"สมศักดิ์" เผย ศอ.บต. รับนโยบาย "นายกฯเศรษฐา" เดินหน้าเปิด"ศูนย์บูรณาการรวมใจช่วยเหลือฟื้นฟู อุทกภัยชายแดนใต้" เร่งลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนหลังน้ำลด พร้อมเยียวยาผู้เสียชีวิตแล้ว 14 ราย เป็นเงินกว่า 5 แสนบาท ช่วยซ่อมรถจักรยานยนต์ 205 คัน อุปกรณ์ไฟฟ้า 88 ชิ้น ยัน นายกฯห่วงใย ไม่เคยทอดทิ้ง สั่งการเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
5 ม.ค.2567 - นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นหน่วยงานกลางบูรณาการร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูเหตุอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ล่าสุด พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต. ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดแผนช่วยเหลือแล้ว โดยแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ระยะเร่งด่วน ระหว่างวันที่ 4 ม.ค.-18 ม.ค.นี้ ซึ่งจะมีการช่วยฟื้นฟูทำความสะอาดบ้านเรือนประชาชน สถานที่ราชการ ศาสนสถาน รวมถึงช่วยซ่อมแซ่มอุปกรณ์ไฟฟ้า รถจักรยานยนต์ด้วย โดยขณะนี้ ได้ช่วยซ่อมรถจักรยานยนต์แล้ว จำนวน 205 คัน อุปกรณ์ไฟฟ้า 88 ชิ้น เครื่องมือการเกษตร 12 ชิ้น และร่วมทำความสะอาดสถานที่เอกชน สถานที่ราชการแล้ว จำนวน 3 แห่ง
“นอกจากนี้ ยังได้มีการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัย ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2562 โดยจังหวัดนราธิวาส มีผู้เสียชีวิต จำนวน 14 ราย ซึ่งช่วยเหลือเยียวยาแล้ว จำนวน 10 ราย ทั้งค่าจัดการศพ และเงินสงเคราะห์ครอบครัว รวมเป็นเงินจำนวน 386,100 บาท จังหวัดยะลา มีผู้เสียชีวิต จำนวน 4 ราย ได้มีการช่วยเหลือเยียวยาแล้ว จำนวน 4 ราย รวมเป็นเงิน 118,800 บาท ส่วนจังหวัดปัตตานี มีผู้เสียชีวิต จำนวน 3 ราย แต่ยังไม่ได้ช่วยเหลือ เนื่องจากอยู่ระหว่างการรวบรวมเอกสารของผู้ประสบภัย ส่วนสถานการณ์ขณะนี้ ได้คลี่คลายในทุกพื้นที่แล้ว ซึ่งจากการสำรวจ พบว่า มีผู้ประสบภัย จำนวน 466,135 คน 121,582 ครัวเรือน โดยก็จะมีการเร่งช่วยเหลือ เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติให้เร็วที่สุด เพราะท่านนายกฯ ได้มีความห่วงใย และสั่งการเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลา” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนในระยะกลางและระยะยาว ตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.นี้ จะมีการจัดตั้งศูนย์บูรณาการรวมใจช่วยเหลือฟื้นฟูเหตุอุทกภัยชายแดนใต้ เพื่อประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการติดตามการช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประสบภัย ทั้ง ที่อยู่อาศัย อุปกรณ์ไฟฟ้า โครงสร้างพื้นฐาน และการส่งเสริมอาชีพ โดยมีตน เป็นประธานที่ปรึกษา และมี เลขาธิการ ศอ.บต. เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ ซึ่งจะให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดทำแผนการช่วยเหลือส่งให้กับอำเภอ เพื่อนำเสนอต่อจังหวัด โดยทางจังหวัด ก็จะให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น จากเงินยืมทดรองราชการ ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2562 และงบประมาณ ปี 2567 ของส่วนราชการในระดับจังหวัด ซึ่งหากมีความจำเป็นต้องขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติม ก็ให้รวบรวมเสนอไปยัง ศอ.บต. เพื่อพิจารณาให้การสนับสนุน แต่หากเกินขีดความสามารถของ ศอ.บต. ก็ให้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘สมศักดิ์-อนุชา’ ลุยอยุธยา รับฟังชาวนา เจอปัญหาข้าวดีด-ต้นทุนพุ่ง
“สมศักดิ์-อนุชา” พาผู้สมัคร “จิรทัศ” ลงพื้นที่อยุธยา รับฟังปัญหาเกษตรกร เจอปัญหา”ข้าวดีด”หลังห้ามเผาฟาง ทำต้นทุนผลิตสูง ไร่ละ 6,000 บาท ชาวนาหวังช่วยการันตีข้าวดิบตันละ 8,000 บาท แนะ แก้ปัญหายั่งยืน ทำกฎหมายข้าว คิดต้นทุนใหม่-ให้กำไรเกษตรกร 30% ขอเชื่อมั่น เพื่อไทย ทำได้อย่างแน่นอน
หาดใหญ่ระทึก! ปภ. เตือนฝนถล่มซ้ำ ระวังน้ำท่วม ขยะยังค้างเต็มเมือง
บรรยากาศกลางเมืองหาดใหญ่เริ่มมีชีวิตชีวา แต่ยังคงมีความกังวลปกคลุม หลังหลายหน่วยงานเร่งเคลียร์ขยะน้ำท่วมค้างเมือง ขณะที่ ปภ. ออกประกาศด่วนเตือนฝนตกหนักระลอกใหม่ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและดินโคลนถล่ม
รู้แล้วฝีมือใคร! จุดเริ่มต้นดรามา 'ซีเกมส์ 2025'
รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า วิพากษ์วิจารณ์กันจนเป็นดรามา คือเรื่องพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 33 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ
ดุสิตโพลชี้ประชาชนมองภาพการเมืองไทยแย่ลง
“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “การเมืองไทยในปี 2568” กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,194 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 9-12 ธันวาคม 2568 พบว่า กลุ่มตัวอย่างมองภาพรวมการเมืองไทยตลอดปี 2568 แย่ลง
เทศบาลเมืองคอน ขึ้นธงเหลือง เตือนประชาชนเฝ้าระวังน้ำท่วม
เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ภายใต้การนำของ ดร.กณพ เกตุชาติ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช ได้ดำเนินการติดตั้งป้ายและปักธงสัญลักษณ์แจ้งเตือนภัยบริเวณสะพานข้ามคลองในเขตเทศบาล เพื่อให้ประชาชนรับทราบสถานการณ์และเตรียมพร้อมป้องกันน้ำท่วมและน้ำล้นตลิ่ง

