้ บี้หมวกกันน็อก
"เศรษฐา" ประกาศภารกิจยิ่งใหญ่แก้หนี้นอกระบบ ฝันสวยหรูช่วยกันทำให้การค้าทาสในยุคใหม่หมดไปจากประเทศไทย
ดันมวยไทยซอฟต์พาวเวอร์
“เศรษฐา” ฝันดันมวยไทยเป็นซอฟต์พาวเวอร์เบอร์ 1 บอกเป็นกิจกรรมที่มีชื่อไทยอยู่ด้วย 22 ธ.ค.
'เศรษฐา'ถกทีมงานกีฬา สั่งลุย'ซอฟท์เพาเวอร์มวยไทย' เต็มรูปแบบ
นายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน เปิดทำเนียบหารือคณะทำงานด้านกีฬา ที่นำโดย ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะทำงานฯ เดินหน้าซอฟท์เพาวเวอร์มวยไทย ที่เวลานี้ถือเป็นซอฟท์เพาเวอร์อันดับต้นๆของเมืองไทยอย่างเต็มรูปแบบ โดยเตรียมเปิดหลักสูตรครูมวย ซึ่งคนที่ผ่านอบรมหลักสูตรนี้จะได้ใบประกาศเป็นใบเบิกทางไปทำงานครูมวยที่ต่างแดนอย่างถูกต้อง พร้อมเล็งนำมวยไทยเข้าคลาสเรียนทั้งในไทยและต่างประเทศ
'พีระพันธุ์' แย้มข่าวดี! ตรึงค่าไฟ 3.99 บาท กลุ่มเปราะบาง
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและพลังงาน กล่าวถึงมาตรการช่วยเหลือประชาชนภายหลัง คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติปรับขึ้นค่าไฟฟ้างวด ม.ค. -เม.ย. 2567
'เศรษฐา' คิกออฟ! ล้างบางหนี้นอกระบบ เลิกค้าทาสยุคใหม่ คืนรอยยิ้มประชาชน
'เศรษฐา' ประกาศคิกออฟล้างบางหนี้นอกระบบ ร่วมแก้ปัญหาค้าทาสยุคใหม่ให้หมดประเทศ จี้กำหนดกรอบเวลาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด ต้องไม่มีการละเว้น