โฆษกรัฐบาลเผยไทย-ภูฏาน เดินหน้าเจรจาการค้าเสรี แลกเปลี่ยนสิทธิประโยชน์การค้าการลงทุนระหว่างกัน ดันมูลค่าการค้าสู่เป้าหมาย 120 ล้านดอลลาร์ ภายปี 2568
22 พ.ค.2567 - นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มุ่งมั่นผลักดันการเปิดเสรีทางการค้ากับนานาประเทศ สร้างโอกาสและแต้มต่อในกับผู้ประกอบการไทย ในการขยายการลงทุนไปต่างประเทศ โดยล่าสุดได้มีการขยายผลเปิดการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) ระหว่างไทยกับภูฏาน เพิ่มพันธมิตรทางการค้า ลดอุปสรรคระหว่างกัน ส่งเสริมความร่วมมือในหลากหลายมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน การท่องเที่ยว การพัฒนาศักยภาพด้านการเกษตร พร้อมตั้งเป้าหมายมูลค่าการค้าระหว่างกันที่ 120 ล้านดอลลาร์ ภายในปี 2568
โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า วันที่ 16 พฤษภาคม 2567 รัฐบาลไทย โดยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมหารือกับนายเชริง ท็อปเกย์ (Tshering Tobgay) นายกรัฐมนตรีภูฏาน เพื่อบรรลุข้อตกลง พร้อมร่วมลงนามในเอกสารขอบเขตสำหรับการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-ภูฏาน เพื่อเปิดการเจรจาการค้าเสรีระหว่างทั้งสองประเทศอย่างเป็นทางการ เดินหน้าอำนวยความสะดวกทางการค้า ขยายโอกาส โดยเฉพาะสินค้าเกษตร ที่ทางฝ่ายภูฏานมีความประสงค์จะส่งออกสินค้าเกษตรมายังประเทศไทย ได้แก่ แอปเปิ้ล มันฝรั่ง ส้ม และน้ำผึ้ง เป็นต้น โดยไทยยินดีถ่ายทอดความรู้ ด้านพัฒนาสินค้าและการตรวจสอบมาตรฐานสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช พร้อมทั้งช่วยสนับสนุนการจำหน่ายสินค้าเกษตรภูฏานในร้านค้าของไทย
ในขณะที่ฝ่ายไทยมีสินค้าส่งออกที่สำคัญ เช่น ผ้าผืน ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูป ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง และเตาอบไมโครเวฟ เป็นต้น ซึ่งทางฝ่ายภูฏานมีความชื่นชอบในสินค้าของไทย เนื่องจากเห็นว่าเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ โดยภูฏานถือเป็นคู่ค้าอันดับที่ 7 ของไทยในภูมิภาคเอเชียใต้ ในขณะที่ไทยเป็นตลาดนำเข้าสินค้าที่สำคัญของภูฏาน นอกจากนี้ ยังได้มีชาวภูฏานจำนวนมากเดินทางมาประเทศไทย เพื่อเข้ารับบริการทางการแพทย์ ทำธุรกิจ และท่องเที่ยว
โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงพาณิชย์และภูฏานยังหารือถึงโครงการก่อสร้างเมืองอัจฉริยะ เกเลฟู มายฟูลเนส ซิตี้ (Gelephu Mindfulness City) บริเวณทางตอนใต้ของภูฏาน ที่เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจแห่งใหม่ โดยภายในเมืองประกอบไปด้วย การสร้างท่าอากาศยานระหว่างประเทศแห่งใหม่ โรงงานผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ เส้นทางคมนาคม การใช้พลังงานสะอาด อีกทั้งบริเวณนี้มีจุดยุทธศาสตร์ติดกับประเทศอินเดีย โดยในปัจจุบันไทยมีนโยบายสนับสนุนนักธุรกิจและนักลงทุนให้เข้าไปประกอบธุรกิจในต่างประเทศ ทั้งนี้ ได้มีการพูดคุยถึงโอกาสในการลงทุนกับทางฝ่ายภูฏาน เพื่อแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์จูงใจ และกฎระเบียบที่เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจและการลงทุนในโครงการดังกล่าว
“นายกฯ ให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างโอกาสการค้าและการลงทุนให้แก่ผู้ประกอบการไทย รวมถึงการสร้างพันธมิตรทางการค้ากับทุกพันธมิตร รวมถึงภูฏาน พร้อมพัฒนาความสัมพันธ์ไทย-ภูฏาน ในหลากหลายมิติ ส่งเสริมความร่วมมือ และแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกัน มุ่งมั่นทำงานเพื่อประเทศและพี่น้องชาวไทย เพื่อนำไปสู่การมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น จากการเจรจา FTA และผลักดันเป้ามูลค่าทางการค้าระหว่างกันให้เพิ่มสูงขึ้น” นายชัย กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' สวมชุดนายกองใหญ่ ลงพื้นที่อีสานใต้ ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย สวมชุดนายกองใหญ่ ออกเดินทางไปยัง 3 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา
'อนุทิน' เปิดเพจหาเสียง ประเดิมแจง 3 เหตุไม่ขึ้นเวทีดีเบต
'อนุทิน' เปิดเพจหาเสียง ประเดิมแจงเหตุไม่ร่วมเวทีดีเบต ร่ายยาว 3 ข้อจำกัด เลือกใช้ช่องทางนี้สื่อสารประชาชนแทน
นายกฯ แยกเรื่องถกจีบีซี กับทหารขาขาดราย 9 ชี้หน้าที่กองทัพตอบโต้
นายกฯ ชี้ทหารเหยียบทุ่นระเบิดขาขาดรายที่ 9 คนละเรื่องกับประชุมจีบีซี ส่วนการตอบโต้เป็นหน้าที่กองทัพ
'นักประวัติศาตร์' ร่อนจม.เปิดผนึกถึงนายกฯแนะ 6 ขั้นตอน ขอคืน 'ปราสาทพระวิหาร'
นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา โพสต์เฟซบุ๊ก เผยแพร่ จดหมายเปิดผนึก เรื่อง ขอคืนปราสาทพระวิหารและใช้ข้อสงวนสิทธิ์ เรียน ฯพณฯท่านนายกรัฐมนตรี มีใจความว่า
เปิดเบื้องลึก! ทำไม 'ภูมิใจไทย' มีแคนดิเดตนายกฯแค่ 2 คน
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "ทำไม ภูมิใจไทย มีแคนดิเดตเพียง 2 คน" โดยระบุว่า
นายกฯ นั่งหัวโต๊ะดึง 4 กระทรวงแก้เผาอ้อยและพืชไร่
นายกฯ นั่งหัวโต๊ะลงนาม 4 กระทรวง ควบคุมการเผาอ้อยและพืชไร่ ป้องกันปัญหาฝุ่น PM 2.5 ด้านกระทรวงอุตสาหกรรม โชว์ผลงานเผาอ้อยเป็น 0% คืนอากาศบริสุทธิ์ให้ประชาชนช่วงปีใหม่

