ผบ.ทบ. ลงพื้นที่ชายแดนไทย- เมียนมา ติดตามสถานการณ์ กำชับกำลังพลให้รอบคอบ -ไม่ประมาท และต้องไม่มีการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับผลประโยชน์ในพื้นที่เด็ดขาด
26 เม.ย.2567 - พลเอก เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก/ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก เดินทางไปติดตามสถานการณ์ชายแดนไทยและเมียนมา ในพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจราชมนู กองกำลังนเรศวร โดยคณะได้รับฟังบรรยายสรุปการปฏิบัติภารกิจของหน่วย และสถานการณ์ตามแนวชายแดนเมียนมาในห้วงที่ผ่านมา ซึ่งมีการสู้รบระหว่างทหารเมียนมาและกลุ่มต่อต้านในพื้นที่ใกล้เคียงสะพานมิตรภาพฯ แห่งที่2ตั้งแต่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา จนทำให้ประชาชนชาวเมียนมาหนีภัยเข้ามายังฝั่งไทยกว่า3,000 คน ซึ่งกองกำลังนเศวรโดยหน่วยเฉพาะกิจราชมนู ได้ร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่ ให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมพื้นฐาน โดยได้จัดพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว เพื่อรองรับผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) ซึ่งปัจจุบันหลังจากสถานการณ์การสู้รบได้คลี่คลาย ประชาชนชาวเมียนมาส่วนใหญ่ได้เดินทางกลับประเทศแล้ว คงเหลืออยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว อ.อุ้มผาง จ.ตาก เพียง 77คน (ข้อมูล ณ 25เม.ย.67)
สำหรับในด้านของการดูแลประชาชนชาวไทยในพื้นที่ หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ได้เพิ่มมาตรการเฝ้าตรวจชายแดน และจัดกำลังลาดตระเวนตลอด ๒๔ ชม. รวมทั้งได้รับการสนับสนุนกำลังพลเพิ่มเติมจากกองทัพภาคที่ 3ร่วมเสริมกำลัง ตลอดจนประสานกับส่วนราชการจัดเตรียมพื้นที่รองรับประชาชนชาวไทยเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินไว้ 3แห่ง ได้แก่ สนามกีฬา 5อำเภอชายแดน, ม.ราชภัฎกำแพงเพชร (สาขาแม่สอด) และโรงเรียนแม่ตาว ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด
จากนั้นผู้บัญชาการทหารบกและคณะ ได้เดินทางไปยังจุดตรวจการณ์ม่วงมี บ.วังตะเคียนใต้ ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด ซึ่งเป็นจุดตรวจการณ์สำคัญของกองกำลังนเรศวร โดยคณะผู้บัญชาการทหารบกได้รับฟังบรรยายสรุป และร่วมตรวจภูมิประเทศตามแนวชายแดน ก่อนเดินทางไปยังกองบังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35ซึ่งเป็นหน่วยขึ้นควบคุมทางยุทธการของกองกำลังนเรศวร เพื่อพบปะให้กำลังใจกำลังพล
โดยผู้บัญชาการทหารบกได้กล่าวในระหว่างการตรวจเยี่ยมกำลังพลว่า ขอให้ใช้ศักยภาพที่มีอยู่ของหน่วยอย่างเต็มที่ หากต้องการรับการสนับสนุนเพิ่มเติม ทางหน่วยสามารถประสานมายังศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบกได้ในทันที และขอขอบคุณกำลังพลทุกนายที่มุ่งมั่น ทุ่มเท ปฏิบัติหน้าที่อย่างต่อเนื่องแม้ในช่วงวันหยุด พร้อมทั้งเน้นย้ำให้กำลังพลปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรอบคอบ ไม่ประมาท และต้องไม่มีการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับผลประโยชน์ในพื้นที่โดยเด็ดขาด นอกจากนี้ขอให้กองกำลังนเรศวรได้วิเคราะห์และติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมแผนให้มีความพร้อมในทุกมิติ ตลอดจนบูรณาการร่วมทุกส่วนในการจัดระเบียบพื้นที่ชายแดน เพื่อปกป้องรักษาอธิปไตยของชาติ และดูแลความปลอดภัยของประชาชนอย่างเต็มขีดความสามารถ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หน่วยงาน-จิตอาสา บริการตัดผมฟรีให้แก่ผู้อพยพชายแดน
ส่วนราชการ อาสาสมัครภาคประชาชน และจิตอาสา ให้บริการตัดผมชาย-หญิงฟรี แก่ประชาชนผู้อพยพหนีภัยสู้รบ และเจ้าหน้าที่ ยังศูนย์พักพิงชั่วคราว จ.บุรีรัมย์ เพื่อสร้างรอยยิ้ม ความประทับใจ และผ่อนคลายความตึงเครียดจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
ครอบครัว 'จ่าเริง' ทหารกล้า ทำใจแล้วนำร่างกลับยาก ติดบนเนิน 350 นาน 4 วันแล้ว
แม่และพี่สาวจ่าเริง นักรบพลีชีพรับสภาพได้แล้วว่าการนำร่างกลับมายากลำบากเพราะอยู่ในสนามรบ ระบุจ่าเริงคงอยากให้ทางบ้านทำใจได้ก่อนจึงจะกลับมา ตอนนี้ภูมิใจที่คนทั้งประเทศแห่ให้กำลังใจ ร่างจะมาตอนไหนขึ้นอยู่กับโอกาส เห็นใจเจ้าหน้าที่ต้องทำงานหนัก
เสียงปืนเขมรเบาลงครั้งแรกในช่วง 12 วันสู้รบ พบลูกจรวดเกลื่อนไร่ยางพารา
เสียงปืนฝั่งเขมรหยุดลงครั้งแรกในรอบ 12 วัน จนท.เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ พบลูกจรวดปืนใหญ่ตกใส่ไร่ยางพาราเป็นจำนวนมาก มีทั้งแตกและไม่แตก ระบุเขมรหันกระบอกปืนมาทางพลเรือนของไทย
ผู้อพยพบุรีรัมย์คิดถึงบ้าน วอนยุติสงคราม ชี้เจรจาไม่จบก็ให้รบให้รู้แพ้ชนะ
ชาวบ้านแนวชายแดนอพยพหนีการสู้รบมาอยู่ศูนย์พักพิงเกือบ 10 วัน อยากกลับบ้านโดยเร็ว ขอรัฐตัดสินใจแก้ปัญหาไทย-กัมพูชาให้ชัด ยายสวดภาวนาขอทหารไทยปลอดภัยกลับครอบครัว พร้อมเสียงสะท้อนไม่อยากเห็นสงครามยืดเยื้อถึงรุ่นลูกหลาน
‘แม่ทัพกุ้ง’ ภูมิใจทหารยึดพื้นที่คืนหลายจุด ลั่นศึกทวงคืนแผ่นดิน รอได้ขอให้จบ
พลโทบุญสิน พาดกลาง อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่ศูนย์อพยพ จ.สุรินทร์ ให้กำลังใจประชาชน ย้ำการสู้รบคือการรักษาศักดิ์ศรีประเทศ ไม่ใช่การรุกรานใคร เผยภูมิใจทหาร
ทบ.ประณามกัมพูชา ยิงจรวด BM-21 ตกพื้นที่พลเรือน กันทรลักษ์ เจ็บ 4
กองทัพบก ประณามทหารกัมพูชาใช้อาวุธจรวด BM-21 ยิงตกในพื้นที่พลเรือน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ขณะประชาชนวิ่งเข้าหลบภัย ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 4 ราย สา

