ผบ.เหล่าทัพ ถกใช้ยูเอวี พัฒนายูเอเอสสนับสนุนงานรัฐบาล ดูแลมั่นคงทุกมิติ

29 เม.ย.2567-ที่หอประชุมกองทัพเรือ กองบัญชาการกองทัพเรือ (บก.ทร.) ได้จัดการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 3 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567  โดยมี พล.อ.ทรงวิทย์  หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) เป็นประธาน พร้อมด้วย ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมประชุม

โดยผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้กล่าวขอบคุณเหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ได้ร่วมปฏิบัติภารกิจในการสนับสนุนรัฐบาลเป็นอย่างดีตลอดจนร่วมกันดูแลงานด้านความมั่นคงในทุกมิติ ซึ่งวันนี้ที่ประชุมฯ ได้รับทราบแนวทางการพัฒนาศักยภาพของอากาศยานไร้คนขับ และระบบต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ เพื่อใช้ในการพัฒนาขีดความสามารถของกองทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อันจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ และประชาชน โดยมีสาระสำคัญดังนี้

กองบัญชาการกองทัพไทย บูรณาการการใช้ระบบอากาศยานไร้คนขับ (Unmanned Aircraft System: UAS) และระบบต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ (Counter-Unmanned Aircraft System: CUAS) ของกองทัพไทย ให้มีขีดความสามารถในการสนับสนุนงานด้านการทหารและด้านความมั่นคง สามารถรับมือภัยคุกคามซึ่งมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยให้ความสำคัญกับการเตรียมกำลัง อาทิ การจัดทำหลักนิยม การฝึกอบรมกำลังพล การปรับปรุงโครงสร้างการจัดหน่วย และการเสริมสร้างยุทโธปกรณ์

สำหรับการใช้กำลัง ในระยะสั้น กองบัญชาการกองทัพไทย ได้มอบให้ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล รับผิดชอบภารกิจต่อต้าน UAS โดยมุ่งเน้นรองรับการก่อเหตุที่มาจาก UAS ที่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงภายใน รวมถึงพัฒนาขีดความสามารถการใช้ UAS เชิงรุก ในระยะยาว มุ่งเน้นการบูรณาการการป้องกันภัยทางอากาศในภาพรวมของกองทัพไทย ให้มีขีดความสามารถในการต่อต้าน UAS ทางทหารที่มีขนาดใหญ่ รวมถึงอาวุธยิงระยะไกล โดยจะประสานความร่วมมือกับเหล่าทัพ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดการบูรณาการอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

กองทัพบก พัฒนาอากาศยานไร้คนขับ และระบบต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ เพื่อใช้ในการปฏิบัติภารกิจทั้งการป้องกันประเทศ การปฏิบัติการทางทหารนอกเหนือจากสงคราม และการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาความมั่นคงตามนโยบายรัฐบาล โดยนำมาใช้ในการลาดตระเวน/เฝ้าตรวจ การระวังป้องกัน และรักษาความปลอดภัย การค้นหาเป้าหมายและการปรับการยิงอาวุธสนับสนุน ตลอดจนการควบคุมและอำนวยการยุทธ์ในสถานการณ์ต่าง ๆ โดยมุ่งเน้นการปรับปรุงโครงสร้างกำลังของกองทัพ และเสริมสร้างขีดความสามารถของกำลังทางบกให้มีความทันสมัย และเชื่อมโยงกับระบบปฏิบัติการร่วมของกองทัพไทย เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างเป็นระบบ มุ่งสู่การปฏิบัติการร่วมของกองทัพไทยที่มีประสิทธิภาพต่อไป

กองทัพเรือ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดหาระบบอากาศยานไร้คนขับประจำฐานบินชายฝั่งแบบ Hermes-900 จำนวน 2 ระบบ (อากาศยาน จำนวน 7 เครื่อง) โดยได้จัดทำร่างแนวทางบริหารจัดการระบบอากาศยานไร้คนขับ พ.ศ. 2566 เพื่อใช้เป็นแนวทางบริหารจัดการระบบอากาศยานไร้คนขับของกองทัพเรือ ซึ่งครอบคลุมในด้านยุทธการและการฝึก การกำลังพล การส่งกำลังบำรุงและโครงสร้างพื้นฐาน การสื่อสารและควบคุมบังคับบัญชา การวิจัยและพัฒนาเพื่อให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์กองทัพเรือ พ.ศ. 2560-2580 ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมงานวิจัยและพัฒนานำมาสู่การใช้งานทางยุทธการอย่างแท้จริง

ส่วนกองทัพอากาศ นำเสนอสถานภาพกำลังรบด้านระบบอากาศยานไร้คนขับ ระบบต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ และแนวทางการพัฒนาเพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการปฏิบัติภารกิจของกองทัพอากาศ โดยได้ตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาระบบอากาศยานไร้คนขับมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งอากาศยานไร้คนขับที่ประจำการในกองทัพอากาศ ประกอบด้วย การจัดหาระบบอากาศยานไร้คนขับที่ทันสมัยจากต่างประเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของกำลังทางอากาศ และจากการวิจัยเพื่อสร้างองค์ความรู้จนนำไปสู่การผลิตระบบอากาศยานไร้คนขับที่มีมาตรฐาน สามารถนำมาใช้งานในกองทัพอากาศได้

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำระบบอากาศยานไร้คนขับ และระบบต่อต้านอากาศยานไร้คนขับมาใช้ในภารกิจด้านการถวายความปลอดภัยทางอากาศ งานสืบสวนและความมั่นคง งานป้องกันปราบปราม งานจราจร งานสอบสวน งานบรรเทาสาธารณภัย และงานอำนวยการ โดยปัจจุบันขีดความสามารถของระบบต่อต้านอากาศยานซึ่งไม่มีนักบินประเภทควบคุมการบินจากภายนอก (Anti Drone) ประกอบด้วย ระบบตรวจจับ (Drone Detection System) และระบบต่อต้านอากาศยานซึ่งไม่มีนักบินฯ (โดรน) แบบรอบทิศทาง แบบกำหนดทิศทาง และแบบพกพา โดยมีแนวทางการพัฒนาในอนาคตด้วยการจัดหาอุปกรณ์ระบบตรวจจับ (Drone Detection System) ที่สามารถตรวจจับอากาศยานไร้คนขับได้ครอบคลุมทุกยี่ห้อ ตรวจจับสัญญาณโดรนได้ทุกระดับความสูง สามารถแสดงพิกัดของรีโมทที่ใช้บังคับอากาศยานได้ และมีจำนวนเพียงพอ เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่สำคัญที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ  

ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้เน้นย้ำให้เหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงกลาโหม ด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจ ทุ่มเท และเสียสละ เพื่อประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชน ดำรงการสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจการรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดน ปกป้องอธิปไตยของชาติ ดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ รวมทั้งดำเนินการจัดหายุทโธปกรณ์สนับสนุนการปฏิบัติให้มีประสิทธิภาพ ภายใต้งบประมาณที่มี ตลอดจนพัฒนากำลังพลให้มีความรู้ความสามารถ เพื่อรองรับภัยคุกคามในทุกรูปแบบ ร่วมกับการสร้างองค์ความรู้ในเรื่องการใช้ชีวิต การสร้างทัศนคติที่ดีในการปฏิบัติงาน เพื่อให้สามารถนำไปเป็นแนวทางการปฏิบัติภายใต้สถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

3 สมาคมใหญ่ตำรวจ นัด 16 พ.ค. แถลงปฎิรูป ตร. กู้วิกฤติศรัทธาสีกากี

สมาคมตำรวจ พร้อมด้วยสมาคมโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และชมรมพนักงานสอบสวน จะแถลงข่าวการปฏิรูปตำรวจ ในวันที่ 16 พ.ค.2567 เวลา 11.00 น.ห้องสารสิน ชั้น 2 อาคาร 1 ตร.

สืบนครบาล แนะแนวทางเมื่อเราได้รับหมายเรียกควรทำอย่างไร ก่อนโดนหลอก

หากท่านตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นหมายเรียกจริง แต่ไม่ยอมไปพบพนักงานสอบสวนตามวันและเวลาที่กำหนด กรณีเป็นหมายเรียกพยานอาจมีความผิดที่ไม่มาตามหมายเรียก

ตร.สนธิกำลังฝ่ายปกครอง จับยาเสพติดรายใหญ่ ยึดไอซ์ได้ 1 ตัน

แถลงข่าวการจับกุมยาไอซ์ 1 ตัน พร้อมผู้ต้องหา ได้ที่บริเวณริมถนนซอยโยธาธิการ ข้าง รร.จปร. หมู่ที่ 1 ต.พรหมณี อ.เมือง จ.นครนายก ซึ่งเป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างฝ่ายปกครอง และฝ่ายตำรวจ

สาวปั๊มใจเด็ดขับรถไล่ล่า หนุ่มเบี้ยวค่าน้ำมัน 500 ซิ่งหนี 3 จังหวัด

ศูนย์รับแจ้งเหตุ191 จังหวัดเพชรบุรี ได้รับแจ้งจาก น.ส.กันตนา พึ่งโพทอง แคชเชียร์ของปั๊มแห่งหนึ่ง ในพื้นที่แม่กลอง จังหวัดสมุทรสงคราม ว่

ไฟไหม้โรงงานยางพาราขนาดใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช จนท.เร่งควบคุมเพลิง

6 พ.ค.2567-เกิดเหตุในโรงงานยางพารายูนิรับเบอร์ ต.ถ้ำใหญ่ อ.ทุ่งสง นครศรีธรรมราช ไฟไหม้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจาก อปท.ในพื้นที่ ไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ ต้องระดมรถดับเพลิงจากใกล้เคียงรวมทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัย เข้าพยายามให้การช่วยเหลือเข้าดับเพลิงอย่างเร่งด่วน ขณะที่ พ.ต.อ.ธีระวุฒิ เทพเลื่อน ผกก.สภ.ทุ่งสง นครศรีธรรมราช นำกำลัง ตำรวจเข้าตรวจสอบและอำนวยการในการบรรเทาคลี่คลายสถานการณ์ที่เกิดเหตุพบว่าเป็นอาคารอบยางพาราด้วยความร้อนมีอยู่ด้วยกัน 4 ห้อง มีรายงานว่า มียางพาราอยู่ภายในหลายสิบตัน ห้องแรกถูกเพลิงไม้อย่างรุนแรงและกำลังลุกลามไปยังห้องถัดไป ซึ่งต้องระดมรถดับเพลิงจากใกล้เคียงเข้าเสริมเนื่องจากรถไม่เพียงและน้ำไม่เพียงพอ เจ้าหน้าที่ต้องประสานกับแหล่งน้ำจากบริษัทผาทอง อยู่ใกล้เคียงเป็นแหล่งน้ำเติมสำหรับการดับเพลิงครั้งนี้