ไทยร่วมมือกับอาเซียน เสริมสร้างศักยภาพและโอกาส ดึงดูดการลงทุนในเศรษฐกิจสีเขียว มุ่งสู่ภูมิภาคของการผลิตที่ยั่งยืน
21 ก.ย.2566 - ในวันที่ 20 ก.ย. เวลา 13.15 น. (ตามเวลาท้องถิ่นนครนิวยอร์ก) ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเปิดกิจกรรมของอาเซียนด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน ในช่วงการประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยสามัญ ครั้งที่ 78 (UNGA78)
โดยภายหลังเสร็จสิ้นพิธีเปิด นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญดังนี้ นายเศรษฐารู้สึกยินดีที่ได้มากล่าวเปิดกิจกรรมของอาเซียนด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งไทยในฐานะประเทศผู้ประสานงานอาเซียนด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน เป็นเจ้าภาพร่วมกับ UNESCAP สำนักเลขาธิการอาเซียน และศูนย์อาเซียนด้านการศึกษาและการหารือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (ASEAN Centre for Sustainable Development Studies and Dialogue : ACSDSD) ได้จัดขึ้น เพื่อเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของทุกฝ่ายในการผลักดันการพัฒนาที่ยั่งยืนในอาเซียน
นายกฯ เน้นย้ำว่า การพัฒนาที่ยั่งยืนไม่ได้เป็นเพียงแค่เป้าหมายสำคัญของรัฐบาลไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นประเด็นที่สำคัญในระดับภูมิภาคที่จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อมและขับเคลื่อนสังคมโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดยประเทศไทยยืนยันที่จะรักษาบทบาทสำคัญในฐานะประเทศผู้ประสานงานอาเซียนด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่ออนาคตของภูมิภาคที่ยั่งยืนและสามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
นายกฯ มุ่งหวังที่จะยกระดับความร่วมมือของทุกประเทศ เพื่อจัดการปัญหาและความท้าทายต่าง ๆ ที่ได้เผชิญร่วมกันในช่วงครึ่งทางของการมุ่งไปสู่การบรรลุวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 ของสหประชาชาติ โดยอาเซียนเผชิญกับอุปสรรคทั้งเรื่องงบประมาณ ช่องว่างของเทคโนโลยี ความแตกต่างทางสังคม ซึ่งล้วนเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันทั้งในระดับภูมิภาคและกับประชาคมโลก เพื่อเปลี่ยนผ่านความท้าทายไปสู่โอกาสของภูมิภาคต่อไป
โดยนายกรัฐมนตรีนำเสนอแนวทางด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับบริบทของวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน ค.ศ. 2045 ดังนี้ ประการแรก ทุกฝ่ายควรมุ่งมั่นเสริมสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจควบคู่กับการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกันกับความพยามร่วมกันของประชาคมโลก เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก โดยอาเซียนต้องมี Roadmap เพื่อดำเนินการขับเคลื่อนแบบองค์รวมและไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งไทยยินดีร่วมมือกับอาเซียนขับเคลื่อนการจัดทำ ASEAN Green Agenda ให้เป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของภูมิภาคอย่างยั่งยืน
ประการที่สอง อาเซียนควรสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งเพื่ออุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไทยกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งพลังงานหมุนเวียนภายในประเทศ ตลอดจนดึงดูดการลงทุนจากอุตสาหกรรมสีเขียวเข้ามาในภูมิภาค โดยพร้อมทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงานในอาเซียนและพันธมิตรภายนอก เพื่อโครงการที่ส่งเสริมการเกษตรอัจฉริยะ เร่งการเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้พลังงานสะอาด มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน รวมไปถึงการส่งเสริมแนวคิดการเงินสีเขียว (Green Finance) เพื่อเพิ่มศักยภาพในการปรับตัวของอาเซียน และยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนในภูมิภาค
ประการที่สาม อาเซียนในฐานะภูมิภาคที่มีพลวัตของการเจริญเติบโตสูง จึงมีศักยภาพที่จะสามารถเป็นแหล่งด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่สำคัญต่อโลกผ่านการดึงดูดการลงทุนในเศรษฐกิจสีเขียว โดยตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ การเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของอาเซียน ซึ่งคาดว่าจะเติบโตมากกว่า 32% ภายในอีก 5 ปีข้างหน้า ดังนั้น อาเซียนซึ่งอุดมไปด้วยทรัพยากรและศักยภาพจึงสามารถเป็นศูนย์กลางของการผลิตที่ยั่งยืน และสามารถเป็นแหล่งเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืน (Sustainable Supply Chain) ของโลกได้
นายกฯ เน้นย้ำว่า ความสำเร็จของการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้นั้น ต้องอาศัยความร่วมมือทั้งระดับรัฐบาล ภาคคประชาสังคม นักวิชาการ และภาคธุรกิจ พร้อมเชิญชวนให้ทุกฝ่ายร่วมมือกับไทยและอาเซียน เพื่อมุ่งเป้าไปสู่การเปลี่ยนวิสัยทัศน์ของการพัฒนาที่ยั่งยืนไปสู่แนวทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นมรดกสำคัญที่ทุกคนจะสามารถทิ้งไว้ให้คนรุ่นหลังได้มีอนาคตที่ดีมากยิ่งขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ ชี้แก้รธน.ภารกิจใหญ่ ทุกฝ่ายต้องช่วยผลักดัน
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ทวิตข้อความผ่าน X ระบุว่า “10 ธันวาคม วันรัฐธรรมนูญของประเทศไทย รัฐบาลบริหารราชการแผ่นดิน
คิกออฟแก้‘หนี้’ ขู่ปิดเว็บปล่อยกู้ บี้หมวกกันน็อก
"เศรษฐา" ประกาศภารกิจยิ่งใหญ่แก้หนี้นอกระบบ ฝันสวยหรูช่วยกันทำให้การค้าทาสในยุคใหม่หมดไปจากประเทศไทย
ดันมวยไทยซอฟต์พาวเวอร์
“เศรษฐา” ฝันดันมวยไทยเป็นซอฟต์พาวเวอร์เบอร์ 1 บอกเป็นกิจกรรมที่มีชื่อไทยอยู่ด้วย 22 ธ.ค.
นายกฯ ปลื้ม จีนตั้งศูนย์วิจัยเทคโนโลยียานยนต์ แห่งที่ 4 ของโลกในไทย
นายกฯ ปลื้ม จีนตั้งศูนย์วิจัยเทคโนโลยียานยนต์จีน แห่งที่ 4 ของโลกในไทย แสดงถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย โดดเด่นในภูมิภาคพร้อมเป็นฐานการผลิตยานยนต์สำคัญ
ชวนนักท่องเที่ยวสัมผัสแสงสีริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตลอดเดือนธันวาคมนี้ในงาน 'VIJIT CHAO PHRAYA 2023'
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
'เศรษฐา' ร่ายยาวปลุกตลาดทุนไทย
'เศรษฐา' ปลุกดึงศักยภาพ เสริมแกร่งตลาดทุนไทยระยะยาว เดินหน้าตอบโจทย์ความท้าทาย ด้านดิจิทัล ชูโปรเจกต์ Thailand ESG Fund วาง 3 แนวทางสู่ดัชนีความยั่งยืน