ชาวไร่อ้อยกว่า 1.4 แสนราย ดีใจได้ของขวัญปีใหม่ ครม.อนุมัติเงินหนุนตัดอ้อยสด 8 พันล้าน

7 ธ.ค.2566 - นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ตามที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบเงินสนับสนุนตัดอ้อยสด ในโครงการสนับสนุนเกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดคุณภาพดีเพื่อลดฝุ่น pm 2.5 ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ โดยชาวไร่อ้อยจะได้รับเงินสนับสนุนตัดอ้อยสดตันละ 120 บาท คาดว่า มีชาวไร่อ้อยที่เข้าร่วมโครงการประมาณ 140,000 ราย ทั้งนี้ โครงการฯจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวไร่อ้อย และส่งผลต้นทุนการผลิตอ้อยปรับตัวสูงขึ้น 

จากการคาดการณ์ใน ปี 2567-2568 ถึงแม้อุตสาหกรรมอาหาร และเครื่องดื่มที่มีการใช้น้ำตาลในการเป็นวัตถุดิบในการผลิตจะขยายตัวเพิ่มขึ้น หากแต่เกษตรกรชาวไร่อ้อยที่เป็นวัตถุดิบในการผลิตน้ำตาล กลับต้องเผชิญกับปัญหาเรื่องต้นทุนการเพาะปลูกที่สูงขึ้นทั้งด้านพลังงาน ปุ๋ย ยาปราบศัตรูพืช และค่าจ้างแรงงานเก็บเกี่ยวโดยเฉพาะอ้อยสด ซึ่งส่งผลต่อรายได้สุทธิและการตัดสินใจเพาะปลูกของเกษตรกร

ทั้งนี้ น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.กระทรวงอุตสาหกรรม ได้เล็งเห็นปัญหาต่างๆและได้เร่งดำเนินการแก้ไขโดยเริ่มจากการเสนอโครงการสนับสนุนเกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดคุณภาพดี เพื่อลดฝุ่น pm 2.5 ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังประชุมได้ มีการอนุมัติโครงการดังกล่าว ทำให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยหนองบัวลำภูที่ทราบข่าวรวมตัวกันเดินทางมาที่รอพบรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มีกำหนดการมาดูงานที่โรงงานน้ำตาลเอราวัณ เมื่อ น.ส.พิมพ์ภัทรา และคณะได้เดินทางมาถึง นาย สมพร สังข์ศิริ ตัวแทนสมาชิกสมาคมชาวไร่อ้อยหนองบัวลำภู ได้ขอบคุณเป็นภาษาอีสาน ว่า “ผมขอเป็นตัวแทนเกษตรกรชาวไร่อ้อยหนองบัวลำภู และชาวไร่อ้อยไทย ที่ได้รับของขวัญปีใหม่ได้รับเงินสนับสนุนตัดอ้อยสดตันละ 120 บาท รวมๆแล้วได้เงินเป็นหมื่นที่สร้างรายได้ให้ครอบครับ และหวังว่าจะมีของขวัญแบบนี้ให้ทุกๆปี แล้วชาวเกษตรกรชาวไร่อ้อยก็มีของขวัญปีใหม่คือสัญญาที่จะทำการเก็บเกี่ยวเฉพาะอ้อยสดเท่านั้นมอบให้ ครม. ด้วยเช่นกัน”

จากการอนุมัติโครงการดังกล่าวส่งผลให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยที่เข้าร่วมโครงการ ประมาณ 140,000 ราย มีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 8,000 ล้านบาท อีกทั้งการที่เกษตรกรชาวไร่อ้อยเก็บเกี่ยวอ้อยสด นั้นมีผลดีหลายอย่าง เช่น จะทำให้อ้อยที่เก็บเกี่ยวมีปริมาณมากขึ้นเพราะไม่สูญเสียจากความร้อนของไฟที่เผาไหม้ หรือสารอาหารแร่ธาตุต่างๆในดินก็ไม่เสียหาย และที่สำคัญ ยังลดมลพิษ pm 2.5 ในอากาศ เมื่อไม่มีการเผาไหม้ก็เกิดผลดีทั้งเกษตรกรและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สะสางปัญหา กากแคดเมียม เดิมพันการเมืองครั้งสำคัญ พิมพ์ภัทรา-รมว.อุตสาหกรรม

ปัญหาการพบกากแร่อันตรายแคดเมียม ที่มีการขนย้ายมาจากจังหวัดตาก ซึ่งปัจจุบันมีการยึดอายัดได้ประมาณ 12,500 ตัน หลังพบที่สมุทรสาคร ชลบุรี และกรุงเทพฯ

'พิมพ์ภัทรา' ดึงดีเอสไอ-ปปง. ร่วมสอบปมกากแคดเมียม ชี้หากมีแต่คนใน ก.อุตฯ สังคมจะคาใจ

น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการลักลอบขนย้ายกากสารแคดเมียมที่ผิดกฎหมาย ว่า คำสั่งการการประชุมครม. ที่ผ่านมา เป็นการทำงานร่วมกันของทั้ง 6 กระทรวง

'พิมพ์ภัทรา' พร้อมรับทุกอย่างหากถูกปรับครม. ย้ำให้ถามหัวหน้าพรรครทสช.

น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.)มีการเคลื่อนไหวอะไรหรือไม่ ว่า เมื่อมีการกล่าวถึงเรื่องการจะปรับครม.ย่อมมีความหวั่นไหวเกิดขึ้นเป็นธรรมดา

อุตฯแจ้งแผนขนย้ายกากแคดเมียมฯวันนี้ เน้นย้ำความปลอดภัย

“พิมพ์ภัทรา” เผย คณะกรรมการขนย้ายกากแคดเมียมฯ เตรียมแจ้งแผนขนย้ายให้ อุตสาหกรรมจังหวัด 3 พื้นที่ สมุทรสาคร ตาก และชลบุรี 16 เมษายน นี้ พร้อมสั่งเข้มมาตรการขนย้ายให้ซ้อนถุง กันการรั่วไหลระหว่างขนส่ง

พิมพ์ภัทรา คุมเข้มมาตรการขนย้ายกากแคดเมียม ต้นทางถึงปลายทาง

รมว.อุตสาหกรรม” เข้ม มาตรการขนย้ายกากแคดเมียม และความแข็งแรงของบ่อฝังกลบ เร่งสร้างความมั่นใจและทำความเข้าใจชุมชนรอบโรงงาน จ.ตาก และเตรียมความพร้อมขนส่งให้ปลอดภัยตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง พร้อมรายงานการปรับปรุงทั้งระบบภายในวันที่ 16 เมษายน