จับมือเอเปกท่องเที่ยวไทยไม่เหมือนเดิม! ร่วมเดินหน้ารับมือกับความท้าทาย และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกอย่างยั่งยืน
06 มิ.ย.2567 - นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 5-9 มิถุนายน 2567 สาธารณรัฐเปรู ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวเอเปก ครั้งที่ 12 ขึ้น เพื่อให้ประเทศสมาชิกรับทราบและรับรองผลการดำเนินงานภายใต้แผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวเอเปก ปี พ.ศ. 2563-2567 รวมทั้งมอบนโยบาย และกำหนดทิศทางการดำเนินงานในสาขาความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยในการประชุมจะได้ร่วมกันรับรองร่างเอกสาร 3 ฉบับ ซึ่งที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (4 มิ.ย. 2567) ได้มีมติเห็นชอบและอนุมัติแล้ว ได้แก่ 1.ร่างถ้อยแถลงการประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวเอเปก ครั้งที่ 12 2.ร่างข้อเสนอเชิงนโยบายหลักการในการป้องกันและลดการสูญเสียอาหารและขยะอาหารในภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก และ 3.ร่างแนวคิดโครงการแพลตฟอร์มเอเปกเพื่อเผยแพร่โอกาสความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก
รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ร่างถ้อยแถลงฯ มีสาระสำคัญเป็นการเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการใช้นวัตกรรมใหม่ เพื่อรับมือกับความท้าทายในภาคการท่องเที่ยวในปัจจุบัน รวมถึงการดำเนินธุรกิจอย่างเป็นทางการและการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ในขณะที่ ร่างข้อเสนอเชิงนโยบายฯ เป็นโครงการวิจัยที่จัดทำขึ้นโดยสาธารณรัฐเปรู ซึ่งได้ระบุเกี่ยวกับปัญหาของการทำอาหารที่เกี่ยวข้องกับการสร้างขยะอาหารในภาคการท่องเที่ยว และได้มีข้อเสนอแนะ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนหลักการของเอเปคให้เป็นรูปธรรม และร่างแนวคิดโครงการฯ ที่มีเป้าหมายในการสร้างแพลตฟอร์มการจัดการข้อมูลด้านการท่องเที่ยว เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในภาคการท่องเที่ยว อำนวยความสะดวกในการทำงานร่วมกัน การถ่ายทอดความรู้ การแลกเปลี่ยนโอกาสด้านความร่วมมือที่มีอยู่ และการจัดการทรัพยากรที่มีประสิทธิภาพ เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก
ทั้งนี้ ร่างเอกสารฯ จำนวน 3 ฉบับ เป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันของเขตเศรษฐกิจเอเปก เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก และเป็นการแสดงถึงความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวในการฟื้นฟูการท่องเที่ยว และกระตุ้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยและภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก อย่างครอบคลุมและยั่งยืน รวมถึงยังเป็นการสนับสนุนบทบาทเด่นของประเทศไทยในเวทีนานาชาติด้วย
“โควิด-19 ได้เปลี่ยนแปลงการท่องเที่ยวในหลายทิศทาง ทั้งแนวความคิดที่มีต่อการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน และใส่ใจรับผิดชอบ และรูปแบบที่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมมากขึ้น ซึ่งถือเป็นแนวทางหลักของการประชุมนี้ที่เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการใช้นวัตกรรมใหม่ เพื่อรับมือกับความท้าทายในปัจจุบัน ซึ่งรัฐบาลโดยยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมร่วมเดินหน้ากับเอเปกส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน สร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชนที่เชื่อมโยงกับวัฒนธรรม วิถีชีวิต และประเพณี สร้างงาน กระจายรายได้ให้แก่ท้องถิ่น” นางรัดเกล้ากล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลเปิดช่องทางพิเศษ ปิดความลับผู้แจ้งจับครูละเมิดทางเพศในสถานศึกษา
รัฐบาลเปิดช่องทางพิเศษปกปิดความลับให้ผู้แจ้งปลอดภัย แจ้งจับหากพบครู-บุคลากรทางการศึกษาล่วงละเมิดทางเพศ ลงโทษวินัยขั้นร้ายแรงถึงที่สุด
รัฐบาลเปิด 5 เขตดังจัดกิจกรรมสมรสวันวาเลนไทน์
วันวาเลนไทน์ปีนี้เปิด 5 เขตดังจดทะเบียนสมรส สุดโรแมนติก 'บางรัก' ยังฮิต คู่รักแห่จองคิวแน่น พร้อมกิจกรรมสุดหวานสร้างประสบการณ์สุดประทับใจ
ก.แรงงานกวาดล้างครูเถื่อนต่างชาติ
ก.แรงงานออกกวาดล้างครูเถื่อนต่างชาติ ลอบใช้วีซ่าท่องเที่ยว แอบรับจ๊อบสอนในไทย เตือนทั้งผู้จ้างและครูมีโทษทั้งจำและปรับหนักส่งกลับประเทศ
รัฐบาลตีปี๊บจับ 'นอมินี-บัญชีม้า' แล้ว 820 คดี!
รัฐบาลลุยปราบ 'นอมินี-บัญชีม้า' จับแล้ว 820 คดี ยอดความเสียหายกว่า 1.25 หมื่นล้าน สั่งเดินหน้าเอ็กซเรย์ทั่วประเทศ หลังพบกว่า 2 แสนบัญชี
รัฐบาลชวนคู่รัก 'วิวาห์ใต้สมุทร-จดทะเบียนเกาะกระดาน'
รัฐบาลชวนคู่รักแต่งงาน 2 อีเวนต์ ใต้ทะเลหน้าถ้ำมรกตและชายหาดดีที่สุดในโลกที่เกาะกระดาน 13-15 ก.พ. นี้ ในงานเทศกาลวิวาห์ใต้สมุทร 2025 จ.ตรัง
รบ.คาดเงินสะพัดวันมาฆบูชาสูงสุดในรอบ 4 ปี
รัฐบาลเชิญชวนร่วมทำบุญ 'วันมาฆบูชา' คาดเงินสะพัดกว่าสูงสุดในรอบ 4 ปีกว่า 2,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนกว่า 3%