นายกฯ หารืออายิโนะโมโต๊ะพร้อมหนุนไทยเป็นศูนย์กลางสินค้าเกษตรและอาหาร

นายกฯ หารือบริษัท Ajinomoto เชื่อมั่นศักยภาพของไทย พร้อมลงทุนไทยต่อเนื่อง ร่วมสนับสนุนไทยสู่การเป็น Agriculture and Food Hub อย่างยั่งยืน

23 พ.ค.2567 - เวลา 14.25 น. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงโตเกียว ซึ่งเร็วกว่ากรุงเทพฯ 2 ชั่วโมง) ณ ห้อง Sky Room ชั้น 24 โรงแรม The Peninsula Tokyo นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พบหารือกับผู้บริหารบริษัท Ajinomoto Co., Inc.

บริษัท Ajinomoto Co., Inc. เป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องปรุงรสและอาหาร อาหารแช่แข็ง ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและอื่น ๆ โดยแบ่งกิจกรรมทางธุรกิจเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.ธุรกิจอาหาร ที่มีการนำ AminoScience ไปใช้กับเครื่องปรุงรสและอาหาร และอาหารแช่แข็ง และ 2.ธุรกิจ AminoScience ที่มีการนำ AminoScience ไปใช้กับผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและอื่น ๆ โดยมีบริษัทในเครือ 135 แห่ง ตั้งอยู่ใน 36 ประเทศทั่วโลก และมีโรงงานผลิต 117 แห่งใน 24 ประเทศทั่วโลก โดยบริษัทมีการดำเนินธุรกิจผงชูรส โรงงานผงปรุงรสอาหารในจังหวัดกำแพงเพชร สระบุรี พระนครศรีอยุธยา สมุทรปราการ ปทุมธานี และมีสํานักงานภูมิภาคในกรุงเทพฯ

บริษัทได้หารือ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนายกรัฐมนตรี และได้นำเรียนแนวทางการประกอบธุรกิจในประเทศไทย บริษัทฯ ยืนยันให้ความสำคัญกับการประกอบธุรกิจ ลงทุนในไทย ชื่นชมและรู้สึกขอบคุณเกษตรกรมันสัมปะหลังไทยที่เป็นส่วนสำคัญในวัตถุดิบการผลิตของผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท และมั่นใจว่าไทยมีศักยภาพสำหรับบริษัทในการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง

นายกรัฐมนตรียินดีที่บริษัทมีการดำเนินธุรกิจและจัดตั้งโรงงานในไทยเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีการผลักดันโครงการดีๆ ชื่อ Thai Farmer Better Life Partner Project มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการดำเนินการของบริษัทฯ ทำให้คนไทยมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จนผลประกอบในไทยถือว่าสูงที่สุด เมื่อเทียบกับทั่วโลก ทั้งนี้ นอกจากการลงทุนในไทยแล้ว บริษัทยังให้ความสำคัญกับการร่วมพัฒนาคุณภาพผลผลิต (มันสำปะหลัง) ของเกษตรกรไทยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มผลิตภาพและคุณภาพของผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งจะนำมาสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทย โดยนายกรัฐมนตรีชื่นชมโครงการดังกล่าว เชื่อมั่นว่าจะเป็นพื้นฐานสนับสนุนไทยไปสู่การเป็น Agriculture and Food Hub อย่างยั่งยืน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'นักประวัติศาตร์' ร่อนจม.เปิดผนึกถึงนายกฯแนะ 6 ขั้นตอน ขอคืน 'ปราสาทพระวิหาร'

นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา โพสต์เฟซบุ๊ก เผยแพร่ จดหมายเปิดผนึก เรื่อง ขอคืนปราสาทพระวิหารและใช้ข้อสงวนสิทธิ์ เรียน ฯพณฯท่านนายกรัฐมนตรี มีใจความว่า

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะดึง 4 กระทรวงแก้เผาอ้อยและพืชไร่

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะลงนาม 4 กระทรวง ควบคุมการเผาอ้อยและพืชไร่ ป้องกันปัญหาฝุ่น PM 2.5 ด้านกระทรวงอุตสาหกรรม โชว์ผลงานเผาอ้อยเป็น 0% คืนอากาศบริสุทธิ์ให้ประชาชนช่วงปีใหม่